|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
คณะกรรมการ “ปตท.” ไฟเขียวจัดหาแหล่งทุนมูลค่ากว่า 6.5 หมื่นบาท สำรองไว้ขยายกิจการ-รีไฟแนนซ์ ตามแผนลงทุนระยะยาว 5 ปี พร้อมแก้ไขข้อบังคับบริษัทใหม่ หวังเปิดทางซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารการเงิน ก่อนนำเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นอนุมัติ ขณะที่ราคาหุ้นล่าสุดปิดที่ 158 บาท
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 1/2552 เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2552 ว่า คณะกรรมการได้พิจารณาแผนการลงทุน 5 ปี (ปี 2552-2556) โดยอนุมัติให้จัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อใช้ในการลงทุน หรือทุนหมุนเวียน หรือทดแทนเงินกู้ที่ครบกำหนดชำระ (Refinance) วงเงินรวมประมาณ 65,000 ล้านบาท พร้อมให้นำเสนอแผนการจัดหาเงินกู้ 5 ปีดังกล่าวเพื่อขอความเห็นชอบจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2552
ทั้งนี้ การอนุมัติจัดหาแหล่งเงินกู้จำนวนดังกล่าว คณะกรรมการได้พิจารณาถึงภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์พลังงานทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงประมาณการสถานการณ์ทางการเงิน ประมาณการกระแสเงินสดระยะยาวและอัตราส่วนทางการเงินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ขณะเดียวกัน มติคณะกรรมการครั้งนี้สอดคล้องกับมติคณะกรรมการครั้งที่ 12/2551 ที่มีมติเห็นชอบแผนการลงทุน 5 ปี (ปี 2552 - 2556) ของ ปตท. วงเงินรวมทั้งสิ้น 229,340 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนการลงทุนดังนี้คือ เงินที่ใช้ลงทุนก๊าซธรรมชาติ 132,844 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 58% ของมูลค่าการลงทุนทั้งหมด ธุรกิจน้ำมัน 9,880 ล้านบาท หรือคิดเป็น 4% ลงทุนในบริษัทร่วมทุน 80,618 ล้านบาท หรือคิดเป็น 35% สำนักงานใหญ่และอื่นๆ รวม 5,998 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3%
สำหรับแผนการลงทุนของปตท. ส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนในกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ซึ่งมีโครงการหลักประกอบด้วย โครงการระบบท่อส่งก๊าซฯ โครงการโรงแยกก๊าซฯ หน่วยที่ 6 โครงการโรงแยกก๊าซอีเทน และโครงการก่อสร้างสถานี NGV
ส่วนเงินลงทุนในบริษัทร่วมทุนเป็นเงินลงทุนในบริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด บริษัทปตท. กรีนเอ็นเนอร์ยี่ จำกัด และบริษัท พีทีที อาซาฮี เคมิคอล จำกัด เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ปตท.จะติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจและแผนการดำเนินธุรกิจอย่างใกล้ชิด และอาจพิจารณาปรับแผนการลงทุนตามความจำเป็นและความเหมาะสมหากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีสาระสำคัญ
พร้อมกันนี้ คณะกรรมการบริษัทยังได้มีมติแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของ ปตท. โดยเห็นสมควรเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2552 เพื่อพิจารณาอนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของ ปตท. ข้อ 2 ข้อ 17 ข้อ 49 และ ข้อ 67 ซึ่งข้อที่สำคัญคือ ข้อ 17 ให้ยกเลิกข้อความเดิมและแก้ไขเพิ่มเติมเป็นดังนี้ "ห้ามมิให้บริษัทเป็นเจ้าของหุ้น หรือรับจำนำหุ้นของบริษัทเอง เว้นแต่ในกรณีดังต่อไปนี้
(1) บริษัทอาจซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นที่ออกเสียงไม่เห็นด้วยกับมติของที่ประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งแก้ไขข้อบังคับของบริษัทเกี่ยวกับสิทธิในการออกเสียงลงคะแนน และสิทธิในการรับเงินปันผล ซึ่งผู้ถือหุ้นเห็นว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรม
(2) บริษัทอาจซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน เมื่อบริษัทมีกำไรสะสมและสภาพคล่องส่วนเกิน และการซื้อหุ้นคืนนั้นไม่เป็นเหตุให้บริษัทประสบปัญหาทางการเงิน การซื้อหุ้นของบริษัทคืนต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น เว้นแต่ในกรณีที่บริษัทซื้อหุ้นคืนในจำนวนไม่เกินกว่าร้อยละ 10 ของทุนชำระแล้ว ให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการบริษัท
หุ้นที่บริษัทถืออยู่อันเนื่องมาจากการซื้อหุ้นคืนนั้น จะไม่นับเป็นองค์ประชุมในการประชุมผู้ถือหุ้นรวมทั้งไม่มีสิทธิในการออกเสียงลงคะแนนและสิทธิในการรับเงินปันผล และการซื้อหุ้นของบริษัทคืน การจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน และการตัดหุ้นที่ซื้อคืน ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยบริษัทมหาชนจำกัด และกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนั้น"
การแก้ไขดังกล่าวเพื่อเป็นเครื่องมือในการบริหารการเงินและเป็นเครื่องมือในการปรับโครงสร้างทางการเงินของบริษัท จึงเห็นสมควรให้แก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของบริษัท โดยในกรณีที่บริษัทซื้อคืนในจำนวนไม่เกินกว่าร้อยละ 10 ของทุนชำระแล้วให้เป็นอำนาจคณะกรรมการบริษัท
สำหรับราคาหุ้น PTT วานนี้พบว่า ราคาปิดที่ 158 บาท ลดลง 1 บาท คิดเป็น 0.63 % ด้วยมูลค่าซื้อขาย 859.51 ล้านบาท
|
|
|
|
|