Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา กุมภาพันธ์ 2552
"ตาก-เต๋อหง" Sister City             
โดย เอกรัตน์ บรรเลง
 

   
related stories

"เต๋อหง" ช่องทางสินค้าจีนที่ไทยไม่อาจมองข้าม
ทับทิม-หยกพม่า! จากแม่สอด-แม่สาย-เชียงใหม่ วันนี้อยู่ที่เต๋อหง
น่งเต่า : หนองเตา หมู่บ้านที่ไทยน่าจะดูเป็นเยี่ยงอย่าง

   
search resources

Commercial and business
International




ระหว่างการเดินทางไปร่วมงานแสดงสินค้าพม่า-จีน ที่เขตเศรษฐกิจพิเศษมูเซ ประเทศพม่า คณะตัวแทนจากภาครัฐ-เอกชนจังหวัดตาก นำโดยสาโรช แสงอรุณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตากได้ร่วมหารือกับ Meng Biguang ผู้ว่าการเขตปกครองตนเองชนชาติไต-จิงโพ่ แห่งเต๋อหง พร้อมคณะ ในประเด็นการสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องระหว่างตาก-เต๋อหง

หลังจากวันที่ 14 มิถุนายน 2548 จังหวัดตาก โดยสุวัฒน์ ตันประวัติ ผู้ว่าราชการจังหวัดในขณะนั้นได้ลงนามในบันทึกแสดงเจตจำนงเพื่อสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องกับหวังเชา รองผู้ว่าการเขตปกครองตนเองฯ ณ ห้องประชุมศาลากลาง จ.ตาก แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการลงนามอย่างเป็นทางการ

โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงร่วมกันว่า ระหว่างวันที่ 9-16 กุมภาพันธ์ 2552 นี้ เมิ้ง ตี้กวง ผู้ว่าฯ เต๋อหง พร้อมคณะจะเดินทางมาเยือนจังหวัดตาก เพื่อร่วมพิธีสถาปนาลงนามความร่วมมือ (MOU) แบบถาวร เมืองคู่แฝดทางเศรษฐกิจการค้า-วัฒนธรรม "ตาก-เต๋อหง"

ซึ่งการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจังหวัดตาก (ประเทศไทย) กับจังหวัดเต๋อหง (ประเทศจีน) จะเป็นการสร้างรูปแบบการค้า การลงทุน และศึกษา ศิลปวัฒนธรรมไทย-จีนและพม่า

พิธีการสถาปนาแบบถาวรเมืองคู่แฝด ตาก-เต๋อหง อย่างเป็นทางการ ระหว่างผู้ว่าราชการของทั้ง 2 จังหวัดจะเป็นการเปิดเส้นทางเพื่อพัฒนาการค้า-การลงทุน การเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่าง ประเทศ และยังเป็นการเปิดตลาดการค้าอัญมณีแห่งใหม่ระหว่าง 2 จังหวัด

บรรพต ก่อเกียรติเจริญ ประธานหอการค้าจังหวัดตาก ให้ความเห็นในประเด็นที่ว่า ทำไมจังหวัดตากเลือกที่จะสร้างสัมพันธ์กับเต๋อหง ที่ในทางภูมิศาสตร์ ไม่ได้เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับจังหวัดตากแม้แต่น้อยว่า เนื่องจากทั้ง 2 จังหวัดคือตากกับเต๋อหง มีลักษณะจังหวัดที่ใกล้เคียงคล้ายกัน คือเป็นจังหวัดที่มีชายแดน ติดต่อกับพม่า มีการค้าชายแดน มีการค้าหยกอัญมณี และมีศิลปวัฒนธรรมระหว่างประเทศที่สอดคล้องกัน

นอกจากนี้ เขาหวังว่าการพัฒนาความสัมพันธ์กับเต๋อหง จะทำให้จังหวัดตากสามารถนำรูปแบบการพัฒนาเมืองชายแดนจีน-พม่า มาปรับใช้กับพื้นที่ชายแดนตาก โดยเฉพาะแนวทางการพัฒนาเขตเศรษฐกิจร่วมเจียก้าว-มูเซน่าจะนำมาปรับใช้กับพื้นที่แม่สอด-เมียวดี ได้ หลังจากที่จังหวัดตากมีการผลักดันให้รัฐบาลประกาศจัดตั้งเขตเศรษฐกิจชายแดนมาอย่างยาวนานแต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีผลเป็นรูปธรรมใดๆ ออกมา

ขณะที่เต๋อหงสามารถใช้เขตเศรษฐกิจพิเศษเจียก้าวเป็นตัวเปิดต่อยอด ความสัมพันธ์กับพม่าที่มีอยู่เดิมมาช่วยพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ชายแดนอย่างได้ผล

"เรามองการเติบโตของเต๋อหง ในฐานะที่เป็นเมืองชายแดนเหมือนกันมานานกว่า 10 ปีแล้ว ซึ่ง 10 กว่าปีที่แล้ว คณะหอการค้าตาก เคยเดินทางไปดูงานที่เต๋อหง-รุ่ยลี่ รวมถึงชายแดนเจียก้าว ตอนนั้นแทบจะไม่มีอะไรเลย แต่วันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนหมด" บรรพตกล่าว

ปณิธิ ตั้งผาติ ประธานประชาคมตาก หรือเฉิน ฮั่นจั่น ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่ปลุกปั้นความสัมพันธ์ระหว่างตาก-เต๋อหง มาตั้งแต่ต้น บอกว่าหลังจากสถาปนาความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้องกันอย่างถาวรแล้ว ก็จะมีกิจกรรมร่วมกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ข้อตกลงระหว่างกันมีผลในทางปฏิบัติ

เนื่องจากตลอดระยะที่ผ่านมาการลงนามในลักษณะบ้านพี่เมืองน้องระหว่างจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ กับต่างประเทศเกิดขึ้นหลายคู่ แต่ส่วนใหญ่ไม่มีผลในทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมตามมา จนกลายเป็นประเด็นปัญหาต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศขึ้น ซึ่งเมื่อคราวการประชุมร่วมระหว่างกงสุลไทยทั่วโลก กับผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดน เมื่อเดือนพฤษภาคม 2550 ที่ผ่านมา ได้หยิบยกประเด็นปัญหานี้ขึ้นหารือ เพราะเห็นว่า MOU บ้านพี่เมืองน้องต่างๆ ที่มีการลงนามกันมาระยะ 20-30 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้มีการนำมาปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง หรือ เมื่อผู้บริหารหน่วยงาน-องค์กร (โดยเฉพาะฝ่ายไทย) มีการเปลี่ยนแปลง ข้อตกลงต่างๆ ที่มีอยู่ก็มักจะถูกเก็บเข้าลิ้นชัก ไม่ได้รับการสานต่อไปด้วย ทำให้กระทรวงการต่างประเทศ-กระทรวงมหาดไทย มีนโยบายที่จะทบทวน MOU ต่างๆ ที่ส่วนราชการของไทยเคยลงนามร่วมกับต่างประเทศในระยะเวลาที่ผ่านมาใหม่ทั้งหมด   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us