Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน3 กุมภาพันธ์ 2552
แคดเบอรีฯสยายปีกรับลูกอมหดปั้นโกลบอลแบรนด์รุกตลาดเยลลี่             
 


   
search resources

Soft Drink
แคดเบอรี อาดัมส์ (ประเทศไทย), บจก.




แคดเบอรี อาดัมส์ แตกไลน์เยลลี่ เสริมบัลลังก์เจ้าตลาดขนมหวานสำเร็จรูปมูลค่า 1 หมื่นล้านบาท หลังตลาดลูกอมโตลดลง ทุ่ม 30 ล้านบาท ปั้นโกลเบิ้ลแบรนด์ “เดอะแนชเชอรัล” ทะลวงคุณแม่รุ่นใหม่ ตั้งเป้า 3 ปี โค่นผู้นำตลาดยูปี้ กวาดแชร์ 20% สิ้นปีรายได้โต 2 หลัก

นายสมชัย เกตุชัยโกศล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท แคดเบอรี อาดัมส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตลูกอม หมากฝรั่ง และช็อกโกแลต เปิดเผยว่า บริษัทได้แตกโปรดักส์ไลน์เยลลี่ นำเข้าจากออสเตรเลียภายใต้แบรนด์เดอะแนชเชอรัล ซึ่งเป็นโกลเบิ้ลแบรนด์ของแคดเบอรี อาดัมส์ เพื่อเติมเต็มสินค้าให้ครอบคลุมตลาดขนมหวานสำเร็จรูป จากปัจจุบันบริษัทมีสินค้าในตลาด ได้แก่ ลูกอม หมากฝรั่ง และปีที่ผ่านมารุกตลาดช็อกโกแลต ทั้งนี้ตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาดด้วยการครองส่วนแบ่ง 32% จากมูลค่าตลาด 1 หมื่นล้านบาท

สำหรับปีแรกบริษัทได้ทุ่มงบ 30 ล้านบาท โดยเยลลี่เดอะแนชเชอรัล มีจุดขายมีส่วนผสมจากธรรมชาติ แตกต่างจากสินค้าคู่แข่งทั้งนำเข้าและภายในประเทศ ซึ่งเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์พฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายที่ใส่ใจสุขภาพ และเริ่มใส่ใจการเลือกขนมขบเคี้ยวกินมากขึ้น จึงวางกลุ่มเป้าหมายเป็นคุณแม่รุ่นใหม่ที่มีลูกอายุ 3-10 ปี และผู้หญิงที่ใส่ใจสุขภาพ โดยมีด้วยกัน 5 รูปแบบ ได้แก่ มินิไดโนเสาร์ อันแบแรเบิล ไดโนเสาร์ สเควิร์ม และฟรุตสลัด

ด้านช่องทางจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรดเป็นหลัก เนื่องจากตลาดเยลลี่โดยรวมกว่า 70% จำหน่ายผ่านทางโมเดิร์นเทรด และอีก 30 % เทรดดิชันนัลเทรด อีกทั้งด้วยราคาที่สูงกว่าสินค้าภายในประเทศ โดยขนาด 180 กรัม ราคา 39บาท และขนาด 65 กรัม ราคา 18 บาท แต่เมื่อเทียบกับสินค้านำเข้าถูกกว่า โดยกลยุทธ์หลักในขณะนี้บริษัทได้เตรียมแจกสินค้าทดลองชิม และจัดโปรโมชัน ณ จุดขาย เพื่อกระตุ้นให้เกิดการทดลองและสร้างสีสันให้กับตลาด และเป็นกลยุทธ์ที่ใช้แล้วประสบความสำเร็จในหลายประเทศ อาทิ นิวซีแลนด์ อังกฤษ ไอร์แลนด์ ฯลฯ

“การรุกตลาดเยลลี่ในครั้งนี้ เนื่องจากบริษัทมีความพร้อมในการทำตลาด อีกทั้งเป็นตลาดที่มีศักยภาพ โดยพบว่าในปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโต 10% จากมูลค่า 540 ล้านบาท เมื่อเทียบกับตลาดลูกอมมูลค่า 5,400 ล้านบาท เติบโต 5% นอกจากนี้ยังพบว่าคู่แข่งที่อยู่ในตลาดไม่ค่อยดำเนินการตลาดมากนัก จึงเป็นโอกาสทางการตลาด”

โดยเป้าหมายในปีแรกสำหรับเยลลี่เดอะแนชเชอรัล บริษัทตั้งเป้ามีส่วนแบ่ง 10% และในปี 2554 หรืออีก 3 ปี ตั้งเป้าขึ้นเป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 20% จากปัจจุบัน ยูปี้ เป็นผู้นำตลาด มีส่วนแบ่ง 18% โยโย่ 15-16% และมายดี้ 14% ส่วนผลประกอบการโดยรวมบริษัทในปีนี้ ตั้งเป้าเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา แบ่งเป็น รายได้จากกลุ่มลูกอม 48-49% หมากฝรั่ง 48% และช็อกโกแลต 3%

สำหรับตลาดขนมหวานสำเร็จรูปมูลค่า 1 หมื่นล้านบาท ในปีนี้คาดว่าเติบโต 5-10% โดยคาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย เพราะมีราคาไม่สูงมากนัก จากปีที่ผ่านมาตลาดโต 9% แบ่ง ตลาดหมากฝรั่งมูลค่า 2,600 ล้านบาท โต 14% ลูกอม 5,400 ล้านบาท เติบโต 5% และช็อกโกแลต 250 ล้านบาท โต 10%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us