Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มกราคม 2531








 
นิตยสารผู้จัดการ มกราคม 2531
"บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ธนานันต์จำกัด ที่สุดของปัญหาของไฟแนนซ์"             
 


   
search resources

ธนานันต์, บง
Financing




คงจำกันได้สำหรับทรัสต์ 4 เมษาซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทเงินทุนที่มีปัญหาการดำเนินงานในช่วงปี 2526 จนกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยต้องเข้าควบคุมมีจำนวน 25 บริษัท ต่อมามี 5 บริษัทที่อาการดีขึ้น ผู้ถือหุ้นเดิมซื้อหุ้นเอากลับไปบริหารเองเหลืออยู่ 20 แห่งที่จะต้องเยียวยากันต่อไป โดยมีธนาคารกรุงไทยเป็นผู้ดูแล

แนวความคิดในการแก้ไขปัญหาของบริษัทเงินทุนที่เหลือเหล่านี้ก็คือ ให้รวมเข้าด้วยกันเป็น 3 กลุ่มแล้วตั้งเป็นบริษัทใหม่ 3 บริษัท

หลังจากใช้เวลาอยู่หลายเดือน แผนการที่วาดไว้ก็เป็นจริง เมื่อต้นเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา ได้มีมติจากผู้ถือหุ้นของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ 6 แห่งให้รวมกิจการเข้าเป็นบริษัทเดียวกันทั้ง 6 บริษัทอยู่ในเครือสากลเคหะ คือ บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์สากลเคหะ, ไทยเงินทุน, คอมเมอร์เชียลทรัสต์, บริษัทเงินทุนสกุลไทยและบริษัทเครดิตฟองสิเอร์ สากลสยามทั้งหมดนี้รวมกันเป็นบริษัทใหม่ชื่อ บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ธนานันต์ จำกัด

เมื่อรวมทุนและทรัพย์สินของทั้ง 6 แห่งเข้าด้วยกัน ก็ทำให้ธนานันต์ขึ้นมาอยู่หัวแถวของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ที่มีอยู่แซงหน้าสินเอเซีย ไปด้วยทุนจดทะเบียนราว 530 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 9,300 ล้านบาท แถมยังมีสาขาถึง 14 แห่ง ซึ่งเป็นที่ทำการของบริษัทเดิมรวมทั้งสาขาที่ยุบไปแล้วแปรสภาพเป็นสาขาของธนานันต์ แต่ถ้าจะพูดถึงความแข็งแกร่ง ความสามารถในการหารายได้แล้วก็ยังห่างชั้นจากบริษัทชั้นนำอื่น ๆ อีกมาก เพราะรวมเอาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ประมาณ 2,000 กว่าล้านบาท รวมทั้งยอดขาดทุนสะสมอีก 200 ล้านบาทเข้าไปด้วย ทำให้ธนานันต์ต้องทำการเพิ่มทุนอีก 1,000 ล้านบาท เพื่อตัดยอดขาดทุนและรับมือกับหนี้เหล่านี้ ซึ่งคงจะต้องตัดเป็นหนี้สูญเป็นจำนวนไม่น้อย ทั้งยังเป็นการเพิ่มเงินกองทุนเพื่อเป็นหลักฐานในการขยายธุรกิจหารายได้เพิ่มด้วย ขณะนี้ได้ยื่นเรื่องขอความเห็นชอบจากธนาคารชาติไปแล้ว

ธนาคารกรุงไทยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ประมาณ 90% ของธนานันต์ ตัวกรรมการผู้จัดการคือ พงษ์ เศวตศิลา ซึ่งเป็นผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อนครหลวงของกรุงไทยมาก่อน โดยมี นิพัทธ พุกกะณะสุต รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังเป็นประธานบริษัท เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2530 ทั้งสองคนทำท่าว่าจะลาออกโดยอ้างว่าครบกำหนด 3 เดือนที่ตกลงกันไว้ว่าจะบริหารงานที่นี่ แต่ก็ถูกกระทรวงการคลังยับยั้งไว้ด้วยเหตุผลที่ว่า ทั้งสองคนทำงานได้ดี สามารถดำเนินงานไปตามแผนที่วางเอาไว้ และลดการขาดทุนจากเดือนละ 3 ล้านเหลือเพียง 8 แสนบาทเท่านั้น จึงขอให้อยู่ต่อไป

เหตุผลจริง ๆ แล้วคงจะเป็นความคับข้องใจของทั้งสองคน ธนานันต์นั้นก็เหมือนแขนขาของทางการที่จะลงไปแข่งขันกับบริษัทเงินทุนอื่น ๆ แถมยังมีวี่แววว่าจะไปด้วยสวย จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องมีการขัดแข้งขัดขากันไม่ให้เดินได้โดยสะดวก เรื่องการจ่ายเงิน 30 ล้านบาทเข้ากองทุนร่วมพัฒนาเพื่อสนับสนุนสภาพคล่องในตลาดหลักทรัพย์ทางผู้บริหารธนานันต์ไม่เห็นด้วย โดยแย้งว่าบริษัทยังอยู่ในสภาพช่วยตัวเองไม่ได้?

โดยแย้งว่าบริษัทยังขาดทุนอยู่ ถ้าต้องหาเงิน 30 ล้านไปเข้ากองทุนจะไม่เป็นธรรม จนถูกยื่นคำขาดว่าจะถูกพักการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้ต้องขอกู้เงินจากแบงก์ชาติไปจ่ายให้กองทุน

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us