Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มกราคม 2531








 
นิตยสารผู้จัดการ มกราคม 2531
"วิธี "ทำความสะอาด" เงินมาเฟีย"             
 


   
search resources

ซัลวาดอร์ อเมนโดลิโต




ซัลวาดอร์ อเมนโดลิโต (SALVATORE AMENDOLITO) ได้รับส่วนแบ่งนิดหน่อยในเครือข่ายพิซซ่า (PIZZA CONNECTION) ซึ่งเป็นกิจการค้ายาเสพติดมูลค่า 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เขาพลิกแพลงให้เงินมาเฟียจำนวน 10 ล้านเหรียญกลายเป็นเงินสุจริตแล้วขยักส่วนร้อยละ 5 ของเขาเอาไว้ตามระเบียบ เมื่อถูกจับกุมอเมนโดลิโตให้การสารภาพ เจ้าพ่อของเขาเกิดไม่สบอารมณ์

เงินที่ซัลวาดอร์ อเมนโดลิโตรับไปแปลงสภาพให้มาเฟียถูกส่งมาในกระเป๋าหนังที่วางไว้ตามหัวมุมถนน และในกล่องของชำจากภัตตาคาร กระเป๋าหนังใบหนึ่งที่เขาไปรับจากหัวถนนสายเปลี่ยวแถวย่านควีนส์ (QUEENS) ในนิวยอร์กซิตี้ (NEW YORK CITY) บรรจุธนบัตรใบย่อยจำนวนกว่า 1 ล้านดอลลาร์ เงินซึ่งเป็นที่ยอมรับของธนาคารและสถาบันการเงินที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกหลายแห่ง เมอร์ริลล์ ลินซ์ (MERRILL LYNCH) และ อี. เอฟ. ฮัตตัน (E.F. HUTTON) แห่งวอลล์สตรีท (WALL STREET) เข้าไปเกี่ยวข้องอยู่ด้วยโดยไม่เจตนา

ธนบัตรรัดรวมกันเป็นปึกคือผลกำไรจากกิจการซึ่งคงทำรายได้งามที่สุดของโลกธุรกิจค้ายาเสพติดของเหล่ามาเฟีย กระเป๋าใส่เงิน 1 ล้านดอลลาร์ที่ซัลวาดอร์ อเมนโดลิโตรับมาเป็นเพียงเศษเล็กน้อยจากจำนวนทั้งสิ้น 1.6 พันล้านดอลลาร์ของเครือข่ายมาเฟียซิซิเลี่ยนและอเมริกันซึ่งรู้จักกันในนาม "เครือข่ายพิซซ่า"

บุรุษร่างเตี้ยล่ำ ผมเกรียน นัยน์ตาเล็กรี ผู้ส่งกระเป๋าหนังมาวางรอเขานั้นคือซัลวาดอร์ คาตาลาโน (SALVATORE CATALANO) บุคคลนี้เป็นที่รู้จักในฉายา "โตโต้" (TOTO) และเบเคอร์ (THE BAKER) ด้วย คาตาลาโนคือหัวหน้ามาเฟียซิซิเลียนผู้อำมหิตยิ่ง ซึ่งวางตนราวกับเอกอัครราชทูตแห่งนิวยอร์กในหมู่องค์การมาเฟียของซิซิลีและสหรัฐอเมริกา

เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นกับอเมโดลิโตที่อิตาลีในปี ค.ศ. 1980 ถึงจะอพยพเข้ามาอยู่ในสหรัฐอเมริกาแล้วก็เป็นอาติเลียนโดยกำเนิด และเป็นผู้นำในโบสถ์นิกายมอร์มอนแห่งอิตาลี ดำรงตำแหน่งถึงขั้นบิชอป เมื่อมาถึงยังสหรัฐอเมริกาเขากลับเบนเข็มไปประกอบธุรกิจค้าปลาระดับข้ามชาติ แม้ว่าจะไม่น่าเป็นไปได้กิจการนี้ก็ข้องเกี่ยวกับการขนส่งปลาแช่แข็งไปทางอากาศจากนิวยอร์กซิตี้สู่อิตาลีและกรีซ ทางอิตาลีเขามีหุ้นส่วนหนึ่งคือซัลวาดอร์ มินิอาตี (SALVATORE MINIATI) ซึ่งดำเนินกิจการบริษัทการเงินชื่อฟินาเกต์ (FINAGEST)

