สโกเทียแบงก์ทุ่ม 7.6 พันล้านบาทเพื่อเพิ่มสัดส่วนหุ้นเป็น 49% ดันขึ้นสู่แบงก์พาณิชย์อันดับ 8 ของไทย มุ่งรักษาแชมป์ตลาดเช่าซื้อรถยนต์อย่างเหนียวแน่น ระบุไทยยังมีศักยภาพในการลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ในระยะยาว

นายร็อบ พิทฟิลด์ ประธานสายงานการธนาคารระหว่างประเทศ สโกเทียแบงก์ เปิดเผยว่า ธนาคารได้เข้าถือหุ้นของธนาคารธนชาต จำกัด(มหาชน) TBANK เพิ่มอีก 24% อย่างสมบูรณ์แล้ว ธนาคารธนชาตเป็นธนาคารขนาดใหญ่เป็นอันดับ 8 ของประเทศไทย และเป็นผู้นำการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ โดยสโกเทียแบงก์ได้เข้าซื้อหุ้นจำนวน 416 ล้านหุ้น เป็นเงิน 7,655 ล้านบาท หรือประมาณ 270 ล้านเหรียญแคนาดา จากบริษัททุนธนชาต จำกัด (มหาชน) TCAP ซึ่งทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของสโกเทียแบงก์ในธนาคารธนชาตเพิ่มขึ้นเป็น 49% ที่เป็นข้อกำหนดสูงสุดในการถือครองหุ้นธนาคารพาณิชย์ไทยโดยธนาคารต่างประเทศในประเทศไทย

“ตลาดของไทยมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ด้วยศักยภาพการเติบโตในระยะยาวที่ดี ซึ่งการเพิ่มการลงทุนของสโกเทียแบงก์ในธนาคารธนชาต เป็นโอกาสอันดีสำหรับเราที่จะได้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งของตลาดไทย และกระชับความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นที่เราได้สร้างไว้กับธนาคารธนชาต”

ผลจากการลงทุนครั้งนี้ ทำให้ผู้ถือหุ้นหลักในธนาคารธนชาต ประกอบด้วยสโกเทียแบงก์ และบมจ.ทุนธนชาตซึ่งถือหุ้น 50.9% และมีผู้ลงทุนรายย่อยถือหุ้น 0.1% สัดส่วนการถือหุ้นที่เพิ่มขึ้นในธนาคารธนชาตจะทำให้สโกเทียแบงก์สามารถเพิ่มตัวแทนในคณะกรรมการของธนาคารธนชาตจากสองคนเป็นสามคน

นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารธนชาต กล่าวว่า ด้วยการลงทุนเพิ่มครั้งนี้ สโกเทียแบงก์ได้ยืนยันคำมั่นสัญญาอีกครั้งที่จะสนับสนุนการเติบโตและการริเริ่มพัฒนาต่างๆ ของธนาคารธนชาต การร่วมมือเป็นพันธมิตรระหว่างธนาคารธนชาตและสโกเทียแบงก์ เป็นการประสานความแข็งแกร่งของทั้ง 2 สถาบัน และเสริมด้วยคำมั่นสัญญาร่วมกันที่มีต่อศักยภาพการเติบโตของประเทศไทย

“ธนาคารธนชาตเป็นสถาบันการเงินที่แข็งแกร่งด้วยธุรกิจหลักที่เข้มแข็งมาก ในธุรกิจเช่าชื้อรถยนต์ และทีมบริหารที่มีความสามารถ เรามั่นใจว่าการเพิ่มการลงทุนครั้งนี้จะทำให้สโกเทียแบงก์ สามารถดำเนินการเพิ่มคุณค่าทางกลยุทธ์ที่จะช่วยสร้างผลตอบแทนทางการเงินที่แข็งแกร่งต่อไป” มิเชล คว๊อค รองประธานบริหารอาวุโสภาคพื้นเอเซียแปซิฟิก และตะวันออกกลาง กล่าว

ธนาคารธนชาตเป็นธนาคารใหญ่เป็นอันดับแปดของประเทศไทย และเป็นผู้นำการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ของประเทศ ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ธนาคารธนชาต และบริษัทในเครือมีกำไรสุทธิรวม 1,870 ล้านบาท (ประมาณ 66 ล้านเหรียญแคนาดา) เพิ่มขึ้น 543 ล้านบาท หรือร้อยละ 40.9 จากปีก่อนหน้า

ในอนาคตธนาคารธนชาตยังคงมุ่งที่จะรักษาตำแหน่งผู้นำในธุรกิจการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ของไทย ขณะเดียวกันธนาคารก็กำลังดำเนินการกระจายการปล่อยสินเชื่อไปในด้านอื่นอีก โดยเน้นด้านการให้สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ สินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อส่วนบุคคล (รวมถึงบัตรเครดิต) และสินเชื่อธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ

เพื่อที่จะบรรลุความต้องการด้านการเงินการธนาคารที่กำลังเติบโตของตลาดไทย ธนาคารธนชาตวางแผนที่จะเปิดสาขาใหม่เพิ่มเติมอีก 40 สาขาภายในปี พ.ศ.2552 รวมเป็นสาขาธนาคารทั้งหมด 255 สาขา