Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน28 สิงหาคม 2546
ศก.ฟืนชัดคาดหุ้นไทยปีหน้าชน650จุด 5กลุ่มบจ.-รัฐวิสาหกิจ-เบียร์ช้างน่าสน             
 


   
search resources

ไทยพาณิชย์, บล.
ชโยทิต กฤดากร, ม.ล.
Stock Exchange




บล. ไทยพาณิชย์ประเมินดัชนีหุ้น ไทยปี 2547 คาดจะปรับตัวเพิ่มขึ้นยืน 648-650 จุด เพิ่มประมาณ 25% จากระดับดัชนีปัจจุบัน โดยประเมินจากราคาหุ้นที่บริษัทศึกษา รวมถึงภาพรวม เศรษฐกิจที่มีการฟื้นตัวต่อเนื่อง เมื่อเทียบข้อมูลปี 2536-2539 ซึ่งเป็นช่วงตลาดฯขาขึ้นหุ้น 5 กลุ่มคาด กำไรพุ่งแรง ขณะที่บริษัทตั้งเป้าเพิ่มทุนเป็น 5 พัน ล้านบาท หวังขยายดีลที่ปรึกษาการเงินรัฐวิสาหกิจ หลักๆ ปีหน้า รวมทั้งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตทศท. รวม ถึงหุ้นเบียร์ช้างของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี แม้ขาดทุนจากรับหุ้นไทยธนาคารเข้าพอร์ตกว่า 100 ล้านบาทก็ตาม

ม.ล.ชโยทิต กฤดากร กรรมการผู้จัดการบล. ไทยพาณิชย์ ในเครือธนาคาร ไทยพาณิชย์ กล่าววานนี้ (26 ส.ค.) ว่าเมื่อพิจารณารายกลุ่ม อุตสากรรมปีหน้า บริษัทคาด ว่าจะเห็นการปรับตัวดีที่สุดกลุ่มเคมีภัณฑ์ คาดกำไรเพิ่ม ขึ้นประมาณ 100% จากปีนี้ กลุ่มสื่อสาร จะเพิ่มขึ้น 48% กลุ่ม ขนส่ง 45% กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ 38% และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ 34% เนื่องจากอัตราเติบโตธุรกิจ และบริษัทเพิ่มขึ้น เขาเชื่อว่าหุ้น หลายตัวกลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวสมารถให้ผลตอบแทนดี กว่ากลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ อีก หลายกลุ่ม

กลุ่มอุตสาหกรรมที่แนวโน้มจะปรับตัวขึ้นน้อยที่สุด ได้ แก่ กลุ่มพลังงาน คาดเพิ่ม 15% ธนาคาร 13% บันเทิง 10% บริษัทหลักทรัพย์ 4% และเงินทุนและลีสซิ่ง คาดจะลดลง 5%

ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยปี 2547 คาดจะปรับตัว เพิ่มขึ้นยืน 648-650 จุด เพิ่มประมาณ 25% จาก ระดับดัชนีปัจจุบัน โดยประเมินจากราคาหุ้นที่บริษัทศึกษา รวมถึงภาพรวมเศรษฐกิจที่มีการฟื้นตัวต่อเนื่องเมื่อเทียบข้อมูลปี 2536-2539 ซึ่งเป็นช่วง ตลาดฯขาขึ้น

10 หุ้นน่าสน

10 บริษัทจดทะเบียนที่คาด ว่าจะปรับตัวขึ้นดีที่สุดปี 2547 ได้แก่ สามารถ (SAMART) ราคาเฉลี่ย 28.50 บาท ราคาเป้าหมาย 78 บาท ราคาเพิ่มขึ้น 178% แอลพีเอ็น ดีเวล-ลอปเมนท์ (LPN) ราคาเฉลี่ย 33.50 บาท ราคาเป้าหมาย 70-80 บาท เพิ่มขึ้น 109-159% อะโรเมติกส์ (ATC) ราคาเฉลี่ย 20.10 บาท ราคาเป้าหมาย 47 บาท เพิ่มขึ้น 134% พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟคท์ (PF) ราคาเฉลี่ย 11.70 บาท ราคาเป้าหมาย 24-26 บาท เพิ่ม 107-121%

บล. พัฒนสิน (CNS) ราคาเฉลี่ย 40.75 บาท ราคาเป้าหมาย 76 บาท เพิ่มขึ้น 86% ไทยสโตเรจ แบตเตอรี่ (BAT-3K) ราคาเฉลี่ย 66.50 บาท ราคาเป้าหมาย 122 บาท เพิ่มขึ้น 83% วีนิไทย (VNT) ราคา เฉลี่ย 11.60 บาท ราคาเป้าหมาย 21 บาท เพิ่มขึ้น 81% อุตสาหกรรมปิโตรเคมีแห่งชาติ (NPC) ราคาเฉลี่ย 72 บาท ราคาเป้าหมาย 130 บาท เพิ่มขึ้น 81% อีจีวี (EGV) ราคาเฉลี่ย 6.40 บาท เป้าหมาย 11 บาท เพิ่มขึ้น 75% และจีเอฟพีที (GFPT) ราคาเฉลี่ย 32 บาท เป้าหมาย 55 บาท เพิ่มขึ้น 27%