บริษัทฟินาเกต์ชำนาญเป็นพิเศษในบริการรับถ่ายโอนเงินตราจากเศรษฐีอิตาเลียนไปยังประเทศข้างเคียงที่มั่นคงอย่างเช่นธนาคารสวิส เมื่อฤดูใบไม้ผลิปี 1980 มินิอาติโทรศัพท์ไปขอร้องอเมนโดลิโตที่นิวเจอร์ซี ให้ช่วยอำนวยความสะดวกในการถ่ายโอนเงินมาจากนิวยอร์ก ลูกค้ารายนี้คือเศรษฐีอิตาเลียนหนุ่มผู้พำนักในซิซิลีนามว่าโอลิวิเอโร ทักโนลี (OLIVERO TOGNOLI) บุตรของนักธุรกิจซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปคือ ลูซิอาโน ทักโนลี (LUCIANO TOGNOLI) กิจการของตระกูลนี้ไดแก่โรงงานเหล็กเบรสเซีย (BRESCIA IRON) และอุตสาหกรรมเหล็กกล้า ผลประโยชน์ของตระกูลมีกระจายอยู่ทั่วจากอิตาลีไปจนถึงแอฟริกาและเวเนซุเอเลา ทักโนลีดำเนินกิจการสาขาในซิซิลี ได้แก่ เฟอร์เรีย แอคเซียรี ซุด (FERRIERE ACCIAIERTE SUD) อเมโดลิโตเกิดสนใจเนื่องจากธุรกิจค้าปลาของเขาไม่ได้รุ่งเรืองอะไรนัก เขาจึงติดต่อไปที่ทักโนลี เขาเคยได้ยินกิตติศัพท์ของตระกูลนี้ ซึ่งมีชื่อเสียงน่าประทับใจ

"ทักโนลีบอกว่าเขามีลูกค้ารายหนึ่งในอิตาลี" อเมนโดลิโตเล่า "เขาต้องการเงินทุน 9 ล้านดอลลาร์ไปสร้างโรงแรมแล้วเขายังลงทุนทำร้านขายพิซซ่าหลายแห่งในอเมริกาด้วย" ทักโนลีอธิบายว่าต้องการเงินกู้สนับสนุนโครงการ และเมื่อโครงการลุล่วงสมบูรณ์แล้วก็จะชำระเงินคืนแก่แหล่งเงินทุนในซิซิลี ปัญหาทางการเงินเช่นนี้ฟังดูแปลก ๆ สำหรับคนทั่วไป อเมนโดลิโตอ้างว่าเขาถามอเมนโดลิโตแล้วว่า ทำไมแหล่งเงินทุนในอเมริกาจึงไม่อาจดำเนินการโอนเงินเองได้" เขาตอบผมว่า "ทำอย่างนั้นไม่ได้เพราะว่ามันเป็นเงินสด และในกรณีที่เป็นเงินสดแล้ว พวกนั้นต้องทำรายงานเสนอ IRS (INTERNAL REVENUE SERVICE) ซึ่งพวกเขาไม่ต้องการจะทำ"

อเมนโดลิโตเข้ามาอยู่ในวงธุรกิจประเภทที่ห้ามตั้งคำถามมากเกินไปเสียแล้ว เขายอมรับข้อเสนอนั้น ส่วนข้อตกลงน่ะหรือ ค่าป่วยการร้อยละ 1 - คิดเป็นเงินสด 9 หมื่นดอลลาร์สำหรับการยักย้ายเงินก้อนนั้น แล้วอเมนโดลิโตก็ได้รับหมายเลขโทรศัพท์ของภัตตาคารแห่งหนึ่งในนิวเจอร์ซี ชื่อภัตตาคารโรมา (ROMA RESTAURANT) เจ้าของคือ แฟรงค์ คัสโตรโนโว (FRANK CASTRONOVO) ทั้งสองเข้ากันได้ดี ดื่มกาแฟด้วยกัน สนทนากันเป็นภาษาอิตาเลียน อเมนโดลิโตใจจดใจจ่อจะขยายแผนการถ่ายโอนเงินที่เขาวางเอาไว้ เขาบอกคัสโตรโนโวว่า เขาวางแผนจะหลบเร้นตัวให้ปลอดจากการตรวจสอบของ IRS โดยการแลกเงินสดเป็นเช็คของธนาคารรัฐบาลในวงเงินไม่เกิน 1 หมื่นดอลลาร์ (เรียกกันว่า "แคชเชียร์เช็ค" ซึ่งเทียบได้กับดราฟท์ของธนาคาร วงเงิน 1 หมื่นดอลลาร์เป็นอัตราที่กำหนดไว้สำหรับการโอนย้ายเงินที่ไม่ต้องเปิดเผยต่อ INTERNAL REVENUE SERVICE)

