Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน15 มกราคม 2552
"โตโยต้า"คาดอุตฯรถวิกฤตในไทยลด15%-ส่งออกดิ่ง             
 


   
www resources

Toyota (Thailand) Homepage

   
search resources

โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย, บจก.
Automotive




ยักษ์ 'โตโยต้า' คอนเฟิร์มอุตสาหกรรมรถยนต์ไทยสาหัส คาดการณ์ตลาดรถยนต์ไทยปีวัวบ้าทรุด 15.4% ร่วงเกือบแตะ 5 แสนคัน โตโยต้าเอง ติดลบ 15.7% ขณะที่ตัวเลขส่งออกผันผวนหนัก จากวิกฤตเศรษฐกิจโลก จนไม่สามารถ ประเมินยอดส่งออกและผลิตได้ แต่ยังหวังรัฐบาลใหม่ออกแผนกระตุ้นเศรษฐกิจดันตลาดในประเทศช่วย ย้ำเป็นไปได้หากรัฐบาล มีเสถียรภาพ และเข้าใจสถานการณ์ ส่วนการ ขาดทุนของบริษัทแม่ ส่งผลต้องเลื่อนลงทุน ตั้งโรงงานผลิตเครื่องยนต์ดีเซลแห่งใหม่ออกไป

นายมิทซึฮิโระ โซโนดะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดรถยนต์ในปีที่ผ่านมา ประสบกับความผันผวนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในช่วงต้นปีมียอดขายเติบโตอย่างมาก แต่เข้าสู่ช่วงไตรมาสที่สองราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นสูงมาก ทำให้ยอดขายเริ่มชะลอตัว โดยเฉพาะปิกอัพที่ลดลงอย่างมาก ส่งผลต่อเนื่องถึงไตรมาสที่สาม และยังเกิดปัญหา ความขัดแย้งทางการเมืองในไทย ประกอบกับช่วงปลายปีเกิดวิกฤตเศรษฐกิจสหรัฐฯ จนลุกลามไปทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อการส่งออกและเศรษฐกิจไทย ทำให้ตลาดรถยนต์ในไทยลดลงเหลือเพียง 6.15 แสนคัน หรือลดลง 2.5% เมื่อเทียบกับปี 2550

'ในช่วงไตรมาสสุดท้ายแม้สถานการณ์ ราคาน้ำมันจะลดลง แต่ปัญหาการเมืองภายในประเทศ และวิกฤตเศรษฐกิจโลก ทำให้ยอดขายรถยนต์ในประเทศ ช่วงไตรมาสสุดท้ายปีที่แล้วตกลงมากที่สุด สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงปลายปีจึงสะท้อนถึงสถานการณ์ปัจจุบัน จึงคาดว่าตลาดรถยนต์ ไทยน่าจะลดลงระดับใกล้เคียงกันประมาณ 15%'

สำหรับประมาณการตลาดรถยนต์ ในปีนี้ คาดว่าจะมีปริมาณการขายประมาณ 520,0000 คัน หรือลดจากปีที่แล้ว 15.4% โดยแบ่งออกเป็นตลาดรถยนต์นั่ง หรือเก๋ง 205,000 คัน ตลาดปิกอัพขนาด 1 ตัน 269,000 คัน และในส่วนของโตโยต้าได้ตั้งเป้าการขายไว้ที่ 221,000 คัน ลดลง 15.7% เมื่อเทียบกับปี 2551 และคาดว่าจะมีส่วนแบ่ง ทางการตลาด 42.5% ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา

นายโซโนดะกล่าวว่า อย่างไรก็ตามตลาดรถยนต์อาจมีการเปลี่ยนแปลง เพราะเศรษฐกิจไทยยังมีความแข็งแกร่ง ประกอบกับไทยมีรัฐบาลใหม่ที่คาดว่าจะมีเสถียรภาพมากขึ้น และสถานการณ์ราคาน้ำมันปรับลดลงจึงอยู่ในระดับทรงตัว ทำให้ผู้บริโภคชาวไทยมีความมั่นใจที่จะใช้รถเพื่อการพาณิชย์อย่างปิกอัพ ซึ่งเป็นตลาด สำคัญและใหญ่ที่สุดในไทย และหากดูอัตรา การครองรถยนต์ของไทยในต่างจังหวัดจะอยู่ในระดับ 15 คนต่อรถยนต์ 1 คัน และในกรุงเทพฯ 22 คนต่อรถยนต์ 1 คัน จากปัจจัยเหล่านี้จึงยังมองเห็นโอกาสทางการตลาดและช่องทางสำหรับการเติบโตของตลาดรถยนต์ในประเทศ

