Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มกราคม 2531








 
นิตยสารผู้จัดการ มกราคม 2531
"นพพร พงษ์เวช กับ "งานท้าทาย" ที่เอ็มซีซี"             
 


   
search resources

เอ็มซีซี,บงล
นพพร พงษ์เวช
Financing




นพพร พงษ์เวช อดีตกรรมการรองผู้อำนวยการธนาคารสยาม หลังจากที่ถูกทางการสั่งให้กรุงไทยเข้ามาเทคโอเวอร์จนประธานกรรมการธนาคารสยามคือเกษม จาติกวณิช ต้องลาออก ส่วนนพพรยังอยู่ต่อจนถึงวันที่คนของสยามต้องเขียนใบสมัครเป็นพนักงานกรุงไทย

สำหรับนพพร การที่จะตามไปอยู่กรุงไทย ซึ่งนพพรไม่เห็นด้วยกับวิธีแก้ปัญหาดังกล่าวแล้ว สไตล์การทำงานแบบราชการของกรุงไทยก็เข้ากันไม่ได้ และที่สำคัญหาตำแหน่งและเงินเดือนที่เหมาะสมไม่ได้

ก็ถึงคราวที่หนุ่มใหญ่วัย 40 ต้องตกงานเป็นครั้งแรกในชีวิต!?

"ผมนอนอ่านหนังสือเก่า ๆ อยู่บ้าน เช่าวิดีโอมาดู รับส่งลูกเช้าเย็น มีเพื่อน ๆ มาเยี่ยมเยอะ บางคนหิ้วหูฉลาม, กระเพาะปลามาฝาก ผมกินจนอ้วนขึ้นหลายกิโล จริง ๆ แล้วผมอยากพัก แต่ไม่ได้พักเท่าไหร่ ก็มีคนโทรมาชวนไปทำงานหลายแห่ง แต่เราก็ยังไม่ตัดสินใจเสียที พะว้าพะวังไม่สบายใจ ไม่รู้จะปรึกษาใคร พ่อแม่ก็ไม่มี…" นพพรเล่าช่วง 3 เดือนแห่งความว้าวุ่นใจ

นพพรมาได้พักจริง ๆ ก่อนเข้าทำงานประมาณ 1 เดือน เพราะอุบัติเหตุที่กบินทร์บุรี เขาไปดูงานของเพื่อนที่ทำทางอยู่ที่นั่น ขณะที่เขายืนพิงรถปิคอัพอยู่บนไหล่ทาง รถ บขส. วิ่งสวนมาด้วยความเร็วสูงชนรถคันหน้า ๆ พุ่งชนนพพรที่ยืนพิงรถอยู่เฉย ๆ หน้าคว่ำกับพื้นหน้าผากแตกและซี่โครงหัก 3 ซี่

"คราวนี้ได้พักจริง ๆ นอนอยู่พญาไท 2 ราว ๆ 1 อาทิตย์ ซวยจริง ๆ ผมยืนอยู่เฉย ๆ แท้ ๆ เชียว ถ้าผมนั่งในรถมีหวังตายไปแล้ว"

ท่ามกลางข่าวลือว่านพพรจะไปอยู่ที่นั่นที่นี่ เช้าวันที่ 2 พฤศจิกายน 2530 เขาปรากฏตัวที่บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เอ็มซีซีในตำแหน่งกรรมการและรองผู้จัดการใหญ่

บงล. เอ็มซีซี เริ่มต้นจากเชาว์ เชาว์ขวัญยืน ร่วมกับตระกูลสารสิน ดังนั้นประธานคนแรกจึงเป็นพจน์ สารสิน ประธานคนต่อมาคือ เฉลิม ประจวบเหมาะ และใหม่ล่าสุดเมื่อปีที่แล้วคือบุญมา วงศ์สวรรค์ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ปัจจุบันยังดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ บ. ปูนซิเมนต์ไทยอีกด้วย

บุญมา วงศ์สวรรค์ เป็นเพื่อนรักกับ วารี พงษ์เวช (พ่อของนพพร) และรู้จักสนิทสนมกับ เกษม จาติกวณิช ซึ่งเป็นคนที่เชื่อมือนพพรมาก ๆ ด้วยเหตุดังกล่าว บุญมาจึงอยากได้นพพรมาบริหารที่เอ็มซีซี แทน โจฮานเนส เบอร์นาร์ดุ้ส ฟันเดอร์ลินเดน กรรมการผู้จัดการ

เบอร์นาร์ดุ้ส รู้จักนพพรตั้งแต่ตอนที่เขาเป็นผู้จัดการฝ่ายการเงิน บ. เชลล์ ส่วนนพพรอยู่ซิตี้แบงก์ หลังจากที่เบอร์นาร์ดุ้สเกษียณที่เชลล์ (55 ปี) เชาว์ เชาว์ขวัญยืนเห็นว่าเป็นคนมีฝีมือจึงชวนมาที่เอ็มซีซี ปี 2531 จะหมดสัญญาและเบอร์นาร์ดุ้สเองก็อยากเกษียณ