แล้วแคชเชียร์เช็คที่แลกมาก็จะถูกส่งเข้าบัญชีเงินฝากตามธนาคารต่าง ๆ และโยงใยไปสู่บัญชีเงินในสวิส ตามรายละเอียดของทักโนลีจากอิตาลีต่อไป คัสโตรโนโวตอบมาว่า "ก็ดีหรอก แต่ผมไม่ได้สนใจขั้นตอนทั้งหลายนั่นหรอก เพราะผมอยากจะรู้แค่ว่าคุณเอาเงินไปแล้ว และพวกนั้นเขาจะแจ้งผมมาจากอิตาลีทีหลังเองว่า เขาได้รับเงินเรียบร้อย เมื่อทุกอย่างสำเร็จไปแล้ว"

อีก 8 สัปดาห์ต่อมา คัสโตรโนโวส่งเงินจำนวนกว่า 3,490,000 ดอลลาร์มาให้ เงินก้อนนี้อัดไว้ในกล่องกระดาษแช่แข็งที่ใช้ใส่เหล้า ขนมาไว้ในรถสเตชั่นวากอนของอเมนโดลิโตที่จอดรอแถวคลังสินค้าข้าง ๆ ภัตตาคารโรมา อเมนโดลิโตตระหนักในฉับพลันนั้นว่า เงินจำนวนนี้มหาศาลเกินกว่าจะฉ้อฉลขนย้ายให้หมดโดยการแลกเป็นแคชเชียร์เช็คได้ ตามที่ผู้ช่วยอัยการผู้รับผิดชอบฟ้องคดีนี้กล่าวในกาลต่อมาว่า "เขาไม่มีเวลาพอในวันนั้น หรือไม่เช่นนั้นก็ไม่มีธนาคารนิวยอร์กมากแห่งพอ…"

อเมนโดลิโตจึงเปลี่ยนวิธีการ เขาย้ายเงินมาใส่กระเป๋าหนังของเขา จองตั๋วเที่ยวบินพาณิชย์สำหรับตัวเอง แล้วหิ้วเงินสดไปยังเมืองนัสเซา (NASSAU) ในบาฮามาส์ เขาเข้าพบนายธนาคารผู้ให้ความสะดวกยิ่งคนหนึ่ง คือ ปีเตอร์ อัลบิสเซอร์ (PETER ALBISSOR) ซึ่งเป็นผู้จัดการอยู่ที่ BSI (BANCA SWIZZERA ITALIANA) การดำเนินงานที่บาฮามาส์เป็นไปอย่างคล่องตัว ขั้นตอนต่อจากที่นัสเซาก็คือการจัดการโอนข้ามเครือข่ายไปยังธนาคารผู้รับในสวิตเซอร์แลนด์ เงินก้อนนี้ถูกส่งถึง BSI ในเมืองเมนดริซิโอ (MENDRISIO) เข้าบัญชีหมายเลข 27971 ชื่อบัญชี "สเตฟาเนีย" (STEFANIA) และส่งถึงเครดิทซุยส์ (CREDIT SUISSE) ในเบลลินโซนา (BELLINZONA) บัญชีหมายเลข 871 ชื่อบัญชี "สมาร์ท" (SMART)

พอกลับจากบาฮามาส์ อเมนโดลิโตก็ได้รับโทรศัพท์จากมินิอาตีในมิลานอีกครั้ง คราวนี้เขาแนะนำให้อเมนโดลิโตติดต่อกับบุคคลผู้ไม่อาจเผยนามทางโทรศัพท์ได้ อเมนโดลิโตได้หมายเลขโทรศัพท์ของร้านแต่งผมในย่านควีนส์ ขั้นตอนปฏิบัติก็เพียงหมุนเลขหมายนั้น ถามหาชื่อ "ซัล" (SAL) ซึ่งตามปรกติไม่ได้พักอยู่ที่นั่น แต่จะโทรศัพท์เรียกกลับมา การนัดหมายถูกกำหนดขึ้น ซัลผู้มาพร้อมด้วยผู้คุ้มกันจะส่งมอบกระเป๋าหนังบรรจุเงิน 1.54 ล้านดอลลาร์ ณ หัวถนนย่านควีนส์ อเมนโดลิโตไม่ค่อยพึงใจกับการติดต่อกันตามมุมถนนนัก เขาอุทธรณ์ต่อทักโนลีที่อิตาลี แต่ทักโนลีก็ทำให้เขาอุ่นใจและยืนยันว่า ซัลเป็นบุคคลที่เชื่อถือได้อย่างยิ่ง

