Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน21 มกราคม 2552
แบงก์เพิ่งตื่นลดดอกเบี้ย "บัวหลวง-กสิกร"หั่นเงินกู้0.25%             
 


   
search resources

Interest Rate




ผ่านไปเกือบสัปดาห์หลัง ธปท.ประกาศลดดอกเบี้ยนโยบาย แบงก์พาณิชย์เพิ่งตื่น "กรุงเทพ-กสิกรฯ" ลดแล้วดอกเบี้ยทั้ง 2 ขา เผยดอกเบี้ยกู้ลด 0.25% ส่งผล MRR เหลือ 7% ส่วนดอกเบี้ยฝากประจำหนักกว่าลดตั้งแต่ 0.25 ถึง 0.50% อั้นออมทรัพย์ที่ระดับ 0.75% ขณะที่แบงก์ขนากลาง "ทหารไทย" เตรียมปรับลดตาม

รายงานข่าวจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.25% รายละเอียดประกอบด้วย อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (Minimum Loan Rate) หรือ MLR จาก 6.75% เป็น 6.50% อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (Minimum Overdraft Rate) หรือ MOR จาก 7.00% เป็น 6.75% และอัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายย่อยชั้นดี (Minimum Retail Rate) หรือ MRR จาก 7.25% เป็น 7.00%

ด้านเงินฝาก ได้มีการประกาศปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำระยะยาว สำหรับบุคคลธรรมดา โดยเงินฝากประจำ 3 เดือน วงเงินฝากน้อยกว่า 3 ล้านบาท จาก 1.50% เป็น 1.25% วงเงินฝากตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป จาก 1.75% เป็น 1.50% เงินฝากประจำ 6 เดือน จาก 1.75% เป็น 1.50% เงินฝากประจำ 12 เดือน 1.75% ไม่เปลี่ยนแปลง เงินฝากประจำ 24 เดือน และ 36 เดือน จาก 2.50% เป็น 2.00% โดยทั้ง 2 ด้านมีผลเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2552

ด้านนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)หรือ KBANK กล่าวว่า ธนาคารได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลงเพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้โดยได้ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภทลง 0.25% ทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) อยู่ที่ 6.50% อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) อยู่ที่ 6.75% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี(MRR) อยู่ที่ 7.0%

สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ3 เดือน ลดลงจาก 1.35-1.75% มาอยู่ที่ 1.0-1.25% เงินฝากประจำ 6 เดือน ลดจาก 1.50-1.75% มาอยู่ที่ 1.15-1.25% เงินฝากประจำ 12 เดือน ลดจาก 1.60-1.75% มาอยู่ที่ 1.25% เงินฝากประจำ 24 เดือน ลดจาก 2.25-2.50% มาอยู่ที่ 1.75-2.0% และเงินฝากประจำ 36 เดือน ลดจาก2.50% มาอยู่ที่ 2.0%

อัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์ นิติบุคคล สถาบันการเงิน กองทุนโรงพยาบาล สถานศึกษาหน่วยราชการ ลดจาก 0.50% มาอยู่ที่ 0.25% ส่วนอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์สำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดาทั่วไปยังคงอยู่ที่ 0.75% โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2552 เป็นต้นไป

TMB จ่อลดตามแบงก์ใหญ่

นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB เปิดเผยว่า ธนาคารจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่มีการปรับไปวันนี้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการว่าจะลดวันไหน เท่าไร แต่โดยรวมแล้วทิศทางดอกเบี้ยของธนาคารก็ต้องเป็นไปตามตลาดและขึ้นอยู่กับสภาพคล่อง

"ถ้าแบงก์ใหญ่ลดเราก็คงลดตามเพราะเราไม่ใช่ผู้นำ ซึ่งถ้ามีการประชุมวันนี้ก็ประกาศลดวันพรุ่งนี้ได้ ซึ่งในส่วนของ NIM (ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ) ก็จะลดลงตาม เพราะในภาวะดอกเบี้ยขาลงดอกเบี้ยเงินกู้จะผลทันที แต่ดอกเบี้ยเงินฝากต้องรอให้ครบอายุก่อนจึงจะมีผลในชุดถัดไป นอกจากนี้ยังมองว่าในภาวะดอกเบี้ยขาลงจะเป็นปัจจัยเอื้อให้บริษัทต่างๆ ออกหุ้นกู้ได้มากขึ้นด้วย เพราะต้นทุนในการออกหุ้นกู้จะลดลง" นายบุญทักษ์ กล่าว

ส่วนกรณีที่ธนาคารขนาดใหญ่มีการลดดอกเบี้ยออมทรัพย์นิติบุคคลนั้น ว่า ก็เป็นไปได้ที่อัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์อาจจะลดลงตาม

โดยก่อนหน้านี้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้น 100% ได้ตัดสินใจประกาศลดดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ หลังคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ได้ประกาศลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.75% เป็นแห่งแรกเมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อให้สอดคล้องกับแนวนโยบายการคลังของรัฐบาล ที่ได้ผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) 1.15 แสนล้านบาท ใน 18 โครงการ รวมถึงการเพิ่มทุนให้แก่ธนาคารของรัฐในการเพิ่มประสิทธิภาพในการปล่อยสินเชื่อให้แก่ภาคธุรกิจ

นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ได่กล่าวว่า ในฐานะที่ ธอส.เป็นผู้นำสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย จึงได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงอีก 0.25% โดยลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MRR จากเดิม 7.00% เหลือ 6.75% ซึ่งอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบลอยตัวพิเศษของ ธอส.เท่ากับ MRR - 2.00% ในปีที่ 1 ถึง 3 หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MRR - 0.50 ตลอดอายุสัญญากู้ (ปัจจุบัน MRR เท่ากับ 6.75%) จากการที่ธนาคารได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในช่วงนี้ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ได้ลดลงมากเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ทั้งนี้สามารถช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในเรื่องที่อยู่อาศัยให้แก่ลูกค้าธนาคารได้อีกทางด้วย ภายใต้สภาวะวิกฤตเศรษฐกิจปัจจุบัน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค.52 เป็นต้นไป

ในส่วนของอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ธนาคารได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำและตั๋วสัญญาใช้เงินทุกประเภทลงอีก 0.50% โดยอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำประเภท 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี ลดลงเหลือ 1.75 % อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำประเภท 2 ปี 3 ปี และ 5 ปี ลดลงเหลือ 2.50% ส่วนเงินฝากประจำสินเคหะปรับลดลงเหลือ 1.75% (ฝากครบ 24 งวด ธนาคารบวกดอกเบี้ยโบนัสเพิ่มให้อีก 1.00%) ทั้งนี้ ธนาคารได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยตั๋วสัญญาใช้เงินประเภท 7 วัน และ 14 วัน เหลือ 1.00% ตั๋วสัญญาใช้เงินประเภท 1 เดือน และ 2 เดือน ลดลงเหลือ 1.50% ตั๋วสัญญาใช้เงินประเภท 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี ลดลงเหลือ 1.75% ส่วนตั๋วสัญญาใช้เงินประเภท 2 ปี 3 ปี และ 5 ปี ลดลงเหลือ 2.50%

นอกจากนี้ ธนาคารยังได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์พิเศษจากเดิม 2.25% เป็น 1.75% ต่อปี ทั้งนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค. 2552 เป็นต้นไป   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us