บุญมา วงศ์สวรรค์ ชวนนพพรตั้งแต่ต้นปี 2530 ตอนที่ยังไม่รู้ว่าอนาคตสยามจะเป็นอย่างไร เขาเองก็ตัดสินใจ 60-70 เปอร์เซนต์กับเอ็มซีซีมาตลอด แต่ตามวิสัยของปุถุชนก็คงอยากจะรอว่ามีใครมีข้อเสนอที่ดีกว่าหรือไม่ จนกระทั่งตัดสินใจว่าที่นี่แหละดีที่สุดแล้ว

เหตุผลที่นพพรเลือกเอ็มซีซีน่าสนใจทีเดียว

"หนึ่ง-โครงสร้างผู้ถือหุ้นเอ็มซีซี เหมาะมากสำหรับการเป็น "ลูกจ้าง" เพราะไม่มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่เป็นตระกูลใด ราว 50% ถือโดยสถาบันต่าง ๆ เช่นธนาคารไทยทนุ 10% ทรัสต์ลีแบงก์ของสิงคโปร์ 10%, ฟิลาเดลเฟียอินเตอร์เนชั่นแนลอิควิตี้ อินคอร์ปอเรชั่น 10% ธนาคารไดวา 10% เดลต้าพรอปเพอร์ตี้ 10% ซึ่งไม่มีใครมา DOMINATE บริษัทได้

สอง-DEGREE OF PROFESSIONALISM สูงมาก ไม่ได้บริหารโดยระบบครอบครัว ทุกคนเป็นลูกจ้างทั้งสิ้น ทำงานระบบฝรั่ง แต่เป็นบริษัทของคนไทย

สาม-ผลประกอบการของบริษัทดีมาก แม้ว่า SCOPE งานจะเล็กกว่าเดิม แต่ความสามารถในการทำกำไรสูงมาก ปีนี้คาดว่ากำไร 60 ล้าน

สี่-ประธานกรรมการเป็นคนที่มีความสามารถเป็นผู้ใหญ่ที่ผมนับถือ ทั้งประธานและผู้จัดการใหญ่เอาบัญชีต่าง ๆ ที่แท้จริงของบริษัทให้ผมดูตั้งแต่เดือนมีนาคม ผมสบายใจได้ว่าไม่มีมั่วซั่วเหมือนที่ผ่านมา…"

นั่นคือเหตุผลอย่างรอบคอบที่นพพรเลือกมาที่นี่ เขาย้ำว่าเข็ดแล้วที่จะเข้าไปในแบงก์ที่มีปัญหา และกลัวเหลือเกินที่จะต้องยุ่งเกี่ยวกับราชการ

ช่วงแรกในตำแหน่งกรรมการรองผู้จัดการ นพพรดูแลด้านเงินฝาก สินเชื่อ โดยเฉพาะ JAPANESE ACCOUNT ที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ เพราะธนาคารไดวาธนาคารใหญ่อันดับ 6 ของญุ่ปุ่นเพิ่งเข้ามาถือหุ้น 10% ที่เอ็มซีซี (เพราะ JAPANESE BUSINESS เขามีลูกค้าญี่ปุ่นที่เข้ามาใช้บริการในไทย ถ้ามีบริษัทไฟแนนซ์ที่ถือหุ้นอยู่ ก็จะทำให้ธุรกิจคล่องตัวขึ้น) ดังนั้นถ้าเห็นนพพรแวะไปที่ LA CLASSE บาร์ญี่ปุ่นแถวถนนธนิยะบ่อย ๆ ก็ไม่ต้องแปลกใจ

เวลาที่เหลือจากงานในหน้าที่ คือ เวลาสำหรับเรียนงานและถ่ายทอดงานในตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ "ผู้จัดการ" ถามถึงนโยบายเมื่อเขาขึ้นตำแหน่งนี้

"โดยหลักแล้วคง KEEP ON งานเดิม และทำให้ AGGRESSIVE มากขึ้น อย่างปีนี้เรามีรายได้จากตลาดหุ้นมาก เพราะตลาดมันบูม ถ้าปีหน้า (2531) มันไม่บูมหรือบูมน้อยลง รายได้ก็น้อยลง ดังนั้นเราต้องมาพัฒนาธุรกิจใหญ่ คือ สินเชื่อ, การค้ำประกัน การทำ HIRE PURCHASE ให้หนักหน่วงและใหญ่ขึ้น ซึ่งหัวใจของการพัฒนาธุรกิจกอยู่ที่บุคลากร ซึ่งผมพอใจบุคลากรที่นี่มาก ทุกอย่างที่เอ็มซีซีดีอยู่แล้ว ผมพอใจมาก ๆ ในเมื่อฐานมันแน่น มันพร้อมที่จะพุ่งไปข้างหน้า เราเพียงแต่เสริมอีกนิดหน่อยให้ถูกจุด อนาคตสดใสแน่ และยิ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ เราเพิ่มทุน 50 ล้าน ซึ่งได้มาจริง ๆ 150 ล้าน ยิ่งทำให้เราขยายธุรกิจได้กว้างขวางขึ้น…" ว่าที่กรรมการผู้จัดการกล่าว

สำหรับนพพร งานที่นี่เป็นงานที่ท้าทาย PROFESSIONAL อย่างเขามาก และสำหรับเอ็มซีซีก็กำลังรอดูผลงานของหนุ่มใหญ่ไฟแรงอย่างนพพรว่าเลือกคนถูกหรือไม่ด้วย?

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us