ธุรกิจดำเนินไปราบรื่นดีจนซัลวาดอร์ อเมนโดลิโตตัดสินใจเลิกกิจการค้าปลาไปเสีย แล้วเปลี่ยนมาดำเนินงานให้คำปรึกษาด้านการเงินข้ามชาติอย่างเต็มตัว เขาตั้งบริษัท OBS (OVERSEAS BUSINESS SERVICES) ณ ทำเลเข้าทีที่ 575 ถนนเมดิสัน บริการของเขาเป็นที่ชื่นชอบกันในอิตาลีด้วย เขาได้รับคำเชิญจากโอลิวิเอโร ทักโนลีให้เข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองสังสรรค์ที่ซิซิลี เปิดแชมเปญฉลองกันที่ภัตตาคารริมน้ำในปาเลอโม (PALERMO) อเมนโดลิโตได้รับการปรนเปรอในฐานะแขกผู้ทรงเกียรติคนหนึ่ง มีแขกแต่งกายโอ่อ่านั่งอยู่เต็มที่โต๊ะ 2 ตัว ในหมู่บุคคลเหล่านั้นมีเศรษฐีชาวซิซิเลียนนาม ลีโอนาร์โด เกรโค (LEONARDO GRECO) ผู้มีบทบาทอยู่ในวงการธุรกิจเหล็กกล้าเช่นกัน

อเมนโดลิโตเข้ากับเกรโคได้ดี เกรโคเอ่ยเป็นนัยว่าตัวเขาอาจมีปัญหาบางประการเกี่ยวกับวีซ่าเดินทางเข้าสหรัฐอเมริกา อเมนโดลิโตก็ไวพอที่จะให้ความมั่นใจแก่เขาและเสนอตัวช่วยเหลือไม่ว่ากรณีใดที่ตนพอทำให้ได้ในอเมริกา นั่นเป็นการติดต่อสัมพันธ์ที่ไปได้สวยทีเดียว ลีโอนาร์โด เกรโคเป็นหนึ่งในมาเฟียระดับนำที่ทรงอำนาจที่สุดในซิซิลี

เกรโคผู้อยู่ในตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มบาเกเรีย (BAGHERIA FAMILY) มีโยงใยสัมพันธ์กับพรรคคริสเตียนเดโมแครทในอิตาลี กับนักการเงิน ตลอดจนนักธุรกิจท้องถิ่น เขาร่วมผลประโยชน์ทางธุรกิจอยู่กับทักโนลีหลายอย่าง รวมทั้งคลังสินค้าประเภทเหล็ก แต่ว่าธุรกิจส่วนที่ทำกำไรท่วมท้นที่สุดได้แก่การค้าเฮโรอีน เกรโคควบคุมการจัดหาวัตถุดิบมอร์ฟีนที่ส่งมาทางเรือจากตุรกี และคุมห้องปฏิบัติการสังเคราะห์ลับ ซึ่งหลายแห่งอยู่ที่บาเกเรีย ห่างออกไปจากปาเลอโมไม่กี่ไมล์

ทันทีที่กลับจากซิซิลี อเมนโดลิโตก็แจ้งแก่ทักโนลีว่า เขาขอขึ้นค่าป่วยการเป็นร้อยละ 5 เนื่องจากความเสี่ยงภัย การหมุนเงินไม่ทัน ค่าธรรมเนียมการนับเงินสำหรับธนาคาร และค่าใช้จ่ายสิ้นเปลืองอื่น ๆ ทักโนลียอมตกลง และกำชับอเมนโดลิโตว่าเขาต้องรับผิดชอบการรับส่งเงินในโอกาสต่อ ๆ ไปให้ดี แล้วทักโนลีก็จากไปยังเวเนซุเอลา

ถึงอเมนโดลิโตจะยอมรับว่า ขณะนี้เขาตกเป็นผู้ต้องสงสัยอยู่ เขาก็ยังยืนยันในความคิดที่ว่า เงินพวกนี้เป็นส่วนหนึ่งของการหลบเลี่ยงภาษี เขาอ้างว่าตนเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่า เงินที่ได้รับมอบมาดำเนินการเป็นเพียงขั้นตอนหนึ่งของกิจการค้าในเครือของร้านขายพิซซ่า

