Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มกราคม 2531








 
นิตยสารผู้จัดการ มกราคม 2531
"เครือซิเมนต์ไทย ช้างก็ฉุดไม่อยู่"             
 


   
www resources

โฮมเพจ เครือซิเมนต์ไทย

   
search resources

เครือซิเมนต์ไทย
Cement




ผู้บริหารระดับสูงหลายคนของเครือปูนใหญ่เคยให้เหตุผลกับ "ผู้จัดการ" ต่อการขยายตัวของเครือซิเมนต์ไทยว่า ความใหญ่โตของปูนซิเมนต์ไทยเองทำให้ต้องเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง มิฉะนั้นแล้วจะเกิดปัญหาขึ้น

ปี 2530 ปูนใหญ่ก็ยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างต่อเนื่อง มีทั้งการลงทุนขยายการผลิต การลงทุนใหม่ และการซื้อกิจการอื่นมาไว้ในเครือ ที่เป็นข่าวเด่นที่สุดคือการรวมทุนก่อตั้งบริษัทสยามโตโยต้าอุตสาหกรรมเพื่อทำการผลิตเครื่องยนต์สำหรับรถยนต์ขนาดไม่เกิน 2,500 ซีซี. โดยมีการเซ็นสัญญาเมื่อเดือนมิถุนายน 2530 ในระยะแรกนี้ สยามโตโยต้ามีทุนจดทะเบียน 150 ล้านบาท เป็นการร่วมทุนของปูนซิเมนต์ไทย 40% บริษัทโตโยต้ามอเตอร์ คอร์ปอเรชั่นของญี่ปุ่น 40% บริษัทนิปปอน เดนโซ และบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยบริษัทละ 10% โดยพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการปูนใหญ่นั่งตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท ใช้เงินลงทุน 1,000 ล้านบาท จะเริ่มทำการผลิตต้นปี 2532 นอกจากจะจับมือกับโตโยต้าในโครงการนี้แล้ว ปูนซิเมนต์ไทยยังเข้าไปถือหุ้นใน บริษัทโตโยต้า 10% เป็นการแลกหุ้นกัน ยังมีการแลกหุ้นกันระหว่างสองบริษัทคือปูนซิเมนต์เข้าไปถือหุ้นในโตโยต้า 10% และโตโยต้าถือหุ้นในบริษัทนวโลหะไทยกับบริษัทผลิตภัณฑ์วิศวไทยแห่งละ 10% ด้วย

อีกโครงการหนึ่งที่มีการร่วมทุนกับญี่ปุ่นคือ การตั้งบริษัทสยามซานิทารี่ ฟิตติ้งส์ จำกัด ทำการผลิตอุปกรณ์ประกอบเครื่องสุขภัณฑ์ที่ทำจากทองเหลืองและทองสัมฤทธิ์ชุบโครเมี่ยมเพื่อส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่นและทดแทนการนำเข้า บริษัทใหม่นี้มีทุนจดทะเบียน 40 ล้านบาทโดยบริษัท ปูนซิเมนต์ไทยถือหุ้น 33% บริษัทสยามซานิทารี่แวร์ซึ่งอยู่ในเครือซิเมนต์ไทยเช่นกันถือหุ้น 33% และบริษัทโตโยต้าของญี่ปุ่นถือหุ้น 34% ใช้เงินทุน 195 ล้านบาทและจะเริ่มเดินเครื่องผลิตในเดือนสิงหาคม 2531

ล่าสุดก่อนสิ้นปี 30 เมื่อต้นเดือนธันวาคมคือ การร่วมทุนกับบริษัทผลิตยางเรเดียลรายใหญ่จากฝรั่งเศสเพื่อผลิตยางเรเดียลสำหรับรถยนต์นั่งและรถบรรทุกเล็ก บริษัทใหม่นี้คือ บริษัทสยามมิชลิน เป็นการร่วมลงทุนระหว่าง บริษัทยางสยามกับบริษัทมิชลิน ซึ่งมีชื่อเสียงในการผลิตยางเรเดียลฝ่ายละ 50% มีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท จะเริ่มผลิตยางเรเดียลในปี 2532 ใช้เงินลงทุนขั้นแรก 1,000 ล้านบาท

นี่คือโครงการที่เป็นตัวตนขึ้นมาแล้วในอาณาจักรปูนใหญ่ ยังมีแผนการลงทุนใหม่ ๆ ที่กำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาคือการตั้งศูนย์คอมพิวเตอร์สำรองด้วยเงินลงทุน 400 ล้านบาทเพื่อให้บริการแก่หน่วยงานต่าง ๆ ในกรณีที่คอมพิวเตอร์ของหน่วยงานนั้นใช้งานไม่ได้ อีกโครงการหนึ่งคือ การตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ 1,500 ไร่ เพื่อเป็นที่ตั้งของบริษัทอุตสาหกรรมเท่านั้น โครงการนี้ใช้เงินลงทุน 1,000 ล้านบาท และจะเริ่มในปีหน้า

