Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน16 มกราคม 2552
ธอส.รอรัฐชัดเจนแพกเกจอสังหาฯ เร่งพิจารณาลดดบ.หวั่นเงินฝากไหลเข้าต้นทุนสูง             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารอาคารสงเคราะห์

   
search resources

ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ขรรค์ ประจวบเหมาะ
Loan




ธอส.สำแดง!! ระบุมาตรการกระตุ้นอสังหาฯของรัฐบาลไม่ชัดเจนและยังไม่สามารถประกาศใช้ โดยเฉพาะลดหย่อนภาษี 2 แสนบาท/ปี ต้องรอกรมสรรพากรพิจารณาว่าทำได้หรือไม่ ส่วนบริษัทค้ำประกันสินเชื่อ-เงินเพิ่มทุน 2,000 ล้านบาท ยังไม่ผ่านครม. เล็งหาลูกค้ารายได้มั่นคงกลุ่มข้าราชการ-รัฐวิสาหกิจ เตรียมออก กบข.-ธอส. รุ่น 6 กดดอกเบี้ยปีแรก 3.99% จ่อลดดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ รอมอนิเตอร์ 5 แบงก์ใหญ่ก่อน หวั่นเงินฝากไหลเข้า

นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยถึงนโยบายกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลชุดนี้ว่า ไม่มีมาตรการที่เป็นรูปธรรมหรือมีการบังคับใช้ได้ โดยเฉพาะการนำภาระดอกเบี้ยสินเชื่อมาลดหย่อนภาษีจาก 100,000 บาทต่อปี เป็น 200,000 บาทต่อปี ยังไม่สามารถนำมาบังคับใช้ได้ จะต้องรอให้กรมสรรพากรพิจารณาว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ หากกรมสรรพากรระบุว่าสามารถดำเนินการได้ รัฐบาลจึงจะสามารถประกาศใช้ได้

ส่วนเรื่องบริษัทค้ำประกันสินเชื่อ(มอร์เกจอินชัวรันส์) ซึ่งเรื่องดังกล่าวธอส.ดำเนินการและผลักดันมากว่า 8 ปี ขณะนี้เรื่องดังกล่าวได้ผ่านคณะกรรมการกฤษฎีกาเรียบร้อยแล้ว รอนำเข้าเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบหลังจากนั้นจะต้องนำมาสู่คณะกรรมการกฤษฎีกาอีกครั้ง คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ประมาณกลางปีนี้ รวมไปถึงเงินเพิ่มทุนที่กระทรวงการคลังอนุมัติให้ธอส. 2,000 ล้านบาทก็ยังไม่ได้อนุมัติเช่นกัน

“ทุกเรื่องที่รัฐบาลประกาศออกมายังไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากครม. จึงยังไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ แต่ธอส.ก็ได้เตรียมตัวและพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับรัฐบาล”

ส่วนกรณีที่รัฐบาลที่ต้องการให้ธอส.เป็นแกนนำในการปล่อยสินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยต่ำให้แก่ประชาชน เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกด้าน ซึ่งธอส.จะต้องพิจารณาว่าต้องลดอัตราดอกเบี้ยไปอยู่ในระดับใดจึงจะจูงใจให้ประชาชนมาของสินเชื่อได้ แต่ก็ต้องคำนึงถึงต้นทุนการดำเนินของธอส.ด้วย

สำหรับภาวะการปล่อยสินเชื่อในเดือนนี้ยังคงนิ่งอยู่ ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นช่วงปีใหม่ซึ่งมีวันหยุดยาว แต่ธนาคารได้ต้องเป้าปล่อยสินเชื่อเดือนละประมาณ 7,000 ล้านบาท หรือทั้งปี 73,500 ล้านบาท โดยจะเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจน้อยที่สุด อาทิ กลุ่มข้าราชการ และพนักงานรัฐวิสาหกิจที่มีรายได้มั่นคงกว่ากลุ่มอื่น

นอกจากนี้ จะพยายามกระตุ้นให้สมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เข้ามาเป็นลูกค้าของธอส.มากที่สุด ซึ่งปัจจุบันธอส.มีลูกค้าสมาชิกกบข. เพียง 20% หรือประมาณ 2.4 แสนราย จากสมาชิกทั้งหมด 1.2 ล้านราย โดยเตรียมออก กบข.-ธอส.รุ่นที่ 6 ในอีก 3 เดือนข้างหน้า โดยจะใช้อัตราดอกเบี้ยปีแรก 3.99% ปีที่ 2 คิด MLR-2.25 หลังจากนั้นคิด MLR-1.25 ตลอดอายุสัญญากู้