เรื่องสารพัดล้วนถูกกุขึ้นได้ตามประสานักพลิกผันเงิน เพื่อสนันสนุนข้ออ้างว่าพวกเขามีเจตนาสุจริต เขาคิดไม่ถึงว่าเงินเหล่านี้มีส่วนพัวพันกับยาเสพติด เจ้าหน้าที่สอบสวนรับฟังข้อแก้ตัวทำนองนี้กันจนเบื่อแล้ว และไม่นึกจะเชื่อถือเอาเลย แต่ยากจะพิสูจน์ให้เป็นอื่นไปได้ แม้อัยการจะสามารถตั้งข้อกล่าวหานักพลิกแพลงเงินพวกนี้ว่ามีส่วนรู้เห็นเป็นใจเต็มที่ได้ แต่การหาหลักฐานสำคัญ ๆ มายืนยันนั้นลำบากมาก ทั้งที่รู้แก่ใจว่าบุคคลเหล่านั้นล้วนรู้แหล่งที่มาของเงินกันอยู่เต็มอก

อเมนโดลิโตเริ่มใช้ OBS เป็นรากฐานในการปรับปรุงธุรกิจยักย้ายเงินให้มีระเบียบแบบแผน เขาจ้างผู้คุ้มกันและคนขับรถ จัดซื้อตู้นิรภัยและสัญญาณกันขโมยมาใช้ประจำสำนักงาน รวมทั้งเครื่องนับเงินอัตโนมัติด้วย เขาเปิดบัญชีเพิ่มขึ้นอีก 3 แห่งในเบอร์มิวด้าที่ธนาคารเบอร์มิวดา (BANK OF BERMUDA) ธนาคารบัตเตอร์ฟิลด์ (BANK OF BUTTERFIELD) และธนาคารบาร์เคลย์ (BANK OF BARCLAYS) ส่วนในบาฮามาส์เขาใช้บริการของธนาคารโนวาสโกเตีย (BANK OF NOVA SCOTIA) ธนาคารรอยัลออฟแคนาดา (ROYAL BANK OF CANADA) และธนาคารบาร์คเลย์ทุกธนาคารตั้งอยู่ที่เมืองนัสเซา ครั้งเดียวที่เขาเริ่มวิตกก็คือ คราวที่เขาหยุดแวะที่สนามบิน เพื่อเตรียมที่จะขึ้นเครื่องไปยังบาฮามาส์ เขาถูกขอให้กรอกแบบฟอร์มการเคลื่อนย้ายเงินจำนวน 5 แสนดอลลาร์ ซึ่งเขาจำต้องทำโดยไม่อาจเลี่ยงได้ อเมนโดลิโตเปลี่ยนแผนอีกครั้ง ทีนี้เขาเช่าเครื่องไอพ่นเลียร์ (LEAR)

ธนาคารในเบอร์มิวด้าอำนวยความสะดวกอย่างยิ่ง ขนาดธนาคารบัตเตอร์ฟิลด์ถึงกับจัดตู้นิรภัยมารับขนเงินจากสนามบินตรงไปยังห้องเก็บเงินของธนาคารที่ตำบลแฮมิลตัน แต่สถานการณ์ในบาฮามาส์กลับไม่ชอบมาพากล อเมนโดลิโตกล่าวว่าตัวเขาต้องตะลึงเมื่อประสบกับการฉ้อโกงที่นั่น พนักงานรับจ่ายเงินจงใจนับธนบัตรผิดพลาดและเจตนาเม้มเงินเข้ากระเป๋าตัวในขั้นตอนนั้นเอง การขยายงานออกไปในวงกว้างย่อมเกินกำลังผู้ดำเนินการโดยลำพัง ทางเดียวที่จะขจัดความบกพร่องเช่นนี้ได้ก็คือ ต้องหาผู้คุมระดับท้องถิ่น เมื่อแวะไปที่บาฮามาส์คราวหนึ่ง อเมนโดลิโตมีโอกาสรู้จักกับเดห์ตัน เอ๊ดเวิร์ด (DEIGHTON EDWARDS) เจ้าของบริษัทนิวโพรวิเดนซ์ฟิชคอมพานี แอนด์ไอซ์แลนด์ซีฟู้ดส์ (NEW PROVIDENCE FISH COMPANY AND ISLAND SEAFOODS) คนผู้นี้รับรองจะให้การคุ้มครองดูแลงานโดยรัดกุม ทั้งยังเสนอลู่ทางโกยเงินให้มากกว่าเดิมโดยลงทุนในกิจการประมง อเมนโดลิโตร่วมหุ้นไปเป็นเงิน 2 แสน 5 หมื่นดอลลาร์ ปัญหาประการเดียวก็คือ เงินนั้นเป็นเงินของโอลิวิเอโร ทักโนลี ซึ่งเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์แทนกลุ่มมาเฟียซิซิเลียน และอเมนโดลิโตไม่เคยได้เงินก้อนนั้นกลับคืนมาอีกเลย

