เบสท์เวสเทิร์น ปรับแผนรับมือวิกฤตเศรษฐกิจ เล็งออกแบรนด์โรงแรมระดับ 3 ดาว อัดงบ 68 ล้านบาท โหมทำตลาดและประชาสัมพันธ์ เจาะประเทศเศรษฐกิจดี อย่างจีน อินเดียและตะวันออกกลาง ด้านแผนลงทุนยันเดินหน้าต่อเนื่อง คลอดโรงแรม 5 ดาว 3โครงการปีนี้

นายเกลน ซูซ่า รองประธานบริหารฝ่ายปฏิบัติการ ภาคพื้นเอเชีย เครือโรงแรม เบสท์ เวสเทิร์น อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า โรงแรมเตรียมแผนลงทุนเปิดโรงแรมระดับ 3 ดาว คาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ภายในปี 2554 โดยต้นทุนค่าก่อสร้างจะเฉลี่ยประมาณห้องละ 1.2 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการคิดชื่อว่าจะเรียกว่าแบรนด์อะไร ซึ่งลูกค้าที่ใช้แบรนด์ใหม่นี้จะประหยัดงบต้นทุนด้านบุคลากร อีกทั้งยังประเมินค่าใช้จ่าย ต้นทุน รายได้ จากรูปแบบการบริการที่มีมาตรฐานเดียวกันได้

แนวคิดการบุกตลาดโรงแรมระดับ 3 ดาว ก็เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจโลก และพฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป จากวิกฤตเศรษฐกิจโลกทำให้ภาพรวมของการเดินทางท่องเที่ยวได้รับผลกระทบ มีผลให้ปี 2552 จำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางชะลอตัวลง จึงทำให้สายการบินต้นทุนต่ำ และโรงแรมระดับ 3 ดาว มีลูกค้าใช้บริการเพิ่มขึ้น

แนวทางทำธุรกิจโรงแรมระดับ 3 ดาว ของ เบสท์ เวสเทิร์น จะเริ่มเปิดตัวแบรนด์ในปี 2553 เพื่อสร้างการรับรู้ทางการตลาด ส่วนราคาห้องพักของโรงแรมระดับ 3 ดาว จะถูกกว่าห้องพักระดับ 3.5-4 ดาวในเครือเบสท์ เวสเทิร์น อย่างน้อย 25% เป้าหมายคือผู้ใช้บริการในระดับกลาง-บน จะเริ่มให้บริการโรงแรมระดับ 3 ดาวนี้ ตั้งแต่ปี 2553 ใน 3 ประเทศคือ ญี่ปุ่น เกาหลี และ อินโดนีเซีย ส่วนประเทศไทย จะทยอยเปิดในช่วงถัดไป

นอกจากนั้น บริษัทยังมีแผนยกระดับ โรงแรมเบสท์ เวสเทิร์น พรีเมีย ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวให้มีมาตรฐานที่ดียิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถแข่งขันกับโรงแรมขนาดใหญ่รายอื่นๆ ลูกค้าหลักจะเป็นระดับบน เศรษฐีและนักธุรกิจ ส่วนราคาค่าห้องพักจะแพงกว่าโรงแรมระดับ 3 ดาวอยู่ราว 30%

นายซูซ่า กล่าวอีกว่า ด้านการลงทุนในประเทศไทย ปีนี้ จะทยอยเปิดให้บริการโรงแรม 5 ดาว อีก 3 แห่ง ที่ หัวหิน พัทยา และ ภูเก็ต จากแผนที่เตรียมไว้ 8 แห่งในปีนี้ โดยส่วนหนึ่งเป็นโครงการที่ชะลอมาจากปีก่อน ซึ่งการปรับปรุงแบรนด์ให้มีความชัดเจนเป็นมาตรฐานและคุณภาพในแบรนด์สินค้า 3 ตลาด คือระดับ 3,4และ5ดาว เชื่อว่าจะช่วยให้เบสท์ เวสเทิร์นสามารถทำตลาดได้ง่ายขึ้น

อย่างไรก็ตามจากผลกระทบทางการเมืองและเศรษฐกิจในปีนี้ อาจทำให้โรงแรมของเบสท์ เวส เทิร์น 12 แห่งในประเทศไทยมีอัตราเข้าพักเฉลี่ยลดลงเหลือ 60-65% จากทุกปีจะเฉลี่ยที่ 78% ทำให้ทางบริษัทได้จัดงบประมาณ 68 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อน 25% เพื่อใช้ทำงานด้านการตลาด จัดโปรโมชั่น เน้นเรื่องการเพิ่มมูลค่าการบริการให้แก่ลูกค้า

ทั้งนี้เบสท์ เวสเทิร์น อินเตอร์เนชั่นแนล ปีหน้าเตรียมงบกว่า 1,360 ล้านบาท เพื่อสร้างแบรนด์ทั่งโลกและทำโปรโมชั่นในแต่ละภูมิภาค เชื่อว่ากลยุทธ์นี้จะช่วยให้ธุรกิจเกิดการเติบโต และมั่นใจว่าจากผลกระทบวิกฤตเศรษฐกิจโลก โรงแรมหลายแห่งจะต้องการทีมบริหารมืออาชีพที่เป็นแบรนด์ระดับสากลเข้าไปช่วยทำตลาด จึงเป็นโอกาสของการขยายงานของเบสท์ เวส เทิร์นเช่นกัน ตลาดที่เราจะรุกขยายเพิ่มขึ้นได้แก่ จีน อินเดีย และ ตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นประเทศที่ยังมีเศรษฐกิจดี ซึ่งปีที่ผ่านมาเบสท์ เวสเทิร์นเติบโตในแง่อัตราเข้าพักเฉลี่ย 6% ทั่วโลก โดยในเอเชียมีอัตราเติบโตมากถึง 10%