|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
บัวทองซุ่มเงียบเปิดโครงการจัดสรรย่านบางบัวทอง 2 โครงการ เน้นเกาะแนวรถไฟฟ้สายสีม่วง(บางใหญ่-บางซื่อ)หลังชะลอเปิดจากปลายเมื่อปีที่แล้ว ส่วนยอดขายปีที่แล้วหด 14% ปีนี้ตั้งเป้าทรงตัว
ถึงแม้ว่าในช่วงปลายปี 2551 เศรษฐกิจจะไม่ค่อยเอื้อต่อการลงทุนของผู้ประกอบการมากนัก เพราะเป็นช่วงที่ประเทศอยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง โดนผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก รวมถึงผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่นต่อเถียรภาพของรัฐบาลและประเทศ ส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการจับจ่ายใช้สอย บริษัท บัวทอง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เองต้องเลื่อนการพัฒนาโครงการใหม่ๆออกไป เพื่อรอดูจังหวะในช่วงที่การเมืองนิ่ง เศรษฐกิจกระเตื้องขึ้น ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจการการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น อีกทั้งรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์มาใช้ เพื่อกระตุ้นความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค
ดังนั้นบัวทองฯ จึงอาศัยช่วงจังหวะที่การเมืองเริ่มนิ่ง รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลืออสังหาริมทรัพย์ ลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ เพื่อตอบสนองดีมานด์ของผู้บริโภคที่เริ่มกลับมา ไพโรจน์ สุขจั่น ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทบัวทอง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า ปีนี้บริษัทมีแผนที่จะลงทุนโครงการใหม่ 2 แห่ง คือ โครงการทิพย์พิมาน บ้านริมคลอง (บางบัวทอง) ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วง(บางใหญ่-บางซื่อ) เป็นทาวน์เฮาส์ 147 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท มูลค่าโครงการ350 ล้านบาท โดยจะสร้างเสร็จกลางปี 2553 ส่วนอีกโครงการเป็นบ้านแฝด ใกล้แนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง บริเวณศูนย์ซ่อมบำรุงคลองบางไผ่ ราคาเริ่มต้น 2 ล้านบาท บนพื้นที่ 15 ไร่ คาดว่าน่าจะเริ่มก่อสร้างได้ประมาณกลางปี 2552 ทั้งนี้จากสถานการณ์ที่เริ่มนิ่ง ผู้บริโภคเริมมีความมั่นใจมากขึ้น บวกกับรัฐบาลมีมาตรการต่างๆ ออกมาช่วยเหลือทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบ ส่งผลให้ในไตรมาส 1ถึงไตรมาส 2 กำลังซื้อน่าจะกลับมา
แม้ว่ายอดขายในปีที่ผ่านจะได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมือง เศรษฐกิจ จนทำให้ยอดขายลดลงไม่ได้ตามเป้า แต่ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะบริษัทมีวินัยทางการเงิน อีกทั้งมีสินค้าหลายหลาย เช่น บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ คอนโดมิเนียม และมีราคาถูก โดยยอดขายปี 2551 กลุ่มบริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 2,500 ล้านบาท แต่ทำได้ 2,150 ล้านบาทหรือลดลง 14% แบ่งเป็นบัวทอง พร็อพเพอร์ตี้ จากเป้า 1,000 ล้านบาท ทำได้ 700 ล้านบาท บีที สมาร์ท พร็อพเพอร์ตี้ เป้า 1,100 ล้านบาท ทำได้ 900 ล้านบาท และบัวทองมาร์เก็ตติ้ง แอนด์ เฮ้าส์ซิ่ง เป้า 400 ล้านบาททำได้ 550 ล้านบาท
ส่วนในปี 2552 บริษัทยังคงตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 2500 ล้านบาทเช่นเดิม เพราะมั่นใจว่าในปีนี้ปัญหาเริ่มต่างๆ เริ่มคลี่คลาย จะส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคกลับมา สำหรับงานด้านการบริหารงานขายและการวางแผนการตลาดโครงการทั้ง 3 บริษัทในเครือ ในปีนี้ตั้งเป้าจะรับบริหารงานขาย 36 โครงการ โดยจะเน้นรับโครงการที่มีศักยภาพทุกด้าน ซึ่งบริษัทจะคัดกรองโครงการและผู้ประกอบการมากขึ้น และเน้นสินค้าที่พร้อมโอน รวมถึงราคาขายจะต้องไม่เกิน 3.5ล้านบาทและไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท เนื่องจากบ้านราคาถูก ผู้บริโภคมักจะไม่มั่นใจในคุณภาพของสินค้า สำหรับโครงการที่เซ็นสัญญารับบริหารงานขายและวงแผนตลาดในช่วงปลาย 2551 และต้น2552 มี 7 แห่ง เช่น โครงการคอนโดมิเนียม ซิตี้ สเตชั่น (บางใหญ่) โครงการทาวน์เฮาส์ (ลำลูกกาคลอง 3) โครงการคอนโดมิเนียมพิณนภา (ศรีนครินทร์-อ่อนนุช) เป็นต้น และคาดว่าในไตรมาสแรกของปีนี้จะสามารถรับเพิ่มอีก 4-6 โครงการ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมพร้อมโอน
|
|
|
|
|