ประธานบอร์ดแบงก์ทหารไทย (TMB) ยันผู้ถือหุ้นเดิมพร้อมใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนทุกราย
ขณะเดียวกัน เตรียมดึงพันธมิตรร่วมทุน 1 ราย หลังกระบวนการเพิ่มทุนเสร็จ ก.ย.
นี้ พร้อมนำหุ้นเพิ่มทุนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ต.ค. คาดผู้ร่วมทุนใหม่ ได้สัดส่วน
หุ้นประมาณ 20-25% ส่วนหนี้เสียแบงก์ แบงก์ชฎา (SCIB)-บริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์การ
(BAM) สนใจ ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อ 6 พันล้านบาทต้น ปี 47 ขณะที่คลังเลือก บล.
ฟินันซ่า ได้เค้กก้อนใหญ่ที่ปรึกษาการเงินกองทุนวายุภักษ์
นายสมหมาย ภาษี รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการธนาคารทหารไทย
(TMB) เปิดเผยวานนี้ (26 ส.ค.) ว่าการประชุมคณะกรรมการธนาคารเมื่อวันจันทร์ที่
25 ส.ค. ธนาคารสอบถามผู้ถือหุ้นหลัก และขอคำตอบเป็นทางการ ใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนธนาคาร
ผู้ถือหุ้นใหญ่ธนาคารประกอบด้วย กระทรวงการคลัง ไทยประกันชีวิต นายพานทองแท้
ชินวัตร และกลุ่มทหาร 3 เหล่าทัพ ว่าจะใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนหรือไม่ ซึ่งทุกราย
ก็พร้อมจะใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนตามสัดส่วนของตนเอง และแนวโน้มสนใจซื้อหุ้นมากกว่าสิทธิที่ได้รับ
ยกเว้นคลังที่จะใช้สิทธิตามสัดส่วนเดิมเท่านั้น
หาพันธมิตรร่วมทุนอีกราย
นอกจากนี้ ยังได้หารือส่วนการแสวงหาพันธมิตรร่วมทุนด้วย โดยยืนยันว่าจะหาพันธมิตรร่วมทุน
1 ราย หลังจากกระบวนการเพิ่มทุนเสร็จ ก.ย. และจะนำหุ้นเพิ่มทุนเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์
ต.ค. โดยผู้จะร่วมทุนใหม่ จะซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นใหญ่สัดส่วนไม่เกิน 20-25% ของหุ้นทั้งหมด
ขณะนี้ผู้สนใจร่วมลงทุนประมาณ 2 ราย แต่คงเลือกให้เหลือเพียงรายเดียว ยังเร็วเกินไป
ที่จะสำรวจคุณภาพสินทรัพย์ธนาคาร คงต้องรอให้กระบวนการเพิ่มทุนเสร็จก่อน ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่ธนาคารจัดการหนี้เสียออกไปแล้ว
ขายหนี้เน่า 2 หมื่นล้าน ก.ย.
แผนจัดการหนี้เสีย จะขายหนี้ก้อนแรก 20,000 ล้านบาท ภายในก.ย. ซึ่งกองทุน 4-5
ราย สนใจจะซื้อรวมทั้งธนาคารนครหลวงไทย และ บรรษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์การ
นายสุภัค ศิวะรักษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ รักษาการแทนผู้จัดการใหญ่ ธนาคาร
ทหารไทย กล่าวว่าแนวทางเพิ่มทุนที่ธนาคารดำเนินการอยู่ คือส่งรายละเอียดเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้น
ทั้งรายใหญ่และรายย่อยรับทราบ
การประชุมผู้ถือหุ้นพรุ่งนี้ (28 ส.ค.) น่าจะได้รับคำตอบน่าพอใจจากผู้ถือหุ้นธนาคาร
คาดว่าผู้ถือหุ้นเดิมธนาคารจะใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้ โดยจะเปิดรับจองหุ้น
9-16 ก.ย. นี้ หากผู้ถือหุ้นไม่ยอมใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุน กระทรวงการคลังก็พร้อมที่จะรับหุ้นส่วนนี้
นายสุภัคกล่าวว่า การเพิ่มทุน 22,417 ล้านบาท ธนาคารจะนำไถ่ถอนหุ้นกู้ด้อยสิทธิและหุ้นบุริมสิทธิ