ยกระดับคุณภาพที่อยู่อาศัยชุมชน

ล่าสุด เพื่อเป็นการตอบสนองนโยบายรัฐบาล ที่ต้องการพัฒนาคุณภาพด้านที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ให้สามารถมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองตามอัตภาพ ธนาคารจึงได้ร่วมกับมูลนิธิที่อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติ ประเทศไทย จัดทำโครงการ “สนับสนุนสินเชื่อรายย่อยด้านที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง” โดยธนาคารจะสนับสนุนสินเชื่อรายย่อยให้แก่สมาชิกมูลนิธิ ที่ต้องการกู้เพื่อปลูกสร้างบ้านตามแบบมาตรฐานของมูลนิธิ หรือให้กู้เพื่อต่อเติม ขยาย และซ่อมแซมบ้านให้มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น

โดยธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ตามประกาศของธนาคาร ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบลอยตัวพิเศษของ ธอส.เท่ากับ MRR - 2% ในปีที่ 1 ถึง 3 หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MRR - 0.50 ตลอดอายุสัญญากู้ (ปัจจุบัน MRR เท่ากับ 7.00%)

ในปีนี้ธนาคารได้กำหนดวงเงินสินเชื่อสำหรับกลุ่มสมาชิกมูลนิธิที่เป็นกลุ่มเป้าหมายใหม่ จำนวนกว่า 2,300 ราย วงเงินประมาณ 200 ล้านบาท โดยเป็นสินเชื่อสำหรับการสร้างบ้านใหม่ 1,500 ราย วงเงิน 180 ล้านบาท และเป็นสินเชื่อสำหรับการต่อเติม ขยาย และซ่อมแซมบ้าน จำนวน 800 ราย วงเงิน 20 ล้านบาท โดยที่มูลนิธิฯ จะเป็นผู้คัดเลือกครอบครัวเพื่อให้ความช่วยเหลือในการสร้างที่อยู่อาศัยได้อย่างเพียงพอให้กับผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง รวมถึงดำเนินการสร้างบ้านราคาถูกให้แก่ผู้กู้ด้วยราคาต้นทุนต่ำ ตลอดจนการควบคุมการชำระหนี้ให้เป็นไปตามสัญญากู้ของธนาคาร

เล็งกดปุ่มลดดบฝาก-กู้

นายขรรค์ กล่าวถึงการตัดสินใจลดดอกเบี้ยของธอส. หลังจากการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (R/P) ลง 0.75% ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายในปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 2% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การปรับลดดังกล่าวจะส่งผลให้ธนาคารต่างปรับลดดอกเบี้ยลงตาม โดยธอส.เตรียมพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินฝากและเงินกู้ ส่วนจะลดเท่าใดนั้นจะขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและต้นทุนการดำเนินงานของธอส.เป็นหลัก รวมถึงจะอิงกับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ทั้ง 5 แห่ง เพราะการลดดอกเบี้ยในครั้งนี้จะลดทั้งเงินฝากและเงินกู้

อย่างไรก็ตาม ธอส.จะต้องรีบพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้เร็วที่สุด เพราะหากปรับดลดอกเบี้ยช้าจะทำให้มีเงินฝากไหลเข้ามาจำนวนมาก ต้นทุนการเงินก็จะสูง อย่างไรก็ดี การปรับลดดอกเบี้ยในครั้งนี้จะต้องลดทั้ง 2 ขา คือทั้งเงินฝากและเงินกู้

นอกจากนี้จะต้องพิจารณาให้รอบครอบ เพราะเมื่อลดดอกเบี้ยเงินกู้ลงรายได้จะลดลงทันที ในขณะที่ดอกเบี้ยเงินฝากบางส่วนที่เป็นเงินฝากระยะยาวประเภท 3, 6, 12 เดือน ธอส.ยังคงจ่ายดอกเบี้ยเท่าเดิมจนกว่าจะหมดอายุแล้วถึงลดดอกเบี้ยได้ ซึ่งในส่วนนี้จะทำให้ค่าใช้จ่ายเรายังสูงอยู่ จึงต้องพิจารณาให้ดีเพื่อดอกเบี้ยที่ออกมาครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด โดยปัจจุบันต้นทุนการเงินของธอส.อยู่ที่ระดับ 3.7% ดังนั้นการปรับลดดอกเบี้ยจะต้องไม่ต่ำกว่า 4%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us