|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
แกรมมี่ปรับทัพรับเทรนด์อุตฯบันเทิงในอนาคต มุ่งทำตลาดแบบเจาะลึก จับฐานผู้บริโภคเป็นเซ็กเม้นท์มากยิ่งขึ้น ชูดิจิตอลต่อยอดรายได้ พัฒนาศิลปินโกอินเตอร์ ชนศึกนิวมีเดียเดินหน้าผุดทีวีดาวเทียมครบ 5 ช่อง มั่นใจคุมกำไรได้สูงขี้น ส่วนรายได้ เชื่อยอดโตไม่ต่ำกว่าปีก่อน
นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมรายได้ในปี 2551 แนวโน้มน่าเป็นไปตามที่คาดไว้ว่า หรือเติบโตขึ้น 2-3% จาก7,500 ล้านบาทในปี 2550 ขณะที่กำไรมั่นใจว่าจะเติบโตสูงสุดในรอบ 25 ปี มากกว่า 700 ล้านบาท ที่เคยทำได้ในปี 2547 ซึ่งแนวโน้มผลประกอบการที่ดีขึ้นนี้ เนื่องจากบริษัทฯมีการเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาเรื่องของเทคโนโลยี ที่เคยส่งผลต่ออุตสาหกรรมเพลงในช่วง 2-3 ปีก่อนที่ผ่านมา โดยมุ่งเรื่องของดิจิตอล และนิวมีเดียมาเป็นเครื่องมือในการต่อยอดรายได้
และจากกระแสอุตสาหกรรมบันเทิงไทยในช่วง 3-5 ปีนับจากนี้ มองว่า 1.คอนเท้นท์และมีเดียจะมีความเป็นเซกเม้นท์มากยิ่งขึ้น ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด 2.กระแส Cross Colture จะเป็นโอกาสในการสร้างรายได้มากขึ้น และ3. ความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี ทำให้ดิจิตอล คอนเท้นท์มีบทบาทมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้แผนการดำเนินงานของแกรมมี่ในปีนี้ จะมุ่งสร้างโทเทล เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ แพลทฟอร์ม โดยมุ่ง4เรื่องหลัก คือ 1.คอนเท้นท์ (Content) 2.ทาเลนต์ (Talent) 3. ช่องทางการสื่อสารเพื่อเข้าถึงผู้บริโภค (Media) และ4.ช่องทางการสร้างรายได้ (Distribution)
โดยจะมุ่งเน้นทำตลาดใน 2 เรื่องหลัก คือ 1.ดิจิตอล แพลทฟอร์ท เนื่องจากพบว่าเป็นธุรกิจใหม่ที่สร้างกำไรให้อย่างสูง ไม่ต่ำกว่า 60-70%จากต้นทุนเดิม เช่นSubscription Model ที่ร่วมกับดีแทคในแคมเปญ Happy Vampires ให้ผู้บริโภคดาวน์โหลดเพลงได้ไม่จำกัด ค่าบริการ 20 บาทต่อเดือน ในเดือนมี.ค.ที่จะถึงนี้คาดว่าจะมีฐานสมาชิกที่ 1 ล้านคน โดยในปี2552นี้ บริษัทฯจะร่วมกับผู้ให้บริการสัญญาณมือถือที่เหลือทั้งหมด หรือทั้งปีคาดว่าจะมีฐานสมาชิกกับการทำSubscription Model ถึง 4-5 ล้านคน
2.การทำตลาดต่างประเทศ จะมีการพัฒนาศิลปินให้มีความสามารถและจะเปิดการแสดงในระดับโลกต่อไป จากขณะนี้ได้รับความนิยมในเอเชียค่อนข้างมาก อย่าง ไอซ์-ศรัญยู,ชิน-ชินวุฒิ และกอล์ฟ-ไมค์ พร้อมทั้งพัฒนาศิลปินหน้าใหม่เข้าสู่วงการอีกอย่างต่อเนื่อง
“ปีนี้บริษัทฯจะมุ่งเรื่องการทำตลาดแบบเซกเม้นท์เตชั่น ทั้งเรื่องของคอนเท้นท์เพลง และมีเดีย โดยวิธีการทำตลาดเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคแต่ละกลุ่มนั้น จะใช้ซีอาร์เอ็ม มาเก็ตติ้ง เป็นหลัก ซึ่งกลุ่มดิจิตอลเชื่อว่าจะเป็นตัวที่สร้างรายได้และกำไรให้มากที่สุด”
นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามจากสภาพเศรษฐกิจในปีนี้ มองว่าภาพรวมอุตสาหกรรมบันเทิงอาจจะทรงตัว ดังนั้นภาพรวมรายได้ของแกรมมี่ในปี2552 เบื้องต้นคาดว่าจะทำได้เท่าปีก่อน หรือไม่ต่ำกว่า 7,500 ล้านบาท แต่ในแง่กำไรนั้น เชื่อมั่นว่าจะเติบโตมากกว่าที่คาดหมายไว้ในปี 2551 ที่ผ่านมา โดยตัวเลขกำไร 9 เดือนของปี 2551 เติบโตประมาณ 30% คิดเป็นมูลค่าที่ 457 ล้านบาท ดังนั้นคาดว่าทั้งปีน่าจะมีแนวโน้มตัวเลขเติบโตในระดับเดียวกัน หรือมากกว่า 700 ล้านบาท ที่เคยทำได้ในปี 2547
ทั้งนี้ในส่วนของกลุ่มรายได้หลักนั้น 60%ยังมาจากมิวสิค และภาพยนตร์ และอีก 40%มาจากสื่อมีเดีย ซึ่งในส่วนของมิวสิคนั้น ปีที่ผ่านมา มีสัดส่วนรายได้จากดิจิตอลอยู่ที่ 18% ของรายได้รวมทั้งหมด ขณะที่ในปี 2552 มองว่ารายได้เพลงที่มาจากดิจิตอลนี้จะเพิ่มขึ้นอีก 30% ซึ่งหากภาพรวมรายได้ของเพลงดีขึ้น สัดส่วนของดิจิตอลก็น่าจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
สำหรับทางด้านมีเดียใหม่อย่างทีวีดาวเทียม จากเดิมที่เปิดให้บริการแล้ว 1 ช่อง คือ ช่อง FAN TV เมื่อเดือนต.ค.ปีที่ผ่านมา ปีนี้จะเปิดให้ครบ 5 ช่อง โดยช่องที่เหลือ คือ BANG Channel, Green Channel, Acts Channel และ Bird Channel ภายใต้งบลงทุนรวม 500 ล้านบาท
|
|
|
|
|