|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
คนในวงการเตือนแมงเม่าเทรด"โกลด์ฟิวเจอร์ส"เสียเปรียบพ่อค้าทองคำ แนะใช้เป็นช่องทางกระจายเสี่ยงดีกว่าทุ่มสุดตัว ระบุซื้อขายวันแรกสภาพคล่องน้อย แต่อาจเพิ่มขึ้นได้หากมีดีมานด์ของผู้ผลิตเครื่องประดับ ขณะที่บรรดาโบรกเกอร์เชื่อเทรดวันแรก 2-3 ร้อยสัญญา สูงสุดไม่เกิน 1,000 สัญญาต่อวัน แต่หลังจากนั้น1-2 เดือนปริมาณจะเพิ่มมากขึ้น "จิตติ"คาดราคาทองลุ้นลุ้นแตะ 950 เหรียญ/ออนซ์ ใน2-3 เดือนต่อจากนี้
นายพรสิทธิ์ ศรีอรทัยกุล ประธานอาวุโสสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ กล่าวถึงการเริ่มเปิดซื้อขาย โกลด์ ฟิวเจอร์สวันแรก (2ก.พ.)ว่า ช่วงแรกน่าจะอยู่ในจำกัด เพราะราคายังเล็กเมื่อเทียบกับตลาดต่างประเทศ แต่ถ้าผู้ประกอบการที่ใช้ทองเป็นวัตถุดิบมาเข้าร่วมเทรดด้วย น่าจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขายได้มากขึ้น โดยเฉพาะเดือนเมษายนที่จะมีความต้องการใช้ทองเยอะ อย่างไรก็ตามเราต้องให้ความสำคัญกับกลุ่มกองทุนเฮดจ์ฟันด์ด้วยว่าจะเคลื่อนการลงทุนไปทางไหน ดังนั้นโดยภาพรวมยังห่วงสภาพคล่องในการซื้อขายวันแรก
นอกจากนี้ เชื่อว่ากลุ่มผู้ประกอบการที่เกี่ยวกับทองคำ จะมีความได้เปรียบมากกว่านักลงทุนรายย่อย เพราะจะมีข้อมูลความรู้มากกว่า รู้ถึงมาร์จิ้นท ดีมานด์-ซัพพลายที่แท้จริง ดังนั้นรายย่อยต้องศึกษาข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้องให้ดี
นายชาญชัย กงทองลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์(บล.) ทรินิตี้ จำกัด กล่าวว่า การเทรดโกล์ดฟิวเจอร์สที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ นี้ นักลงทุนจะให้ความสนใจเข้าร่วมลงทุนเป็นจำนวนมาก โดยอาจจะมีการซื้อขายประมาณ 200-300 สัญญาในวันแรก แต่ถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับนักลงทุน อาจทำให้ช่วงแรกของการซื้อขายนักลงทุนอาจจะยังไม่เข้าไปมากนัก แต่จะรอดูสถานการณ์การลงทุนในตลาดทองคำล่วงหน้าก่อนประมาณ 1-2 เดือน เพื่อดูแนวโน้มและทิศทางการลงทุนว่าเป็นอย่างไร
“ขณะนี้ราคาทองคำถือเป็นช่วงขาขึ้นเพราะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่ก่อนวันตรุษจีนแล้ว ดังนั้นการซื้อขายโกล์ดฟิวเจอร์สจะช่วยให้ตลาดทุนและตลาดหุ้นดีขึ้น อีกอย่างโกล์ดฟิวเจอร์สถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับนักลงทุนในยามที่ ในตลาดหุ้นไม่ดี จะได้มีสินค้าอื่นมาให้นักลงทุนเลือกลงทุน อีกทั้งนักลงทุนจะได้กระจายพอร์ตการลงทุนด้วย เนื่องจากว่าราคาหุ้นกับดัชนีตลาดหุ้นนั้นมีทิศทางที่ตรงข้ามกัน เพราะหากตลาดหุ้นดี ราคาทองจะปรับตัวลดลงแต่หากตลาดหุ้นปรับตัวลดลงราคาทองจะดีดตัวขึ้นมา" นายชาญชัย กล่าว
