Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน22 สิงหาคม 2546
ธุรกิจเช่าซื้อเดือดตลาดรถ-จยย.พุ่ง             
 


   
search resources

ธนชาต, บล.
ฐิติกร, บมจ.
วี.เค.คาร์ พลาซ่า
ชุมพล พรประภา
บัณฑิต ชีวะธนรักษ์
ปฐมา พรประภา
Vehicle




อานิสงส์ตลาดรถยนต์-จักรยานยนต์พุ่งสูงสุด แต่ละตลาดทุบสถิติเป็นว่าเล่น ทั้งที่ผ่าน ไปเพียง 7 เดือน ทำให้ธุรกิจเช่าซื้อรถทั้งสองประเภทแข่งเดือด บรรดาผู้นำต่างออกมาป้องตำแหน่งแชมป์ อย่างเต็มที่ กลุ่มฐิติกรของตระกูลพรประภา เตรียมระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ นำเงินมาเพิ่มพอร์ตสินเชื่อจยย.และขยายสาขา ขณะที่กลุ่มธนชาติอัดวงเงินกว่า 4 หมื่นล้านบาท ดันยอดเช่าซื้อรถยนต์ทะลุแสน คัน พร้อมทุ่มงบเกือบร้อยล้านรุกเช่าซื้อรถมือสอง ด้านวิริยะกรุ๊ปสวนหมัดเปิดศูนย์รถมือสองสู้ทันที

ตลาดรถ-จยย.ทุบสถิติ

จากการที่ธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์ในปีนี้ มีอัตราการขยายตัวอย่างมาก ดังจะเห็นได้จากตลาดรถยนต์ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ค.) มียอดขายรวมแล้วร่วม 3 แสนคัน โดยเฉพาะเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งทุกปีจะเป็นช่วงโลว์ซีซั่น แต่ปรากฏว่าปีนี้สามารถทำยอดขายได้เกิน 4.5 หมื่น คัน ถือว่าเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบหลายปี ดังนั้นภายในสิ้นปีนี้ตัวเลข รวมทั้งตลาด จึงน่าจะปิดที่ประมาณ 5 แสนคันจากเดิมที่คาดไว้ประมาณ 4.7 แสนคันเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

ขณะที่ตลาดรถจักยานยนต์ก็เช่นเดียวกัน ผ่านไป 7 เดือน ทำยอดขายรวมแล้ว กว่า 1 ล้านคัน ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่ในวงการตลาดรถจักรยานยนต์ไทย เพราะในปี 2539 ที่เป็นปีที่ตลาดรถจักรยานยนต์มากที่สุด ยังต้องใช้เวลาถึง 9 เดือน จึงจะทำตัวเลขได้เลยหลักล้านคัน เหตุนี้จึงเป็นที่แน่นอนแล้วว่าตลาดรถจักรยานยนต์ปีนี้น่าจะอยู่ที่ระดับ 1.7-1.8 ล้านคัน ถือเป็นตัวเลขมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในตลาดรถจักรยานยนต์ไทย

จากทิศทางธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยที่เติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ ทำให้ธุรกิจเกี่ยวเนื่องต่างๆ พลอยได้รับผลดีตามไปด้วย เช่นเดียวกับธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ที่ได้รับอานิสงส์โดย ตรงจากยอดขายรถที่เพิ่มขึ้น โดยบรรดาผู้นำแต่ละตลาดต่างออกมา ประกาศเป้าหมาย และกลยุทธ์ เพื่อป้องกันตำแหน่งแชมป์ของตนเองอย่างเต็มที่

ฐิติกรระดมทุนตลท.สู้

นายชุมพล พรประภา ประธานกรรมการ บริษัท ฐิติกร จำกัด(มหาชน) ผู้ให้บริการสินเช่าซื้อรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของประเทศ เปิดเผยแนวนโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯว่า จากทิศทางการเติบโตของตลาดรถจักรยานยนต์ที่คาดว่า ปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 5 แสนคัน และตลาดรถจักรยานยนต์ที่ประมาณ 1.7-1.8 ล้านคัน ผลของการขยายตัวเช่นนี้จะทำให้ธุรกิจเช่าซื้อมีการแข่งขันกันรุนแรงมากขึ้น ซึ่งบริษัทจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อรองรับการเติบโตและการแข่งขันที่เกิดขึ้น

"เพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ และขยายสัดส่วนในตลาดรถยนต์ กลุ่มฐิติกรจึงมุ่งเน้นที่จะปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่เป็นหลัก โดยตั้งเป้าเติบโตเฉลี่ยต่อปีไม่ต่ำกว่า 15% ขณะที่รถยนต์จะรักษาแนวทางเดิม ปล่อยสินเชื่อทั้งรถเก่าและรถใหม่ รวมทั้งศึกษาการขยายธุรกิจไปยังการให้บริการสินเชื่อรายย่อยด้านอื่นๆ รวมถึงสินเชื่อบุคคลด้วย"

สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯ ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ มีรายได้จากการเช่าซื้อประมาณ 347 ล้านบาท เป็นรายได้จากการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ 75% และรายได้จากเช่าซื้อรถยนต์ 15% และรายได้จากค่าธรรมเนียม ค่าบริการ และอื่นๆ 10% โดยในปีนี้บริษัทฯ ตั้งพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถทั้งสองประเภทไว้ที่ 6,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ประมาณ 4.5 พันล้านบาท และสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ 1.5 พันล้านบาท ในส่วนปีที่ผ่านมาปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อไปทั้งหมดประมาณ 5.8 พันล้านบาท โดยมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับหนึ่งใน ตลาดรถจักรยานยนต์ 37%

นางสาวปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เพื่อรองรับนโยบายบริษัทที่จะขยายธุรกิจมากขึ้น จึงได้เตรียมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ โดยคาดว่าจะเริ่มซื้อขายหุ้นได้ประมาณปลายเดือนกันยายนนี้ และจะเปลี่ยนแปลงราคาตามมูลค่าที่ตราไว้(พาร์) จาก 5 บาท เป็น 1 บาท ส่งผลให้สัดส่วนการเสนอขายหุ้นสามัญ ให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก(ไอพีโอ) เพิ่มขึ้นจาก 20 ล้านหุ้น เป็น 100 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 20% ของทุนจดทะเบียน 400 ล้านบท

"การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อมากขึ้น รองรับการเติบโตของธุรกิจรถยนต์และรถจักรยานยนต์ โดยเงินทุนจำนวนหนึ่งใช้ในการปรับระบบเช่าซื้อ ชำระหนี้บางส่วน และใช้ในการขยายสาขาให้ครอบคลุมการบริการมากขึ้น" นางสาวปฐมากล่าว

โดยการเพิ่มสาขาในปีนี้ บริษัทฯมีโครงการที่จะขยายสาขาอีก 3 แห่ง ในเขตภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพิ่มจากสาขาที่มีอยู่ 32 สาขา ขณะที่กลุ่มเครือข่ายของพันธมิตร และเจ้าหน้าที่สินเชื่อสำหรับธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ของบริษัทฯ มีมากกว่า 350 แห่งทั่วประเทศ แบ่งเครือข่ายธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลกว่า 170 แห่ง และกว่า 80 แห่งในต่างจังหวัด ด้านธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์นั้นบริษัทมีเครือข่ายกว่า 100 แห่ง กระจายทั่วพื้นที่ที่ให้บริการ

ธนชาติ-วิริยะกรุ๊ปแลกหมัด

นายบัณฑิต ชีวะธนรักษ์ กรรมการผู้จัดการ สายธุรกิจสินเชื่อและเช่าซื้อ บริษัท เงินทุน ธนชาติ จำกัด(มหาชน) จำกัด บริษัทในกลุ่มธนชาติที่เป็น กลุ่มสถาบันการเงินครบวงจร เปิดเผยว่า การที่ตลาดรถยนต์มีอัตราการเติบโตอย่างมาก ทั้งตลาดรถป้ายแดงและมือสอง ทำให้ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง ดังนั้นบริษัทฯ จึงเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ในการรักษาตำแหน่งผู้นำธุรกิจเช่าซื้อรถ ยนต์ไว้ให้ได้

"ธนชาติจะยังคงรักษาการดำเนินงานเดิมไว้ โดยเฉพาะจุดเด่นที่มีการให้บริการครบวงจร ทั้งเรื่องบริการสินเชื่อ การส่งเสริมการขาย และการบริหารสัมพันธ์ลูกค้า มีเครือข่ายรองรับพร้อม รวมถึงพนักงานกว่า 300 คัน ในการคอยให้บริการลูกค้าอย่างรวดเร็ว ตรงนี้ทำให้กลุ่มธนชาติมั่นใจจะยังรักษา ตำแหน่งผู้นำธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ ด้วยส่วนแบ่งตลาด 24%"

ในส่วนของผลการดำเนินงานในปี 2545 ที่ผ่าน มา กลุ่มธนชาติปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ทั้งป้ายแดงและรถมือสองกว่า 8 หมื่นคัน รวมวงเงินสินเชื่อประมาณ 3.8 หมื่นล้านบาท และคาดว่าในปี 2546 นี้จะสามารถให้บริการเช่าซื้อรถยนต์ทั้งสองประเภทได้ถึงแสนคัน วงเงินรวมประมาณ 4.2 หมื่นล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโตประมาณ 57% โดยแบ่งเป็นรถใหม่ 8 หมื่นคัน และรถมือสอง 2.2 หมื่นคัน โดยในช่วงช่วง 7 เดือน(ม.ค.-ก.ค.)ที่ผ่านมา ปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ไปแล้ว 6 หมื่นคัน วงเงินรวม 2.5 หมื่นล้านบาท

สำหรับในปีนี้กลุ่มธนชาติได้รุกตลาดรถมือสองมากขึ้น โดยเปิดโครงการธนชาติ สมาร์ทคาร์ พลาซ่า บนพื้นที่ 15 ไร่ เพื่อเป็นศูนย์รถยนต์มือสองครบวงจร ที่ใหญ่ที่สุดบนถนนพระราม 9 ด้วยเงินลงทุนกว่า 88.5 ล้านบาท โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 24 ส.ค.นี้

นอกจากกลุ่มธนชาติแล้วที่รุกตลาดรถมือสอง ในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ บริษัท วี.เค.คาร์ พลาซ่า จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของวิริยะกรุ๊ป กลุ่มธุรกิจเช่าซื้อ รายใหญ่ของไทยอีกแห่ง จะทำการเปิดตัวศูนย์รวมรถยนต์ Best Buy เพื่อเป็นศูนย์รวมรถยนต์มือสองชั้นนำแห่งใหม่ ย่านถนนแจ้งวัฒนะขึ้นอีกแห่ง

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us