อเมนโดลิโตเองก็อยู่ระหว่างวางโครงการส่วนตัว ตั้งบริษัทชื่ออิตาเลียพรีเซนต้า (ITALIA PRESENTA) ดำเนินกิจการในฐานะบริษัทส่งออกอาหาร ของที่ระลึก และผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ จากอิตาลีไปโดยรอบชายฝั่งทะเลคาริบเบียน โดยเริ่มต้นจากเขตการค้าเสรีที่ไมอามี่ ตามทรรศนะของอเมนโดลิโตแล้วกิจการนี้จะเป็น "การริเริ่มอันสำคัญในวงอุตสาหกรรมอิตาเลียน ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยการส่งออกไปยังทั่วทุกมุมโลก"

ผู้สนับสนุนด้านการเงินโดยไม่ได้ตั้งใจอีกวาระหนึ่งได้แก่ทักโนลี และที่สุดก็คือหัวหน้ามาเฟีย-ลีโอนาร์โด เกรโค นั่นเอง เมื่อการจ่ายและยักย้ายโอนเงินซบเซาลงไป โอลิวิเอโร ทักโนลีก็เริ่มวิตก อเมนโดลิโตเป็นบุคคลผู้สามารถเจรจาปกป้องผลประโยชน์ส่วนตัวไว้ได้อย่างไม่เคอะเขินในทุกสถานการณ์ บุคลิกภายนอกของเขาผสานลวงตาไว้ด้วยความมีเสน่ห์ ความซื่อ และความเจนจัด เขาจำเป็นต้องใช้คุณสมบัติเหล่านี้ทุกอณูไปเจรจาเอาตัวรอดจากสภาพการณ์ขณะนั้นให้ได้ เขายักย้ายถ่ายเทเงินจากทักโนลีด้วยข้อแก้ตัวต่าง ๆ นานามานานเป็นแรมเดือน-กินเวลาไม่น้อยไปกว่าช่วงที่เขาคาดการณ์พลาดไปในการดำเนินธุรกิจของบริษัทอิตาเลียนพรีเซนต้า เขารบเร้าทักโนลีและหมู่สมาคมในซิซิลีให้ร่วมลงทุนในบริษัทนี้ด้วยโดยไม่เลิกรา

ต่อมาเขาได้รับแจ้งว่า เขาต้องไปร่วมพบปะสังสรรค์ในซิซิลีอีกวาระหนึ่ง คราวนี้ไม่มีภัตตาคารหรูหรา ไม่มีการเลี้ยงไวน์อเมนโดลิโตติดหนี้มาเฟียซิซิเลียนอยู่ 5 แสนดอลลาร์ และพวกนั้นจะเอาคืน หุ้นส่วนคนก่อนของเขาคือมินิอาตีเริ่มสูญความมั่นใจ อเมนโดลิโตจำได้ว่า "ผมกับมินิอาติตกใจมาก เขาลงความเห็นว่าผมถูกพิพากษาถึงตายแล้ว พวกนั้นต้องกำจัดผมแน่"

โอลิวิเอโร ทักโนลีก็ตื่นกลัวเช่นกัน เขาเกรี้ยวกราดอย่างเดือดดาลตอนที่อเมนโดลิโตคุยด้วยทางโทรศัพท์ พอพบกันนักอุตสาหกรรมชาวอิตาเลียนก็ค่อยเย็นลงบ้าง เขาสงบลงไปก็จริง แต่อเมนโดลิโตสังเกตเห็นว่าเขาตัวสั่นด้วยความพรั่นพรึง ขณะที่กำลังถกเถียงกันเรื่องการโอนเงินไปยังซิซิลี ทักโนลีก็เอ่ยขึ้นว่า "คุณจะใช้เงินคืนเมื่อไหร่"

"ฟังนะ" อเมนโดลิโตตอบโต้ "ผมไม่มีเงิน นี่เป็นปัญหาของผมเอง ไม่ใช่ของคุณ คอคุณไม่ได้พาดคาเขียงหรอก พวกนั้นเขาพร้อมจะเจรจาเรื่องบริษัทอิตาเลียพรีเซนต้าของผมหรือยังล่ะ"

"พร้อมล่ะมั้ง" ทักโนลีว่า "พวกเขาเป็นผู้ตรวจสอบนะ แต่ก็อยากได้เงินด้วย"