นายมนู ตังทัตสวัสดิ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายอนุพันธ์ บล.บัวหลวง จำกัด กล่าวว่า บรรยากาศการซื้อขายโกล์ดฟิวเจอร์สวันแรกว่าน่าจะคึกคักเป็นพิเศษโดยจะมีการซื้อขายสัญญาประมาณ 1,000 สัญญา ซึ่งถือว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เพราะราคาการซื้อขายนั้นจะใกล้เคียงกัยราคาทองคำแท่งในตลาดอีกทั้งราคาทองในขณะนี้ยังเป็นในช่วงที่ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น ดังนั้นราคาโกล์ดฟิวเจอร์สจึงเป็นขาขึ้นตามราคาในตลาดด้วย
"การประมาณการยอดขายในช่วงแรกนั้น ในแต่ละเดือนน่าจะอยู่ที่ประมาณ 5%ต่อเดือน โดยในปีแรกนั้นยอดขายจะอยู่ที่ประมาณ 60% ซึ่งคาดว่านักลงทุนจะตอบรับการลงทุนในโกล์ดฟิวเจอร์สได้ดีในช่วงปีที่2ของการซื้อขาย”
ด้าน นายสมบูรณ์ วัฒนาอาษากิจ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาดตราสารอนุพันธ์ บล. ธนชาติ กล่าวว่า การลงทุนในตลาดทองคำล่วงหน้านั้น ไม่สามารถคาดเดาได้ในวันแรกของการซื้อขายจะมียอดการซื้อขายอยู่ที่เท่าไหร่โดยวันแรกของการซื้อขายราคาทองจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง เนื่องมาจากตลาดทองคำเป็นไปตามตลาดทองทั่วโลก และในส่วนของราคาทองคำแท่งและตลาดทองคำล่วงหน้าคาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกันมาก ไม่ต่างกัน ทั้งนี้ราคาทองที่ในตลาดอนุพันธ์จะสะท้อนราคาทองคำในตลาดโลกอย่างทันท่วงที ดังนั้นนักลงทุนที่สนใจลงทุนในทองคำควรจับตามองราคาทองคำในตลาดโลกให้ดี
ขณะเดียวกัน การเปิดขายโกล์ดฟิวเจอร์สนั้นจะไม่ทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงหรือเพิ่มขึ้นมากนัก เนื่องจากว่าทั้งสองประเภทมีความต่างกัน หากตลาดหุ้นปรับตัวลง ราคาทองจะปรับตัวเพิ่มขึ้น
ส่วนนายพนุกร จันทรประภาพ ผู้อำนวยการฝ่ายตราสารทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า โกล์ดฟิวเจอร์ส เป็นโปรดักส์ใหม่ให้นักลงทุนได้เข้ามาร่วมลงทุน เพื่อเพิ่มทางเลือกให้มีมากขึ้น โดยในช่วงที่ผ่านมาราคาทองคำได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งตลาดทองคำค่อนข้างที่จะสดใส ซึ่งการมีการซื้อขายโกล์ดฟิวเจอร์สเข้ามา จะทำให้นักลงทุนที่ลงทุนในทองคำอยู่แล้วนั้น เข้ามาซื้อขายทองคำในตลาดล่วงหน้าเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากว่าการซื้อขายในตลาดทองปกติค่อนข้างที่จะยุ่งยาก อีกทั้งเมื่อซื้อเสร็จจะต้องนำกลับไปเก็บจึงทำให้เกิดอันตราย
นอกจากนี้ ราคาทองคำในตลาดล่วงหน้าและตลาดปกติจะมีทิศทางไปในทางเดียวกัน โดยที่ราคาฟิวเจอร์สจะสามารถช่วยสะท้อนราคาทองคำในอนาคตให้แก่นักลงทุนที่ลงทุนในทองคำปกติได้ สำหรับวันแรกของการซื้อขายวอลุ่มน่าจะดี เพราะนักลงทุนจะนำกลยุทธ์ และความรู้จากการลงทุนในตลาดอนุพันธ์ต่างๆมาใช้ในทองคำ
แนวโน้มทองคำโลกแตะ950US/ออนซ์
นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวถึงการเริ่มเปิดซื้อขาย โกลด์ ฟิวเจอร์ส ว่า ช่วงแรกต้องขอแนะนำว่าอย่าลงทุนเต็มที่ อีกทั้งราคาทองยังมีความผันผวนอยู่ แต่ภาพรวมเชื่อว่าลูกค้าน่าจะเป็นคนละกลุ่มกับผู้ลงทุนในทองคำแท่งแน่ ขณะที่แนวโน้มราคาทองคำ ภายในไม่เกิน 2- 3เดือนนี้มีโอกาสที่จะขยับขึ้นไปถึง 950 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ และในครึ่งปีหลังเชื่อว่าจะปรับตัวลดลงแต่จะไม่ต่ำไปกว่า 12,000 บาท
นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ผู้จัดการกองทุน ฝ่ายจัดการกองทุนตราสารหนี้ บลจ. กสิกรไทย กล่าวว่า ในช่วงสั้นๆ 3 เดือนนี้ ราคาทองคำน่าจะยังไม่ขยับไปจากฐานในระดับปัจจุบันที่ 900 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งในช่วงนี้เอง มีเงินลงทุนเข้ามาในทองคำค่อนข้างเยอะ จากการโยกมาจากทรัพย์สินในประเภทอื่น
ทั้งนี้ ปัจจัยที่เชื่อว่าราคาทองคำจะยังไม่ปรับฐาน ประกอบด้วยเรื่องของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ที่ไม่มีทางอ่อนค่าในระยะสั้น รวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่เป็นตัวพลักดันราคาในช่วงสั้นนี้ ก็ยังไม่เกิด อย่างไรก็ตาม หากมองในขาลงเอง ราคาทองก็ยังไม่น่าจะลงเช่นกัน เพราะสถานการณ์ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจโลก สถาบันการเงิน ยังไม่ดีขึ้น ซึ่งหากราคาตกลงไป ก็มีมีนักลงทุนเก็งกำไรเข้ามาช้อนซื้อได้
ส่วนปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำปรับขึ้นในช่วงนี้นั้น สืบเนื่องมาจากธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกา ประกาศกำไรออกมา ยังมีความไม่แน่นอนของสถาบันการเงินที่ธนาคารเข้าไปให้ความช่วยเหลือทางการเงิน ซึ่งความไม่แน่นอนดังกล่าว ทำให้ราคาทองปรับขึ้นมา และในทำนองเดียวกัน เมื่อราคาขึ้นไปถึงระดับหนึ่งแล้ว ก็จะมีการเทขายทำกำไรออกมาเช่นกัน
AYF เล็งตั้งกองทุนทองคำ
นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อยุธยา จำกัด หรือเอวายเอฟ เปิดเผยว่า ในปีนี้ความสนใจลงทุนในทองคำจะมีมากขึ้น เพราะเป็นทรัพย์สินที่มีจับต้องได้ ถึงแม้จะมีความผันผวนสูงแต่ก็ยังมีของอยู่นักลงทุน ประกอบกับในช่วงนี้ ทรัพย์สินต่างๆ ทั่วโลก ปรับลดลงกันถ้วนหน้า ทำให้นักลงทุนหันมาลงทุนในทองคำมากขึ้น ซึ่งการลงทุนในทองคำนั้น เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงของตัวเองให้น้อยที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ค่อนข้างผันผวนสูง เนื่องจากมีการเก็งกำไรเข้ามาเกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ในส่วนของเอวายเอฟ กำลังอยู่ระหว่างจัดตั้งกองทุนที่ลงทุนในทองคำ ซึ่งรูปแบบการลงทุนจะเข้าไปลงทุนในอินเด็กซ์เช่นเดียวกับกองทุนมีมีอยู่ในตลาด โดยกองทุนนี้ เป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนที่ต้องการความสะดวกในการซื้อขายทอง ซึ่งอาจจะไม่ต้องการไปเข้าแถวซื้อหรือขาย อย่างที่เกิดเป็นปรากฏการณ์ในช่วงที่ผ่านมา
|
|
|
|
|