Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มกราคม 2531








 
นิตยสารผู้จัดการ มกราคม 2531
"มารวย ผดุงสิทธิ์ ต้องใช้ "ป้าย"และ "คำปลอบ" เปลือง             
 


   
www resources

โฮมเพจ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

   
search resources

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
มารวย ผดุงสิทธิ์
Stock Exchange




ปี 2530 เป็นปีที่มารวยใช้ป้ายเอ็นพีและเอสพีเปลืองที่สุด ผลจากความสุร่ยสุร่ายอันนี้ ทำให้มารวยโดนอัดพอหอมปากหอมคอโทษฐานทำให้หุ้นตก เป็นการขัดผลประโยชน์ของนักเก็งกำไรบางคนในตลาดหุ้น แต่ถ้ามารวยทำเป็นเหนียวเสียดายป้าย ป่านฉะนี้ก็คงถูกอัดจนน่วมอีกนั่นแหละฐานไม่ดูแลตลาดให้ดี

ตลาดหลักทรัพย์ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2530 มีการซื้อขายกันอย่างคึกคักเพราะสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของโลกมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนในหลักทรัพย์สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก นักลงทุนจึงแห่กันมาซื้อหุ้นแทน ในจำนวนนี้ก็มีนักเก็งกำไรผสมโรงมาด้วยไม่น้อย ปริมาณการซื้อขายโดยเฉลี่ยที่เคยอยู่ในระดับ 100 กว่าล้านบาทต่อวันในปี 2529 พุ่งขึ้นเป็น 600-800 ล้านบาทต่อวันดัชนีราคาขึ้นจาก 170 จุดในปี 2529 เป็น 343 จุดในเดือนกรกฎาคม 2530 ความเป็นห่วงว่าตลาดจะพังเหมือนเมื่อปี 2522 ทำให้ทางตลาดหลักทรัพย์ต้องเข้ามาควบคุมอย่างใกล้ชิด เพราะดูแล้วราคาที่พุ่งสูงขึ้นไปเกิดจากการปั่นหุ้นมากกว่าความเป็นจริง รัฐมนตรีคลังต้องออกมาเตือนนักเลงหุ้นทั้งหลายให้ระวังประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ช่วงนี้มารวยต้องงัดเอาป้ายเอ็นพีและเอ็นเอสออกมาใช้อยู่หลายครั้ง เพื่อพักการซื้อขายหุ้นที่ราคาพุ่งขึ้นสูงแบบอธิบายไม่ได้ว่าเป็นเพราะอะไร และเป็นการเตือนนักเล่นหุ้นไปในตัว ทำให้ถูกด่าทั้งคนที่พูดและคนที่ใช้ป้ายว่าเป็นตัวการทำให้ตลาดซบเซา ราคาและปริมาณการซื้อขายตกลงมาอยู่พักหนึ่งแล้วก็พุ่งขึ้นสูงอีก จนสร้างสถิติใหม่ให้กับตลาดนับแต่ก่อตั้งมาในปี 2518 ด้วยดัชนีราคาที่ 460 และมูลค่าการซื้อขาย 1,300 ล้านบาท เมื่อเดือนตุลาคม 2530 มารวยต้องออกมาเตือนเป็นระยะสลับกับยกป้ายเอ็นพี

แล้วสถานการณ์ก็พลิกกลับ เมื่อตลาดหุ้นนิวยอร์กทรุด ราคาหุ้นตกกราวรูดผลกระทบส่งผลกระทบต่อเนื่องไปถึงตลาดหุ้นในโตเกียว ฮ่องกงจนมาถึงเมืองไทย ดัชนีราคาลดลงถึง 36 จุดในวันเดียวกัน ทำลายสถิติอีกเหมือนกัน หลังจากนั้นก็มีแต่ทรงกับทรุด ดัชนีราคาตกมาอยู่ที่ระดับ 200 กว่ามูลค่าการซื้อขายอยู่ในระดับ 300-400 ล้านบาทต่อวัน

มารวยก็เลยต้องเก็บป้าย แล้วหันมาหาทางปลุกตลาดให้คึกคัก ด้วยการผลักดันให้มีการตั้งกองทุนรับซื้อหุ้นในหมู่โบรคเกอร์ และชักชวนนักลงทุนต่างชาติมาลงทุน พร้อมกับมาตรการที่จะปลุกชีพตลาดหุ้น

มารวยเข้ามาเป็นผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์เมื่อเดือนกันยายน 2528 ปัจจุบันอายุ 57 ปี มารวยเป็นคนสุภาพ อ่อนโยน ค่อนข้างจะประนีประนอม แต่ถ้าเห็นว่าเรื่องใดจะทำให้เกิดปัญหาแล้ว มารวยก็ตัดสินใจได้อย่างเฉียบขาด

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us