|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
กลุ่ม “เตชะอุบล” สวนกระแสเศรษฐกิจชะลอตัว ทุ่มงบลงทุนกว่า 1 หมื่นล้านบาท ก่อสร้างโรงแรมหรู-เทกโอเวอร์กิจการบจ.-เก็บหุ้นบลจ.เอ็มเอฟซีเพิ่ม ด้าน “ผู้บริหาร” เผยปีนี้ลงทุนสูงสุดในรอบกว่า 10 ปี หลังมองเห็นโอกาสการลงทุนที่ดีจากต้นทุนต่ำ หวังผลตอบแทนดีในอีก 2 ปีข้างหน้า
นายสดาวุธ เตชะอุบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน)หรือ ASL เปิดเผยว่า ในปี 2552 นี้ กลุ่มเตชะอุบลได้ตั้งงบลงทุนไว้รวมจำนวนทั้งสิ้น 10,000 ล้านบาท ในโครงการก่อสร้างโรงแรมระดับ 6-7 ดาว จำนวน 2 แห่ง บนพื้นที่เดียวกันในย่านเจริญกรุง ซึ่งคาดจว่าจะเริ่มดำเนินการสร้างได้ภายในสิ้นปีนี้
ทั้งนี้ กลุ่มเตชะอุบลได้คัดเลือกผู้ที่จะเข้ามาบริหารและจัดการจากต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเหลือเพียงการลงนามในสัญญาและจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้ ขณะที่แหล่งเงินทุนนั้นจะมาจากการระดมทุนหลายๆ ทาง อาทิ การกู้สถาบันการเงิน หรือจะเป็นเงินทุนจากต่างประเทศที่ให้ความสนใจจะเข้ามาร่วมทุน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาในรายละเอียดของการร่วมทุน
นายบี เตชะอุบล กรรมการบล. แอ๊ดคินซัน ในฐานะผู้ดูแลการลงทุนกลุ่มเตชะอุบล กล่าวว่า มูลค่าการลงทุนของกลุ่มเตชะอุบลกว่า 10,000 ล้านบาท ถือเป็นมูลค่าการลงทุนสูงสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปี 2540 เนื่องจากมองว่าจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวนั้นเป็นโอกาสที่จะเข้าไปลงทุนและให้ผลตอบแทนในอัตราที่สูงในแก 2 ปีข้างหน้า หลังจากภาวะเศรษฐกิจมีโอกาสปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น
สำหรับแผนการลงทุนนั้น กลุ่มเตชะอุบลตั้งเป้าที่จะเข้าไปซื้อกิจการ (เทกโอเวอร์) บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจำนวน 1-2 แห่ง ที่ดำเนินธุรกิจด้านไอที และอสังหาริมทรัพย์ เพราะประเมินว่าราคาหุ้นของหลายบริษัทได้ปรับตัวลดลงต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชี (Book Value) ซึ่งจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเข้าไปลงทุนในลักษณะเก็งกำไรราคาหุ้น โดยบริษัทมีนโยบายการลงทุนของกลุ่มนั้นจะเน้นลงทุนระยะยาว โดยการเข้าไปซื้อกิจการบริษัทอสังหาริมทรัพย์นั้นเพื่อที่จะนำมาสร้างคอนโดมิเนียม ขนาด 1,000 ยูนิต ราคา 1-3 ล้านบาท
“กลุ่มเตชะอุบลจะเน้นลงทุนระยะยาวในลักษณะเข้าไปซื้อกิจการเข้าไปบริหาร ซึ่งไม่มีนโยบายลงทุนในลักษณะเทรดหุ้น ซึ่งปีนี้บริษัทมูลค่าทางบัญชี จึงถือเป็นโอกาสที่จะเข้าไปลงทุน ส่วนเม็ดเงินในการสร้างคอนโดมิเนียมนั้น ทางกลุ่มอยู่ระหว่างการติดต่อกับธนาคารต่างประเทศมาสนับสนุนเงินทุน ” นายบี กล่าว
นอกจากนี้ กลุ่มเตชะอุบลยังมีแผนที่จะถือหุ้นในบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFC เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่ถือจำนวน 19.45 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 16.21% เพราะการลงทุนระยะยาวที่จะให้ผลตอบแทนที่ดีจะต้องมีการถือหุ้นที่สูงกว่า 20% แต่บริษัทมีนโยบายที่จะถือหุ้นไม่เกิน 25% หากถือมากกว่านั้นจะต้องมีการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (เทนเดอร์ ออฟเฟอร์)
“เราจะเจรจาขอซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิมรายอื่นที่ถือหุ้น MFC อยู่แล้ว หลังจากนั้นผมก็จะเข้าไปร่วมเป็นกรรมการใน MFC เช่นกัน”
ส่วนวัตถุประสงค์ของการเข้าไปถือหุ้นในบลจ.เอ็มเอฟซีนั้น กลุ่มเตชะอุบลประเมินว่าน่าจะให้ผลตอบแทนที่ดี โดยที่ไม่ต้องจัดตั้งบริษัทจัดการกองทุนรวมขึ้นเอง ขณะที่ MFC เป็นบลจ.ที่มีการบริหารงานที่ดี มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารถึง 250,000 ล้านบาท แต่หากมีการตั้งบลจ.เองต้องใช้เวลานานกว่าที่จะเติบโตได้
ด้านการลงทุนในต่างประเทศ กลุ่มเตชะอุบลยังมีแผนขยายการลงทุนเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาส จากปัจจุบันที่มีการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ในประเทศจีน และเวียดนาม
ปัจจุบันกลุ่มเตชะอุบล ได้มีการลงทุนในธุรกิจ 2 ส่วน คือ ธุรกิจการเงิน ซึ่งได้มีการลงทุนใน บริษัทหลักทรัพย์ แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน) หรือ ASL และบลจ.เอ็มเอฟซี ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 2 บริษัท คือ บริษัท คันทรีกรุ๊ป จำกัด ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาจะนำคันทรีกรุ๊ป เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
|
|
|
|
|