กูรูโฆษณา ฟันธงตลาดรวมปีนี้หดตัวแน่ไม่ต่ำกว่า 15% เผยอินเตอร์แบรนด์ส่งสัญญาณหั่นงบโฆษณาลงแล้ว 25% ด้าน “ไอพีจี มีเดีย” เร่งหาลูกคาเพิ่มขึ้น ระวังการใช้จ่ายเงิน คงเป้าเติบโตเท่าปีที่แล้ว

นางวรรณี รัตนพล ประธานบริหาร ไอพีจี มีเดีย แบรนด์ส เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมโฆษณาโดยรวมในปีนี้คาดว่าจะตกต่ำอย่างมากคาดว่าจะตกลงมากถึง 15% จากมูลค่ารวมปีที่แล้วที่มีประมาณ 89,000 ล้านบาท ซึ่งถือได้ว่าต่ำมากเทียบเท่ากับที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2540 ที่เกิดวิกฤติการเงินในไทยด้วย โดยการใช้เม็ดเงินโฆษณาจะลดลง เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีที่แล้ว

ทั้งนี้ปรากฎว่าได้มีความเคลื่อนไหวในการลดงบประมาณด้านโฆษณาบ้างแล้ว จากบริษัทข้ามชาติรายใหญ่ๆที่มีบริษัทอยู่ในต่างประเทศโดยเฉพาะบริษัทจากอเมริกา เนื่องจากบริษัทเหล่านี้รับผลพวงจากวิกฤติเศรษฐกิจการเงินในประเทศอเมริกาอย่างหนัก โดยเฉลี่ยแล้วเท่าที่ทราบมาจะสั่งตัดลดงบประมาณโฆษณาประมาณ 20-25% ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงพอสมควร

ขณะที่ลูกค้าที่เป็นองค์กรหรือบริษัทคนไทยเองยังไม่มีสัญญาณว่าจะลดงบประมาณโฆษณาลงเท่าใด แต่ไม่ได้หมายความว่าในอนาคตจะไม่ปรับลดงบโฆษณาหากความเชื่อมั่นเศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้น

“ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ คาดว่าตลาดรวมยังคงติดลบอยู่ และจะเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าเมื่อช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาด้วย” นางวรรณีกล่าวย้ำ

อย่างไรก็ตามสื่อทีวีก็ยังคงเป็นสื่อโฆษณาหลักที่เจ้าของสินค้าและบริการยังคงเลือกใช้อยู่เหมือนเดิม แต่ก็มีแนวโน้มที่มีราคาค่าโฆษณาแพงขึ้นตลอดเวลา แต่พฤติกรรมของลูกค้าและเอเจนซี่จะพยายามองหาสื่อใหม่ๆเข้ามาเสริมสื่อทีวี เป็นการกระตุ้นตลาดด้วย โดยที่ต้องสร้างความคุ้มค่าให้กับสินค้าและบริการ ซึ่งนิวมีเดียที่มีแนวโน้มดีและมาแรงเช่น อินเทอร์เน็ต ซึ่งปัจจุบันนี้พบว่าลูกค้าให้ความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะรายใหญ่ๆ

“สื่อแต่ละอย่างก็มีข้อดีข้อด้อยต่างกัน แต่ตอนนี้คงต้องทำการเลือกใช้สื่อให้เหมาะกับจุดประสงค์ สื่อโฆษณาที่คาดว่าน่าจะถูกตัดงบมากที่สุดคงเป็นสื่อย่อยๆ เช่น สื่อนิตยสารเพราะเป็นสื่อที่ค่อนข้างช้าแม้จะมีอายุนานก็ตาม สื่อเอาท์ดอร์บ้าง สื่อหนังสือพิมพ์ที่เหมาะกับการลงโฆษณาโปรโมชั่นแต่ไม่เหมาะกับการสร้างแบรนด์ สื่อทีวีเหมาะกับการสร้างแบรนด์ สื่อวิทยุเหมาะกับการทำอีเว้นต์ สื่ออินสโตร์มีแนวโน้มที่น่าจะดี เป็นต้น” นางวรรณีกล่าว