สำหรับโครงการผลิตคอมเพรสเซอร์ร่วมกับบริษัทมิตซูบิชิ อิเล็คทริคของญี่ปุ่นกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ตามโครงการนี้จะใช้เงินลงทุน 220-250 ล้านบาท ผลิตปีละ 130,000 เครื่อง ตามแผนจะเริ่มผลิตในปี 2532 อีกโครงการหนึ่งที่ปูนใหญ่เอาแน่แต่ว่ายังไม่ลงตัวเสียทีคือโครงการปลูกป่ายูคาลิปตัสเพื่อทำเยื่อกระดาษ

แล้วก็มาถึงการเทคโอเวอร์ เดือนมิถุนายนปูนซิเมน์ตไทยใช้เงิน 30 ล้านบาทซื้อหุ้นบริษัทคัสตอมแพค ซึ่งเป็นผู้ผลิตภาชนะโฟมและพลาสติก ที่ทำจากเม็ดพลาสติก โพลีสไตรลีนหรือ พีเอส และโพลีเอททิลีน หรือพีเอ คัสตอมแพคมีทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท เป็นหุ้นของปูนซิเมนต์ไทย 40% กลุ่มไวท์กรุ๊ป 40% ทำให้ปูนซิเมนต์ไทยมีกิจการพลาสติกครบวงจรปูนใหญ่มีหุ้นอยู่ 48% อยู่แล้วในบริษัทแปซิฟิค พลาสติกซึ่งเป็นผู้ผลิตเม็ดพลาสติกพีเอส ให้คัสตอมแพค และกำลังจะลงทุนในโครงการผลิตสไตรรีน โมโนเมอร์ ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำหรับการผลิตเม็ดพลาสติก พีเอสด้วย ส่วนโครงการผลิตเม็ดพลาสติก พีอีกำลังเดินหน้าก่อสร้างโรงงานอยู่หลังจากที่เริ่มโครงการเมื่อปี 2528

และการซื้อหุ้นจากบริษัทยางสยาม ผู้ผลิตยางไฟร์สโตน จากบริษัทไฟร์สโตนของสหรัฐฯ เมื่อเดือนตุลาคม 2530 บริษัทยางสยามเดิมชื่อบริษัทไฟร์สโตน ตั้งเมื่อปี 2505 ทุนจดทะเบียน 45 ล้านบาท มีไฟร์สโตนของสหรัฐฯ ถือหุ้น 55% และเป็นของคนไทย 45% ต่อมาไฟร์สโตนถอนหุ้นไป 35% ทางปูนซิเมนต์รับซื้อไป 30% และเปลี่ยนชื่อเป็นยางสยาม ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2530 ไฟร์สโตนขายหุ้นที่เหลือ 20% ให้อีก ทำให้ปูนใหญ่มีหุ้นรวม 50%

ส่วนการขยายการผลิตนั้นในเดือนพฤษภาคม 2530 ได้มีการเปิดหม้อเผาที่ 3 ที่โรงงานแก่งคอย สระบุรี อย่างเป็นทางการ หลังจากที่เริ่มผลิตมาตั้งแต่ปลายปี 2529 หม้อเผานี้มีกำลังการผลิต 1.6 ล้านตันต่อปีทำให้โรงงานที่แก่งคอยมีกำลังการผลิต 7.4 ล้านตันต่อปี ในสายวัสดุทนไฟก็มีการขยายกำลังการผลิตจากปีละ 35,000 ตันเป็น 55,000 ตันเพื่อสนองความต้องการภายในประเทศที่เพิ่มขึ้นและเพื่อส่งออก ใช้เงินลงทุน 60 ล้านบาท กำหนดเสร็จในปี 2531 นี้ เดือนมิถุนายน มีการลงทุนขยายกำลังการผลิตชิ้นส่วนอลูมิเนียมสำหรับเครื่องยนต์ รถจักรยานยนต์และเครื่องยนต์เบนซินอเนกประสงค์ ของบริษัทผลิตภัณฑ์วิศวไทย โดยใช้เงินลงทุน 80 ล้านบาท จะเสร็จเต็มโครงการในเดือนกรกฎาคม 2532 ในเดือนมิถุนายนนี้เช่นกัน บริษัทสยาม เอส บี แบตเตอรี่ ก็ได้ขยายการผลิตแบตเตอรี่จากปีละ 1.5 แสนลูกเป็น 2.5 แสนลูกใช้เงิน 40 ล้านบาท กำหนดเสร็จในปี 2535 และในวันที่ 1 กรกฎาคม 2530 บริษัทสยามคราฟท์อุตสาหกรรมก็ได้เปิดเครื่องจักรใหม่เพื่อผลิตกระดาษคราฟท์โดยมีกำลังการผลิต 100,000 ตันต่อปี เมื่อร่วมกับเครื่องจักรเดิมแล้ว สยามคราฟท์อุตสาหกรรมจะมีกำลังการผลิตรวม 204,000 ตันต่อปี สยามคราฟท์อุตสาหกรรมเป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นเมื่อปลายปี 2529 เพื่อรับซื้อกิจการของบริษัทสยามคราฟท์ที่ประสบกับการขาดทุนถึง 600 ล้านบาท ปูนซิเมนต์ไทยส่งทีมงานเข้าไปบริหารและแก้ไขเมื่อปลายปี 2518 แต่ก็ไม่สามารถลดยอดขาดทุนลงได้จนต้องหาทางออกด้วยการเลิกกิจการ

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us