ดังนั้นเพื่อรักษาเป้าหมายที่วางไว้ในปีนี้โตโยต้าจะยังคงเดินหน้ารักษาฐานลูกค้าผ่านกิจกรรมต่างๆ รวมถึงการแนะนำ รถยนต์รุ่นใหม่ๆ สู่ตลาด โดยเฉพาะรถยนต์ ที่ตอบสนองพลังงานทดแทน ไม่ว่าจะเป็น โตโยต้า คัมรี่ ไฮบริด, โตโยต้า อัลติส เครื่องยนต์รองรับก๊าซธรรมชาติ (CNG) ในรุ่นจำหน่ายลูกค้าทั่วไป และเพิ่มเครื่องยนต์ ของรุ่นอัลติส รวมถึงการไมเนอร์เชนจ์โตโยต้า ยาริส

'ปัญหาสำคัญอีกอย่างของอุตสาห-กรรมรถยนต์ไทย มาจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกทำให้ความต้องการในตลาดต่างประเทศ ลดลง ซึ่งเริ่มเห็นผลชัดเจนจากยอดสั่งซื้อลดลง ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา จึงคาดว่าปีนี้จะส่งผลกระทบอย่างหนัก แต่ยังไม่สามารถประเมินได้จะเป็นอย่างไร เพราะต้องรอดูสถานการณ์เดือนต่อเดือน ทำให้ขณะนี้ยังไม่สามารถคาดการณ์การผลิตปีนี้ได้' นายโซโนดะกล่าวและว่า

ในส่วนของโตโยต้าปีที่ผ่านมา ตัวเลขการส่งออกกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ตลอดทั้งปียังคงเติบโตอยู่ เพราะเพิ่งได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยสามารถส่งออกรถยนต์สำเร็จ รูปจำนวนทั้งสิ้น 313,000 คัน เติบโต 32% มูลค่าการส่งออก 13,400 ล้านบาท ส่งออก ชิ้นส่วนอะไหล่ 28,800 คอนเทนเนอร์ มูลค่าการส่งออก 44,000 ล้านบาท

นายโซโนดะกล่าวว่า ตลาดส่งออกหลัก ของโตโยต้ามีอยู่ทั้งหมด 3 ตลาด คือ ตลาดอาเซียนส่งออกประมาณ 9 หมื่น-1 แสนคัน ตัวเลขการส่งออกเริ่มลดลงมาตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา ตลาดตะวันออกกลางมีการส่งออก ระดับเดียวกัน แต่ยอดสั่งซื้อลดลงชัดเจนเมื่อปลายปี เช่นเดียวกับตลาดออสเตรเลีย ที่ส่งออกประมาณ 4-5 หมื่นคันต่อปี ซึ่งขณะนี้ยอดการสั่งซื้อยังผันผวนอยู่ จึงยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ชัดเจนในตอนนี้ คงต้องรอดูสถานการณ์สักระยะ แต่จากปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่ลุกลามทั่วโลก ซึ่งต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา จึงคาดว่าส่งผลกระทบต่อการส่งออกอย่างมาก แน่นอน

'ตลาดส่งออกคงต้องลดลงพอสมควร จากปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจโลก แต่เราคาดหวังว่าการมีรัฐบาลใหม่ที่มีเสถียรภาพ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาเมื่อวาน นี้ (13 ม.ค.) จะช่วยผลักดันตลาดรถยนต์ในประเทศให้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยลดปัญหาตลาดส่งออกชะลอตัวได้ ซึ่งสิ่งสำคัญที่จะทำให้เกิดขึ้นอยู่ที่การมีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ และมีความเข้าใจในสถานการณ์เศรษฐกิจ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ'

สำหรับปัญหาการขาดทุนของบริษัทแม่ โตโยต้า มอเตอร์ คอปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น (TMC) ไม่ส่งผลต่อการผลิตของรถยนต์ในไทย เพราะเป็นปัญหาของแต่ละตลาดมากกว่า แต่ในส่วนของการลงทุนได้มีการชะลอบางโครงการออกไป อย่างแผนการตั้ง โรงงานผลิตเครื่องยนต์ดีเซลแห่งใหม่ที่ประกาศไปเมื่อปลายปี ก็จะมีการเลื่อนออก ไปจนกว่าสถานการณ์ตลาดจะพร้อม ส่วนโครงการอีโคคาร์ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงของการพัฒนาโปรดักต์ ทุกอย่างยังเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us