(ซูเปอร์แคปส์) โดยจะไถ่ถอนหมด 1.6 หมื่นล้านบาท ส่วนที่เหลือ 6,000 ล้านบาท จะใช้ตั้งสำรองเพิ่มเพื่อรองรับหนี้เสีย
ส่วนการแก้ปัญหาหนี้เน่าที่เหลือของธนาคาร ธนาคารคงต้องลดเอ็นพีแอลก่อน และขาย
หนี้เน่าบางส่วนที่ไม่มั่นใจว่าจะได้คืนออกไป จะสามารถลดเอ็นพีแอลได้อีก 10,000
ล้านบาท หลังจากขายหนี้เน่าให้ บบส. พญาไท 30,000 ล้าน บาท
นอกจากนี้ ธนาคารยังเตรียมลดหนี้ที่ผ่านการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้ว อีก 10,000
ล้านบาท ดังนั้นภายในสิ้นปีนี้ ธนาคารจะลดหนี้ให้ได้รวม 50,000 ล้านบาท ซึ่งการไถ่ถอนครั้งนี้
จะช่วยให้ธนาคารประหยัดดอกเบี้ยได้อย่างน้อย 1.7 พันล้านบาทต่อปี หรือประมาณ 12.5%
ขณะนี้ ธนาคารเตรียมขายหนี้เน่าในบริษัท บริหารสินทรัพย์พญาไท (PAM) บริษัทในเครือธนาคาร
เพื่อช่วยลดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็น พีแอล) ทั้งสิ้น 30,000 ล้านบาท ขณะนี้บรรษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์การ(BAM)
และรายอื่นอีก 2-3 ราย ติดต่อขอซื้อ
ทำให้ปัจจุบัน ธนาคารมีเอ็นพีแอลรวม 70,000 ล้านบาท หรือประมาณ 20% ของสินเชื่อรวม
จะเหลือเฉพาะเอ็นพีแอลของธนาคาร 40,000 ล้านบาท หรือ 10% ของสินเชื่อรวม
ตั้งเป้าปล่อยกู้ 6 พันล้านต้นปี 47
นายสุภัคกล่าวว่า ภายในสิ้นปีนี้ จะพยายามขายหนี้เน่าในธนาคารที่เหลือ เพื่อเป็นธนาคารสะอาดไม่มีภาระหนี้เสียให้ได้
หลังเพิ่มทุน ช่วงต้นปีหน้าธนาคารจะเร่งปล่อยสินเชื่อให้ได้ประ มาณ 6,000 ล้านบาท
เพื่อสร้างรายได้ทำกำไรให้ ธนาคารทั้งนี้ต้องดูความคืบหน้าการลดหนี้เน่าด้วย
ส่วนสินเชื่อ กระจายไปลูกค้าหลายระดับ โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
(เอสเอ็มอี) เพราะธนาคารมีโอกาสปล่อยสินเชื่อนี้มาก ปล่อยผ่านเครือข่ายสาขาธนาคารทั้งหมด
360 แห่งทั่วประเทศปัจจุบัน ธุรกิจเอสเอ็มอีกำลังเติบโตไปได้สวย รวมถึงควบคุมความเสี่ยงที่ดีอีกด้วย
คลังเลือก บล.ฟินันซ่าที่ปรึกษากองทุนวายุภักษ์
ทางด้านนายวิจิตร สุพินิจ ที่ปรึกษา รมว. คลัง ในฐานะคณะกรรมการคัดเลือกที่ปรึกษาการเงินกองทุนวายุภักษ์
เปิดเผยว่าวันศุกร์ที่ 29 ส.ค. นี้ จะสรุปผลคัดเลือกที่ปรึกษาการเงินเสนอ ร.อ.สุชาติ
เชาว์วิศิษฐ รมว.คลัง พิจารณา หลังจากฝ่ายหลังเดินทางกลับจากต่างประเทศ
ด้านแหล่งข่าวกระทรวงการคลัง กล่าวว่าผู้ชนะคัดเลือกเป็นที่ปรึกษากองทุนวายุภักษ์
ได้แก่ บล.ฟินันซ่า โดยบริษัทแสดงเงื่อนไขต่างๆ ให้คณะกรรมการรับทราบได้เป็นที่พอใจมากกว่าบริษัทอื่น
ๆ แต่ต้องได้รับความเห็นชอบจาก รมว.คลังก่อน จึงจะสามารถประกาศเป็นทางการได้
นายวรา สุจริตกุล กรรมการบริหาร บล. ฟินันซ่า เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 22 ส.ค.
กระทรวงการคลังมีจดหมายเชิญ บล.ฟินันซ่า เพื่อสัมภาษณ์ครั้งสุดท้าย โดย บล.ฟินันซ่ามั่นใจพอสมควร
ว่าจะได้รับงานดังกล่าว เนื่องจากที่ผ่านมามีผลงานด้านทำธุรกิจกองทุนพอสมควร
ซึ่งถนัด และสามารถมองตลาดด้านนี้ออก
บริษัทหลักทรัพย์ที่เสนอเป็นที่ปรึกษาการเงินกองทุนวายุภักษ์ ประมาณ 3-4 ราย
เช่น บล. ทิสโก้ บล.แอสเซส พลัส บล.ฟินันซ่า ซึ่งเขากล่าว ว่าต้องรอผลสัมภาษณ์ก่อน
จึงจะสรุปได้ว่า บล.ฟินันซ่าได้รับงานนี้หรือไม่
