ยามล็อกซเล่ย์ในสุวรรณภูมิกว่า 200 คนประท้วง ขอโบนัส ยึดพื้นที่ ทอท. เป็นที่ต่อรอง ทอท.ไร้น้ำยาขอแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเสริมเจ้าหน้าที่ทำงานแทน เตรียมพิจารณาปรับ เหตุทำงานไม่ได้ตามสัญญา เผยจ้างยามล็อกซ์เล่ย์เป็นอีกผลงานของ”ศรีสุข” ที่ทำสัญญายาว 10 ปี จนบอร์ดทอท.ชุด”สพรั่ง” สั่งลดเหลือ 5 ปี เหตุพบทำงานบกพร่อง แต่จนถึงขณะนี้การเจรจายังยืดเยื้อ หลังเปลี่ยนรัฐบาลก๊วนเพื่อนเนวิน สั่งปลดล็อก อุ้มสัญญา 10 ปีเท่าเดิม

วานนี้ (5 ก.พ.) เวลาประมาณ 08.00 น. พนักงานรักษาความปลอดภัยของกลุ่มล็อกซเล่ย์ ไอ ที ซี เอส คอนซอร์เตียม ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทจัดจ้างรักษาความปลอดภัย ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กว่า 200 คนได้รวมตัวกัน บริเวณ ประตู 8 ชั้น 1 ด้านนอกของอาคารผู้โดยสาร เรียกร้องเงินพิเศษและสวัสดิการต่างๆ จากบริษัท โดยพนักงานที่ชุมนุมเป็นพนักงานในส่วนของพนักงานตรวจกระเป๋าสัมภาระภายในอาคารผู้โดยสาร ส่วนพนักงานรักษาความปลอดภัยอื่นๆ ในส่วนงานที่กลุ่มล็อกซเล่ย์ รับผิดชอบยังคงทำงานตามปกติ โดยหลังจากผู้บริหาร กลุ่มล็อกซเล่ย์ ได้เข้าเจรจากับพนักงานและรับข้อเรียกร้องของพนักงานจึงยอมสลายตัวไปในช่วงบ่าย

นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า ทอท.ได้จัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเข้าปฏิบัติหน้าที่เสริมโดยเฉพาะบริเวณจุดตรวจค้นผู้โดยสารก่อนขึ้นเครื่อง ซึ่งทำให้ผู้โดยสารไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว และการให้บริการของ ท่าอากาศยานยังดำเนินไปได้ตามปกติ ไม่เกิดผลกระทบใดๆ กับผู้โดยสาร อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการพิจารณาเรียกค่าปรับจาก ล็อกซเล่ย์ ในกรณีที่เกิดขึ้น ตามที่มีการกำหนดไว้ในสัญญา

แหล่งข่าวจากสนามบินสุวรรณภูมิกล่าวว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจากพนักงานรักษาความปลอดภัยของกลุ่มล็อกซเล่ย์ ร่วมกับพนักงานตรวจกระเป๋านั้นมีผลกระทบต่อการให้บริการอยู่บ้าง ซึ่งการใช้พื้นที่ของ ทอท.ประท้วงต่อรองนั้นหากเกิดขึ้นบ่อยๆ จะทำให้เกิดภาพพจน์ที่ไม่ต่อสนามบิน ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นทางทอท.ไม่เคยมีแผนรองรับอะไรเลย ปัญหาที่เกิดขึ้นเกรงว่าจะมีผลต่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ซึ่งหากผู้บริหารของทอท.ไม่มีแผนดำเนินการหรือเอาผิดกับล็อกซเล่ย์ก็จะทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียง และเกรงว่าในอนาคตจะมีการใช้พื้นที่ของทอท.ในการประท้วงหากไม่พอใจการทำงานในสนามบิน

