|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
รัฐบาลโอบามาเริ่มต้นงาน "Remaking America" วันแรกด้วยการระงับการขึ้นเงินเดือนชั่วคราวของเจ้าหน้าที่รัฐบาลระดับสูง ประกาศสร้างรัฐบาลมือสะอาด วางกฎการล็อบบี้ ยกหูคุยกับผู้นำตะวันออกกลาง และร่วมพิธีสวดมนต์ก่อนเริ่มงานวันแรก
หลังเสร็จสิ้นพิธีสาบานตนและการเฉลิมฉลองการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี สหรัฐอเมริกาคนที่ 44 อย่างเป็นทางการของบารัค โอบามา ในคืนวันที่ 20 มกราคม 2009 เช้าวันรุ่งขึ้น ประธานาธิบดีคนใหม่ของ สหรัฐฯ พร้อมด้วยสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง มิเชล โอบามา รองประธานาธิบดี โจ ไบเดน ภริยา จิล ไบเดน รัฐมนตรีต่างประเทศ ฮิลลารี คลินตัน และอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน เริ่มต้นการทำงานอย่างเป็นทางการ ด้วยการเข้าร่วมพิธีสวดมนต์แห่งชาติครั้งที่ 56 ณ วิหารแห่งชาติในมหานครวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อความเป็นสิริมงคล
จากนั้นประธานาธิบดีโอบามาเริ่มปฏิบัติงานที่ทำเนียบประธานาธิบดี โดยมีภารกิจดังนี้ ประกาศระงับการขึ้นเงินเดือนข้าราชการอาวุโสในทำเนียบที่มีรายได้มากกว่า 100,000 เหรียญต่อปี จำนวนข้าราชการอาวุโสเหล่านี้มีอยู่ประมาณ 100 คน ถือเป็นมาตรการเบื้องต้นที่ใช้ปฏิบัติเป็นการชั่วคราวในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจนี้
เขากล่าวกับเหล่าข้าราชการว่า "ทุกครอบครัวกำลังอยู่ในภาวะต้องรัดเข็มขัด ที่วอชิงตันก็ต้องปฏิบัติเช่นเดียวกัน" ถือเป็น มาตรการเบื้องต้นที่สามารถปฏิบัติใช้ได้ทันที ก่อนที่เขาและทีมเศรษฐกิจจะประกาศ แผนฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจโดยละเอียดที่จะมีขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้
นอกจากนั้นเกี่ยวกับกระบวนการล็อบบี้ อันเป็นที่มาของการคอร์รัปชั่น เพื่อให้เป็นไปตามสัญญาที่เขาใช้ในการรณรงค์หาเสียงและเพื่อเป็นการสร้างความโปร่งใส และความน่าเชื่อถือให้แก่คณะรัฐบาลโอบามา เขาประกาศกฎระเบียบจำกัดขอบเขตกระบวนการล็อบบี้ โดยห้ามข้าราชการในรัฐบาลของเขาที่ลาออกจากตำแหน่งเพื่อรับตำแหน่งใหม่ในภาคเอกชน กลับเข้ามาล็อบบี้ คนในรัฐบาลของเขาอย่างน้อยเป็นเวลา 2 ปี ร่วมทั้งห้ามเหล่าล็อบบี้ยิสต์ที่เข้ามาแล้วในช่วงรัฐบาลเก่าและยังคงอยู่ร่วมทีมรัฐบาลปัจจุบัน ดำเนินการวิ่งเต้นใดๆ และห้ามข้าราชการในรัฐบาลของเขารับของขวัญจาก บรรดาล็อบบี้ยิสต์ ไม่ว่าจะเนื่องด้วยโอกาสใดๆ ก็ตาม
โอบามาตระหนักดีว่า แม้กฎระเบียบ เกี่ยวกับกระบวนการล็อบบี้นี้จะเคร่งครัดมากกว่ารัฐบาลก่อนๆ แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะกู้ ระบบที่ล้มเหลวในวอชิงตันได้ทันที เขาจึงต้องออกกฎสำหรับทีมงานในรัฐบาลของเขา ด้วย ซึ่งข้อตกลงในการทำงานร่วมกันที่โปร่งใส ต้องประกอบด้วยกันทั้งสองฝ่ายทั้งผู้รับและผู้ให้ (สินบน) อย่างน้อยประเทศได้เริ่มต้นเข้าสู่ยุคของความซื่อสัตย์ ซึ่งเป็นความหวังและความต้องการของเขาที่จะสร้างรัฐบาลให้เป็นที่น่าเชื่อถือไว้วางใจในสายตาของประชาชนชาวอเมริกัน
