|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
DTAC จ่ายเงินปันผลหุ้นละ 1.50 บาท หลังอวดผลงานงวดสิ้นปี 51 กวาดกำไร 9.3 พันล้านบาทหรือเพิ่มเกือบ 60% ส่วนใหญ่เป็นผลจากการบันทึกกำไรจากดีพีซีและรายได้การให้บริการและค่าเชื่อมโครงข่ายสูงขึ้น ส่งผลให้ EBITDA margin โต ขณะที่มีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นตามเป้าหมาย
นายปรีย์มน ปิ่นสกุล ผู้ช่วยรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการเงินและบัญชี บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) (DTAC) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 6 ก.พ.52 ว่าบอร์ดมีมติอนุมัติการอนุมัติจ่ายเงินปันผลประจำปี อัตรา 1.50 บาทต่อหุ้น โดยหักภาษี ณ ที่จ่ายตามที่กฎหมายกำหนดแล้วเพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือหุ้นที่จะมีสิทธิได้รับเงินปันผลประจำปี ซึ่งกำหนดจ่ายเงินปันผล วันที่ 25 พ.ค.52 ดังนั้นวันที่ 13 พ.ค. 52 กำหนดให้เป็นวันกำหนดสิทธิของผู้ถือหุ้น สำหรับผู้ถือหุ้นทุกรายที่มีชื่อปรากฏในทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัทในวันดังกล่าวมีมีสิทธิได้รับเงินปันผล และวันที่ 14 พ.ค. 52 กำหนดให้เป็นวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นของบริษัท สำหรับบันทึกรายชื่อผู้ถือหุ้น เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา 225 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ทั้งนี้ เป็นผลจากที่บริษัทแจ้งงบงวดสิ้นปี 51 สิ้นสุด 31 ธ.ค. 51 พบว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 9,329.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 5,841.42 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3,487.68 ล้านบาท คิดเป็น 59.70 % แม้จำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศจะชะลอตัวลง แต่อัตราส่วนผู้ใช้บริการดังกล่าวต่อประชากรรวมยังคงผ่าน 95% ไปได้ ดีแทคมีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นสุทธิทั้งปี 2.9 ล้านราย ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แม้อัตราการขยายตัวจะลดลงช่วงปลายปี การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ใช้บริการเป็นผลจากการขยายเครือข่ายในพื้นที่ต่างจังหวัด และการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้นในส่วนของการโทรในเครือข่าย ซึ่งส่งผลให้รายได้จากการให้บริการชะลอตัว
สำหรับสถานการณ์การเมืองในประเทศที่ไม่แน่นอนและวิกฤตการเงินโลกส่งผลโดยตรงกับภาวะเศรษฐกิจในไทย ทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจอยู่ในระดับต่ำตลอดทั้งปี แต่ภาวะการแข่งขันในอุตสาหกรรมก็ยังคงไม่รุนแรงเท่ากับในอดีตเนื่องจากการเริ่มใช้การเชื่อมต่อโครงข่าย (IC) ในต้นปี 50
นอกจากนี้ เมื่อ 30 พ.ค. 51 ดีแทคได้บรรลุข้อตกลงอย่างฉันท์มิตร เพื่อเข้าทำสัญญาประนีประนอมยอมความ 3 พันล้านบาท กับ บริษัท ดิจิตอล โฟน จำกัด ( ดีพีซี ) ส่งผลให้ดีแทคบันทึกกำไรก่อนภาษีจากธุรกรรมนี้ 2.4 พันล้านบาท บวกกับปี 51 ดีแทคมีจำนวนผู้ใช้บริการสุทธิเพิ่มขึ้น ส่งผลให้จำนวนผู้ใช้บริการรวมทั้งหมดเกือบ 19 ล้านบาท ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นเพราะรายได้ค่าเชื่อมต่อโครงข่ายที่มากขึ้น สำหรับ EBITDA เพิ่มขึ้น 22.8 % จากปีก่อน ส่วนใหญ่จากการบันทึกกำไรจากดีพีซีและ 10 % หากไม่รวมกำไรจากดีพีซี เนื่องจากรายได้การให้บริการเพิ่มขึ้น และค่าเชื่อมต่อโครงข่ายสุทธิปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ EBITDA margin เพิ่ม
ส่วนต้นทุนการให้บริการเพิ่มขึ้นทั้งด้านการผลิตและต้นทุนเครือข่ายระหว่างประเทศ ส่วนต้นทุนอื่นลดลงส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและการตลาดลดลง จากค่าใช้จ่ายในการทำการตลาดสำหรับ Branding ส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่ม และค่าสำรองหนี้สงสัยจะสูญและค่าเสื่อมราคาตัดจำหน่ายลดลง
|
|
|
|
|