ส่วน 9 หุ้นที่คาดว่าจะแย่ที่สุดปี 2547 ได้แก่ ลานนา (LANNA) ราคาเฉลี่ย 4.10 บาท คาดจะลด เหลือ 2 บาท ลดลง 48% ธนาคารเอเชีย (BOA) ราคาเฉลี่ย 5.35 บาท เป้าหมายลดลง 3 บาท ลดลง 44% บล. เอบีเอ็น แอมโร เอเชีย (AST) ราคาเฉลี่ย 42.50 บาท ราคาเป้าหมาย 24 บาท ลดลง 43% บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (IFCT) ราคา 6.15 บาท เป้าหมาย 4 บาท บางจากปิโตรเลียม (BCP) ราคาเฉลี่ย 6.90 บาท ราคาเป้าหมาย 5 บาท ลดลง 34% เค อาร์ พรีซิชั่น (KRP) ราคาเฉลี่ย 3.64 บาท เป้าหมาย 3 บาท ลดลง 30% ทางด่วนกรุงเทพ (BEC) ราคาเฉลี่ย 260 บาท ราคาเป้าหมาย 200 บาท ลดลง 23% ธนาคารกรุงไทย (KTB) ราคาเฉลี่ย 9.45 บาท ราคาเป้าหมาย 8 บาทลดลง 15% และโมเดอร์น ฟอร์ม (MODERN) ราคาเฉลี่ย 28.50 ราคาเป้าหมาย 25 บาท ลดลง 12%

บล.ไทยพาณิชย์เพิ่มทุนเป็น 5 พันล้านบาท

เขากล่าวว่าด้านการดำเนินธุรกิจบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มทุนจดทะเบียนจากปัจจุบัน 1.5 พันล้านบาท เป็น 5 พันล้าน บาท อยากดำเนินการภายในปีนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้ ลงทุนขยายธุรกิจบริษัท

ล่าสุด บริษัทถือหุ้นบริษัทหลักทรัพย์จัดการ กองทุนรวมไทยพาณิชย์ 68% ขณะที่ธนาคารไทยพาณิชย์ถือ 32% ปัจจุบันมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ 2 หมื่น ล้านบาทของกองทุนรวมภายใต้การจัดการของบริษัท ตั้งเป้าหมาย 3 ปี จะเพิ่มเป็น 3 หมื่นล้านบาท

นอกจากนี้ บล.ไทยพาณิชย์ตั้งเป้าปรับสัดส่วน โครงการสร้างรายได้ 3 ปีข้างหน้าต้องการให้พอร์ตลงทุนหุ้นเพิ่มเป็น 40% ของการลงทุนของบริษัททั้งหมด รายได้จากนายหน้าค้าหลักทรัพย์ 30% และ รายได้ธุรกิจวาณิชธนกิจ 30%

ปัจจุบัน รายได้นายหน้าค้าหลักทรัพย์ 60% ของ รายได้บริษัททั้งหมด และรายได้วาณิชธนกิจ 40% มี โอกาสจะปรับสัดส่วน แล้วแต่ว่าภายในปีนี้ บริษัท จะเป็นที่ปรึกษาการเงินนำบริษัทจดทะเบียนในตลาด หุ้นไทยจำนวนเท่าใด

ขณะนี้ลูกค้าเซ็นสัญญาแล้ว แต่อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อม ได้แก่ บริษัทกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ 3 บริษัท ขนาดระดมทุนรวมประมาณ 6-8 พันล้านบาท บริษัทอุปโภคบริโภค 1 บริษัท 1.5-2 พันล้านบาท กลุ่มธุรกิจสื่อและสื่อสาร 1 บริษัท มูลค่า 8 ร้อย ล้านบาท

ส่วนการเป็นที่ปรึกษาการเงินรัฐวิสหากิจและบริษัทขนาดใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะสามารถขายหุ้นประชาชนทั่วไปได้ปีหน้า ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต ทศท. และบริษัท เบียร์ไทย 1991 เจ้าของเบียร์ช้างของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี

ได้ดีลทีพีไอ-ขาดทุนแบงก์ไทย 100 ล้าน

ดังนั้น ธุรกิจวาณิชธนกิจปีหน้า คาดจะมีรายได้ เพิ่มขึ้นสูงจากปีนี้ รวมทั้งบริษัทรับทำหน้าที่ที่ปรึกษา การเงินบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย (TPI) ปรับโครงสร้างหนี้บริษัท ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 3-4 เดือน ตรวจสอบและประเมินว่าต้องแก้ไขอะไรบ้าง

ผลดำเนินงานบริษัทครึ่งปีแรก กำไรสุทธิ 90 ล้านบาท สาเหตุที่กำไรไม่มาก เนื่องจากบริษัทต้อง ตั้งสำรองขาดทุนถือหุ้นไทยธนาคาร (BT) ที่ต้องรับเข้าพอร์ตเหตุขายหุ้นให้ประชาชนไม่หมด 100 ล้านบาท ซึ่งปีนี้บริษัทตั้งประมาณการกำไรสุทธิ 300 ล้าน บาท เมื่อเทียบกับปีก่อน 200 ล้านบาท

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us