สำหรับแผนงานปี 2552 ของบริษัทจะพยายามที่จะคงเป้ายอดบิลลิ่งไว้ให้มากที่สุด และต่อยอดไปในธุรกิจใหม่ๆเพื่อหารายได้ เช่นล่าสุดคือ การเปิดตัว เว๊บไซต์ “มัมแชนแนลดอทคอม” อีกทั้งพยายามหาลูกค้าใหม่ๆเข้ามา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอราคาหลายลูกค้า รวมยอดบิลลิ่งกว่า 1,000 ล้านบาท จากเมื่อปีที่แล้วมียอดเติบโต 10% โดยมียอดบิลลิ่งอยู่ที่ 5,000 ล้านบาท ซึ่งแบ่งสัดส่วนเป็นลูกค้าอินเตอร์แบรนด์กับลูกค้าคนไทย 50% เท่ากัน โดยลูกค้ารายใหญ่เช่น ทรูมูฟ

“ปีนี้ต้องระวังตัวให้มากๆ ต้องระมัดระวังการลงทุนและการใช้จ่ายให้มาก อย่าโอเวอร์เกินไป ซึ่งตอนนี้ก็มีสัญญาณไม่ดีที่ว่าหลายเอเจนซี่เริ่มจะลดพนักงานกันบ้างแล้วด้วย” นางวรรณีกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับตลาดโฆษณาโดยรวมในปี 2551 นั้น จากรายงานของ นีลเส็นมีเดียรีเสิร์ช ประเทศไทย ระบุว่า ปี 2551 มูลค่าตลาดโฆษณาโดยรวมมีทั้งสิ้น 89,488 ล้านบาท ตกลง 2.77% เมื่อเทียบกับปี 2550 ที่มีมูลค่า 92,035 ล้านบาท โดยสื่อทีวีมีมูลค่า 51,136 ล้านบาท ลดลง 4.40% จากเดิมที่มี 53,491 ล้านบาท

สื่อวิทยุมีมูลค่า 6,933 ล้านบาท เติบโต 9.73% จากเดิมที่มี 6,318 ล้านบาท สื่อหนังสือพิมพ์มีมูลค่า 15,288 ล้านบาท ลดลง 3.30% จากเดิมที่มีมูลค่า 15,809 ล้านบาท สื่อนิตยสารมีมูลค่า 5,823 ล้านบาท ลดลง 4.02% จากเดิมที่มีมูลค่า 6,067 ล้านบาท

สื่อโรงหนังมีมูลค่า 4,173 ล้านบาท ลดลง 3.87% จากเดิมที่มีมูลค่า 4,341 ล้านบาท สื่อกลางแจ้งมีมูลค่า 4,216 ล้านบาท ลดลง 5.91% จากเดิมที่มีมูลค่า 4,481 ล้านบาท สื่อเคลื่อนที่มีมูลค่า 1,360 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.26% จากเดิมที่มีมูลค่า 956 ล้านบาท สื่ออินสโตร์มีมูลค่า 560 ล้านบาท ตกลง 1.75% จากเดิมที่มีมูลค่า 570 ล้านบาท

โดยที่ปีที่แล้วพบว่า ยูนิลีเวอร์ใช้งบโฆษณา 4,417 ล้านบาท ลดลงจากเดิมที่ใช้ 5,274 ล้านบาท เอไอเอสใช้งบปีที่แล้ว 1,237 ล้านบาท ลดจากเดิมที่ใช้งบ 1,507 ล้านบาท เนสท์เล่ใช้งบ 1,048 ล้านบาท ลดลงจากเดิมที่ใช้ 1,082 ล้านบาท

ส่วนเดือนธันวาคม ปี 2552 เดือนเดียวเทียบกับปี 2550 พบว่า สินค้าของต่างประเทศก็ลดงบลงเช่นกัน เช่น พอนด์ส ใช้งบ 644 ล้านบาท ลดลงจากเดิมที่ใช้ 862 ล้านบาท โตโยต้าปิคอัพใช้งบ 585 ล้านบาท ลดจากเดิมที่ใช้ 618 ล้านบาท โค้กใช้งบ 495 ล้านบาท ลดลงจากเดิมที่ใช้ 562 ล้านบาท ออยออฟโอเลย์ใช้งบ 476 ล้านบาท ลดลงจากเดิมที่ใช้ 606 ล้านบาท