ทั้งนี้ ในกรณีของข้อมูลทางราชการที่ถูกปกปิดมาตลอดในช่วงรัฐบาลเก่า หลังจากเหตุการณ์ 11 กันยายน ค.ศ.2001 โอบามามีความเห็นว่าควรเปิดเผยให้มากขึ้น ภายใต้กฎเสรีภาพแห่งข้อมูลข่าวสารที่สาธารณชนควรมีสิทธิในการรับรู้ผ่านตัวแทนสมาชิกรัฐสภา ซึ่งทางทีมงานที่เกี่ยวข้องภายใต้การนำของ Eric Holder รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จะเป็นผู้ศึกษาความเป็นไปได้และเสนอร่างปฏิบัติการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชน เป็นคู่มือ "open government" ภายใน 120 วัน "ในเมืองนี้มีความลับมากเกินไปเป็นเวลานาน... ยุคของการปกปิดได้จบไปแล้ว" โอบามากล่าวถึงอำนาจบริหารที่เป็นอภิสิทธิ์ ในอดีตที่อดีตรองประธานาธิบดี Dick Cheney เคยใช้ในการไม่อนุญาตให้เปิดเผย ข้อมูลเอกสารต่อคณะสมาชิกรัฐสภา ซึ่งถือ ว่าเป็นการละเมิดกฎหมายได้จบสิ้นลงแล้ว
ภารกิจสำคัญอีกอย่างที่โอบามาได้ปฏิบัติในวันแรกของการเริ่มต้นรัฐบาล คือ การโทรศัพท์หาผู้นำตะวันออกกลาง 4 ประเทศ ได้แก่ ประธานาธิบดี Hosni Mubarack แห่งอียิปต์ นายกรัฐมนตรี Ehud Olmet แห่งอิสราเอล กษัตริย์ Abdulah แห่งจอร์แดน และ Mahmoud Abbas ผู้นำแห่งปาเลสไตน์ ต่อกรณีฉนวนกาซา เพื่อเป็นการแสดงว่ารัฐบาลเขาให้ความสำคัญกับปัญหาที่เกิดและต้องการหาทางสร้างความสงบให้แก่ภูมิภาคโดยเร็ว เป็นการเริ่มต้นกระบวนการแสวงหาสันติภาพระหว่างอาหรับและอิสราเอลอีกครั้ง
โอบามาพยายามกู้ภาพพจน์ของประเทศในสายตาชาวโลก ด้วยการประกาศ กระบวนการปิดค่ายกักกันเชลยศึก ณ Guantanamo Bay ในคิวบา เขาประกาศ ยับยั้งการสอบสวนผู้ต้องสงสัยเป็นผู้ก่อการร้ายข้ามชาติที่ยังคงค้างคาอยู่เป็นเวลา 120 วัน ขณะที่เขาและทีมจะทำการตรวจสอบกระบวนการจัดการกับเหล่าผู้ต้องสงสัยอย่างละเอียด โดยคาดว่าค่ายกักกันเชลยศึก นี้จะถูกปิดภายใน 1 ปีนับจากนี้ นอกจากนี้ เขายังแต่งตั้งอดีตวุฒิสมาชิก George Mitchell เข้ารับตำแหน่งทูตสหรัฐฯ ประจำตะวันออกกลาง และอดีตทูต Richard Holbrook เข้ารับตำแหน่งทูตพิเศษสหรัฐฯประจำปากีสถานและอินเดีย
ภารกิจที่เกิดขึ้น ณ วันแรกของการทำงานของรัฐบาลโอบามา เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นวัฒนธรรมการทำงานใหม่ของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เข้าสู่ยุคของความโปร่งใส มีจรรยาบรรณและสอดคล้องกับสถานการณ์ เศรษฐกิจในปัจจุบันที่ต้องประหยัด เพื่อเป็นการกอบกู้ความเชื่อมั่นของประชาชนให้กลับคืนมา
"เราต้องไม่ลืมว่า เราอยู่ที่นี่ในฐานะผู้รับใช้ประชาชน" เป็นอีกคำกล่าวหนึ่งที่ได้ยินบ่อยครั้งจากปากของประธานาธิบดีคนที่ 44 ของสหรัฐฯ นับจากวันนี้ยังมีภารกิจอีกมากมายที่ผู้นำคนใหม่ต้องเร่งสะสาง...ต้องติดตามกันต่อไป
|
|
|
|
|