"อย่าห่วงไปเลย" อเมนโดลิโตกล่าว เขายอมรับว่าตัวเองก็เริ่มรู้สึกหวั่นกลัวจริง ๆ ขึ้นมาแล้ว เขาเล่าย้อนไปถึงการพบปะในซิซิลีครั้งนั้น

"มีคนมารับผมไป ขึ้นรถคันแล้วคันเล่า เราเปลี่ยนรถกันหลายคราว ไปที่กระท่อมปิดหน้าต่างมิดชิด คนแรกที่ไปถึงคือลีโอนาร์โด เกรโค ผมมองเขาแล้วรู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนน่ากลัวอะไร เขายิ้มให้-ดูเป็นคนน่าคบ ทันใดหลังจากที่เขาไปถึง "เจ้านาย" ก็มา เขาเป็นคนร่างเล็กกว่า ดูมีเค้าสเปน ผมถูกแนะนำให้รู้จักเขา แล้วผมก็เริ่มต้นเจรจา ส่วนใหญ่ก็พูดอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อปูทางสำหรับ "การนัดพบทางธุรกิจ" ผมบอกพวกเขาว่า

"ฟังผมหน่อย ผมรู้ว่าการพบปะคราวนี้มีเรื่องสำคัญ 2 ประเด็น เรามาพูดถึงกิจการในไมอามี่กันก่อนเถอะ นี่เป็นโอกาสทองของคนอย่างพวกคุณ ซึ่งต้องการจะเข้ามาคุมวงการเงินเอาไว้"

เจ้าพ่อมาเฟียตื่นตัวอยู่แล้วเพราะรู้จากทักโนลีว่าสหายจากสหรัฐอเมริกาคนนี้กำลังตั้งบริษัทอิตาเลียพรีเซนต้า ดำเนินธุรกิจในเขตการค้าเสรีที่ไมอามี่ อเมนโดลิโตมีแผนอยู่แล้ว "ผมปล่อยให้พวกนั้นเชื่อว่าทุกอย่างจะจัดการให้เรียบร้อยได้ พวกเขากระตือรือร้นกันมาก ออกปากว่า "เราจะเริ่มกันได้เมื่อไหร่ล่ะ"

ความกระตือรือร้นที่จะทำธุรกิจส่งออกสินค้าไปยังไมอามี่ของพวกมาเฟีย ไม่ได้ทำให้ความใส่ใจในเรื่องเงินที่สูญไปลดน้อยลงเลย อเมนโดลิโตเอ่ยถึงประเด็นนี้ขึ้นมา

"อย่างนี้นะ มีหนี้สินอยู่ 2 ส่วน ส่วนหนึ่งเป็นเช็คที่ไม่มีเงินในบัญชี อีกส่วนเป็นเงินสด 5 แสนดอลลาร์" อเมนโดลิโตก็ให้อรรถาธิบายยืดยาวว่าเขาถูกเชือดยับเยินอย่างไรในบาฮามาส์

"นายเอ็ดเวิร์ดนั่นเป็นเรื่องของคุณ" เกรโคตอบกลับ "เราต้องการเงินส่วนของเราคืนมา" แล้วอเมนโดลิโตก็ถูกทวงถามถึงบัญชีเงินอีก 1 แสนดอลลาร์ที่ล่องหนไประหว่างผู้ส่งเงินกับผู้รับ คือ กลุ่มผู้ค้าขนสัตว์ในเนเปิลส์ อเมนโดลิโตพูดเอาตัวรอดตามแบบของเขาได้สำเร็จอีกหน เขาโทษความสับสนระหว่างกล่องเงินสด 2 กล่องที่คัสโตรโนโวเอาไปปนกันจนสับสน

"ไม่มีใครรู้ว่ามันหายไปไหน เคราะห์ดีที่คัสโตรโนโวส่งคืนมาให้ผม" อเมนโดลิโตกล่าวต่อไปว่า "เจ้าพ่อมาเฟียเหลือบมองอีก 2 คนนั้น เป็นเชิงว่า ทำไมต้องเอาเรื่องพรรณนี้มากวนใจเขาด้วยนะ ผมว่าเขาเป็นคนเข้าท่า แล้วผมก็ออกมา บรรยากาศมีแต่รอยยิ้มและมิตรภาพ"