“การท่าฯไม่เคยมีแผนอะไรรองรับในการแก้ปัญหาเลย ซึ่งหากมีความผิดพลาดอะไรขึ้นมากับเครื่องบินหรือผู้โดยสารที่ขึ้นเครื่องบินการท่าฯจะต้องรับผิดชอบ แต่บังเอิญไม่มีเหตุการณ์อะไรรุนแรงก็ถือว่าโชคดี ซึ่งทอท.ควรมีแผนรองรับปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อไม่ให้กระทบกับภาพพจน์ของสนามบินสุวรรณภูมิ”แหล่งข่าวคนเดียวกัน กล่าว

ผลงาน”ศรีสุข”ล็อกสัญญายาว10ปี

สำหรับกลุ่มล็อกซเล่ย์-ไอซีทีเอส คอนซอร์เตียม ซึ่งประกอบด้วย บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) และ ไอซีทีเอส ยุโรป โฮลดิง บี.วี. ได้รับสัมปทานงานให้บริการรักษาความปลอดภัยทั้งภายในและภายนอกท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจากทอท.ในสมัยที่ นายศรีสุข จันทรางศุ เป็นประธานคณะกรรมการทอท. สัญญาสัมปทานมีระยะเวลา 10 ปี วงเงิน 5,419.55 ล้านบาท กำหนดการจ่ายค่าจ้างเป็นงวดรายเดือน รวม 120 งวด โดยงวดที่ 1-119 งวดละ 45,162,916.31 บาท ส่วนงวดที่ 120 จ่ายในอัตรา 45,162,959.11 บาท พร้อมกันนี้ได้กำหนดบทปรับหากไม่ปฏิบัติตามสัญญา เช่น ไม่สามารถจัดหาพนักงานปฏิบัติหน้าที่ได้ตามกำหนดจะถูกปรับวันละ 2,000 บาทต่อคนต่อผลัด รวมทั้งข้อกำหนดอื่นๆที่ระบุบทปรับตั้งแต่ครั้งละ 500 บาทไปถึง 1 ล้านบาท กรณีที่พบความบกพร่องในการทำงานเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย. 2549 สิ้นสุดวันที่ 26 ก.ย. 2559

โดยล็อกซเล่ย์ และไอซีทีเอส ยุโรป โฮลดิ้ง บี.วี ได้ร่วมทุนในสัดส่วน 70-30 ตั้ง ASM เพื่อให้บริการรักษาความปลอดภัยตามสัญญาสัมปทานใน 2 ส่วนคือ 1.การบริการรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยาน คือพนักงานวินิจฉัยภาพ พนักงานตรวจค้น ผู้โดยสารและสัมภาระ พนักงานตรวจตราช่องทางเข้าออก ในท่าอากาศยานและลานบิน และ 2.บุคลากรด้านการรักษาความปลอดภัย เช่นพนักงานรักษาความปลอดภัย พนักงานศูนย์ควบคุม 24 ชั่วโมง พนักงานอำนวยความสะดวกด้านจราจร พนักงานเก็บกู้วัตถุระเบิด และสุนัขตรวจค้น (K9) นอกจากนี้ พนักงานทุกคนมีความรู้ความสามารถและความชำนาญด้านการวินิจฉัยภาพ (X-Ray) ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล

”สพรั่ง”บี้ลดสัญญาเหลือ5 ปีไม่สำเร็จ

ทั้งนี้บอร์ด ทอท.ที่มี พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตรอดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานได้มีมติเมื่อวันที่ 4 ต.ค.50 ปรับลดอายุในสัญญาจ้างให้บริการรักษาความปลอดภัยณ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของ กลุ่มล็อกซเล่ย์ จาก10 ปี เหลือ 5 ปี นับจากวันเริ่มเซ็นสัญญาคือ 26 ก.ย. 49 -26 ก.ย.54 และให้ทอท.เตรียมพร้อมในการตั้งหน่วยงานด้านรักษาความปลอดภัยในท่าอากาศยานของตัวเอง และฝึกอบรมทักษะ เพื่อเข้าทำงานหลังสัญญาล็อกซเลย์ครบกำหนด 5 ปี แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการเปลี่ยนแปลงสัญญา

โดยตั้งแต่เปิดสนามบินสุวรรณภูมิ ก.ย.49 กลุ่มล็อกซเล่ย์มีความบกพร่องในการทำงาน และทอท.ได้มีหนังสือเตือน จนเป็นเหตุให้สามารถบอกเลิกสัญญาได้หรือเจรจาเพื่อเปลี่ยนแปลงสัญญา นอกจากนี้ บอร์ดชุดพลเอกสพรั่ง ยังได้ตั้งข้อสังเกตถึงค่าจ้างกว่า 5,000 ล้านบาทที่สูงเกินไปและที่มาของสัญญามีกระบวนการไม่ถูกต้องในขั้นตอนการอนุมัติและกำหนดอายุสัญญา

ต่อมานายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ให้ทอท.พิจารณาให้ความเป็นธรรมกับกลุ่มล็อกซเล่ย์ หลังจากที่บริษัทได้ทำหนังสือร้องเรียนระบุว่า การที่บอร์ดทอท.ชุดพลเอกสพรั่ง มีมติให้ลดระยะเวลาว่าจ้างเหลือ 5 ปีนั้นไม่เป็นธรรมต่อบริษัท ที่ตัดสินใจเข้าประมูลงานดังกล่าวเพราะกำหนดสัญญา 10 ปีซึ่งมีความเหมาะสมเพราะการเปลี่ยนบริษัทบ่อยอาจส่งผลให้ข้อมูลเหล่านี้รั่วไหล และจะส่งผลต่อการรักษาความปลอดภัยในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้

โดยนายเสรีรัตน์กล่าวว่า บอร์ดทอท.ชุดที่มีนาย วุฒิพันธ์ วิชัยรัตน์ เป็นประธานได้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นเพื่อเจรจากรณีสัญญาของกลุ่มล็อกซเล่ย์ ทั้งการปรับลดระยะเวลาและวงเงินค่าจ้างที่เหมาะสม รวมถึงกรณีที่บริษัทได้ขอความเป็นธรรม มาก่อนหน้านี้เพื่อคงสัญญา 10 ปี ด้วย ซึ่งขณะนี้ยังไม่สรุป และบอร์ดได้ลาออกซึ่งทำให้คณะอนุกรรมการที่ตั้งโดยบอร์ดต้องหยุดไปด้วย ดังนั้นจึงต้องรอการแต่งตั้งบอร์ดทอท.ชุดใหม่ ให้เรียบร้อยก่อน

พนักงานชี้บริษัทไม่เป็นธรรมเรียกร้อง 7 ข้อ

โดยพนักงานที่มาชุมนุมระบุว่า การเรียกร้องครั้งนี้เกิดจากการกระทำของบริษัทที่มีการบริหารจัดการที่ไม่เป็นธรรมต่อพนักงานอย่างยิ่ง ซึ่งข้อเรียกร้อง 7 ข้อประกอบด้วย 1. ให้มีเงินโบนัสสำหรับพนักงานที่ผ่านการทดลองงานทุกคน 2. ให้มีเบี้ยเลี้ยงสำหรับพนักงานที่ทำการ Recurrent ในวันหยุดของพนักงาน ให้มีการปรับฐานเงินเดือนขึ้นในแต่ละปี 3. ให้มีสวัสดิการตรวจสุขภาพประจำปี และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 4.รายละเอียดในใบเสร็จรับเงินให้ระบุรายการหักเงินของพนักงานให้ชัดเจนเพื่อความโปร่งใส 5. การขาด-ลา-ลากิจ,ลาอุปสมบท,ลางานศพญาติ,ลาคลอดบุตร,ลาแต่งงาน ให้กำหนดจำนวนวันที่ชัดเจนและให้สอดคล้องกับกฎหมายแรงงาน 6. ให้จ่ายเงินของขวัญปีใหม่ กับพนักงานที่ไม่ขาดงา ไม่ลางาน ไม่มาสาย ในวันที่ 15ธ.ค.51-15 ม.ค.52 และ7. ไม่ให้เอาผิดพนักงานที่ชุมนุมเรียกร้อง