บรรยากาศในกระท่อมฝุ่นเขรอะในท้องถิ่นห่างไกลแถวชนบทซิซิลีผ่อนคลายไป เกรโครแสดงความสนใจในบริษัทอิตาเลียพรีเซนต้าออกมานอกหน้า ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาดีดลูกคิดในสมองเรียบร้อยแล้วว่ากิจการนี้จะครอบคลุมเส้นทางเดินเรือหลัก ๆ ที่ใช้ขนถ่ายยาเสพติดได้ ตอนที่ทักโนลีกับอเมนโดลิโตกำลังจะออกจากกระท่อมเกรโครก็เรียกทักโนลีกลับเข้าไปอีก

"บอกซัลวาดอร์ให้ลืมเรื่องเงิน 1 แสนดอลลาร์นั่นไปเถอะ เราผิดพลาดกันเองแหละ"

อเมนโดลิโตกลับมายังสหรัฐอเมริกาโดยไม่เฉลียวใจเลยว่า ตอนนี้ FBI และศุลการักษ์อเมริกันกำลังตามรอยเขาอยู่ เขาโดนจับกุมที่นิวออร์ลีนส์ เมื่อ ไมค์ เฟย์ (MIKE FAHY) ตัวแทนผู้ตรวจการศุลกากรอเมริกันในแมนฮัตตันรู้ข่าวก็บินตรงมาพบเขา อเมนโดลิโตถูกตั้งข้อหาว่ากระทำการเป็นภัยต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ แต่เขายังต้องเผชิญข้อกล่าวหาที่รุนแรงยิ่งกว่านั้นอีก ได้แก่การพลิกแพลงยักย้ายเงินในขบวนการค้ายาเสพติด หลังจากรอดตัวพ้นพวกมาเฟียมาได้ บัดนี้เขาต้องเผชิญหายนะคือมีโอกาสถูกตัดสินจำคุกระยะยาว เขาจึงยื่นข้อเสนอ เขาตกลงใจให้การเป็นพยาน และกลายเป็นพยานปากสำคัญที่สุดของฝ่ายรัฐในคดีถ่ายโอนเงินล้าน ซึ่งเป็นหลักฐานรายละเอียดของการเปิดโปงเครือข่ายพิซซ่า

ขณะที่ร่างแหกำลังโรยตัวลงตะครุบนักค้าเฮโรอีนและนักพลิกแพลงเงิน เจ้าหน้าที่สอบสวนของรัฐก็ให้รู้สึกขุ่นใจอย่างยิ่งเมื่อพบว่าธนาคารสวิส ให้ความร่วมมืออย่างแข็งขันเสียยิ่งกว่าสถาบันการเงินหลายแห่งในอเมริกาเองเสียอีก FBI ขอร้องให้ทั้งเมอร์ริล ลินช์และอีเอฟ ฮัตตัน งดการแถลงข่าวตามธรรมเนียมที่เกี่ยวกับการสอบสวนของทางราชการเอาไว้ก่อน เมอร์ริล ลินช์ตกลง แต่อีเอฟ ฮัตตันไม่ยอม เจ้าหน้าที่สอบสวนคนหนึ่งยอมรับว่า "มันก็อยู่ในดุลพินิจของเขาที่จะทำได้ตามกฎหมาย" ในสถานการณ์นี้ดูเหมือนการเปิดเผยของฮัตตันไม่ได้มีผลกระทบกระเทือนการสอบสวนแต่อย่างใด พวกมาเฟียดูจะถือเอาความใส่ใจของ FBI เพียงเสมือนอุปสรรคธรรมดาสามัญในงานอาชีพเท่านั้นเอง พวกเขายังคงดำเนินธุรกิจการค้าต่อไปเรื่อย

ทุกวันนี้ ซัลวาดอร์ อเมนโดลิโตมีชื่อสมมุติ เขาไม่ได้ใส่รองเท้าหนังจระเข้ สวมสร้อยทองคำ หรือภูมิฐานอยู่ในสูทชุดหรูอีกแล้ว เขาต้องระวังไม่วางตัวให้เป็นที่สนใจ เขาดำรงชีวิตอยู่ในโลกแคบ ๆ พักตามห้องพักโรงแรมไร้ชื่อ ใช้ชื่อเท็จ แต่เขาก็ยังคงเป็นคนมองโลกในแง่ดีอย่างแก้ไม่หาย

ต้นฤดูร้อนพวกผู้นำเครือข่ายพิซซ่าจะถูกพิพากษาตัดสินแล้ว บัดนี้คณะบุคคลผู้แลกเปลี่ยนเฮโรอีนกับกระเป๋าหนังและกล่องกระดาษแข็งบรรจุเงินนับล้านดอลลาร์ กำลังจะถูกขังรับโทษระยะยาวอยู่ในอเมริกาและอาตาลี

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us