Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน14 มกราคม 2552
ไทยยานยนต์ปรับองค์กร-ธุรกิจ ขายรถเฌอรี่-เล็งแต่งตัวเข้าตลท.             
 


   
search resources

ไทยยานยนต์
วิทิต ลีนุตพงษ์
Auto Dealers




“ไทยยานยนต์กรุ๊ป” ปรับโครงสร้างองค์กรและธุรกิจครบวงจร หลัง “วิทิต ลีนุตพงษ์” แยกออกจาก “ยนตรกิจกรุ๊ป” นำสมบัติกงสีออกมาจัดการเอง เผยดึงมืออาชีพเข้ามาบริหาร ดันคน “ลีนุตพงษ์” ขึ้นเป็นบอร์ดหมด พร้อมขยายธุรกิจเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ “เฌอรี่” จากประเทศจีน และเพิ่มการเป็นดีลเลอร์รถยนต์หลากยี่ห้อ เพื่อลดความเสี่ยงทางธุรกิจ หวังแต่งตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต

นายวิทิต ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร ไทยยานยนต์กรุ๊ป เปิดเผยว่า หลังจากยนตรกิจกรุ๊ปได้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ โดยแยกธุรกิจออกเป็น 3 กลุ่ม แยกกันบริหารจากกันเด็ดขาด ได้แก่ ไทยยานยนต์กรุ๊ป ยนตรกิจคอร์ปอเรชั่น และยนตรกิจออโตโมบิลกรุ๊ป ซึ่งในส่วนของตนได้นำธุรกิจในส่วนของไทยยานยนต์กรุ๊ปมาบริหารจัดการเอง

“หลังจากไทยยานยนต์กรุ๊ปได้แยกตัวออกมา ได้มีการปรับโครงสร้างและการบริหารงานใหม่ โดยแยกออกเป็น 2 สายธุรกิจหลัก คือ สายธุรกิจการค้า และสายการผลิต เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ คือการเป็นผู้นำในธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์แบบครบวงจร และมีการเจริญเติบโตเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย (ตลท.)”

ทั้งนี้ในส่วนของสายธุรกิจการค้า ประกอบไปด้วยการเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์โฟล์คสวาเกนในไทย และล่าสุดเพิ่งเซ็นสัญญาเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ “เฌอรี่” (Chery) จากประเทศจีน ทำให้ไทยยานยนต์กรุ๊ปเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ 2 ยี่ห้อ พร้อมกันนี้ยังดำเนินธุรกิจผู้จำหน่ายรถยนต์ หรือดิสทริบิวเตอร์ จำนวน 11 สาขา 3 แบรนด์ ได้แก่ โฟล์คสวาเกน บีเอ็มดับเบิลยู และมิตซูบิชิ ส่วนสายการผลิตมีโรงงานประกอบรถยนต์ YMC และโรงงานผลิตชิ้นส่วน ATP

“โดยแต่ละสายงานจะมีมืออาชีพแต่ละด้านมานั่งบริหาร เพื่อการบริหารที่เป็นระบบมาตรฐาน และสร้างความเชื่อมั่นและพึงพอใจให้กับผู้บริโภคสูงสุด ขณะที่คนในตระกูลลีนุตพงษ์จะถูกดันให้ขึ้นไปเป็นบอร์ดบริหารหมด ซึ่งจะคอยดูแลในภาพรวมธุรกิจ เพื่อลดปัญหาการบริหารธุรกิจแบบครอบครัว”

นายวิทิตกล่าวว่า สำหรับแผนการผลักดันให้ไทยยานยนต์กรุ๊ปเติบโตตามเป้าหมายนั้น การเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ “เฌอรี่” จากประเทศจีน เป็นอีกความเชื่อมั่นของบริษัทฯ เพราะเป็นแบรนด์ระดับนำของประเทศจีน และมีความแข็งแกร่งทางธุรกิจ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของไทยยานยนต์กรุ๊ป โดยได้ตั้งบริษัท ไทยเฌอรี่ยานยนต์ จำกัด มาดูแลธุรกิจรถยนต์เฌอรี่ในไทย ด้วยการร่วมทุนระหว่างไทยยานยนต์กรุ๊ป และเครือเจริญโภคภัณฑ์(ซีพี) ในสัดส่วน 50:50 ทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท โดยซีพีจะเป็นผู้ดูแลในส่วนของการเงินและบัญชี รวมถึงการประสานงานกับทางเฌอรี่ประเทศจีน ขณะที่ไทยยานยนต์กรุ๊ปจะดูแลการบริหารและทำตลาดทั้งหมด

ส่วนแผนการทำตลาดในช่วงแรก จะมีการนำเข้าเรถยนต์เฌอรี่ 3 รุ่นมาจำหน่าย ได้แก่ รถยนต์ขนาดเล็กรุ่นคิวคิว (QQ) รถยนต์อเนกประสงค์ หรือเอสยูวี ขนาด 5 ที่นั่ง รุ่นทิกโก้(Tiggor) และรถอเนกประสงค์แบบเอ็มพีวีรุ่นครอส (Cross) ทั้งนี้จะเปิดตัวสู่สาธารณะในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2009 ปลายเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ โดยวางเป้าหมายการขายปีละ 3,000-5,000 คัน จากนั้นจะมีการประกอบในประเทศไทยต่อไปในอนาคต

ด้านรถยนต์โฟล์คสวาเกนยืนยัน ไทยยานยนต์กรุ๊ป ยังเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย และปีนี้จะมีการรุกตลาดอย่างจริงจัง จากเดิมจะมีทำตลาดเพียงรถตู้เท่านั้น แต่ปีนี้จะมีการแนะนำสินค้าใหม่สู่ตลาดมากขึ้น อาทิ โฟล์คสวาเกน พาสสาท ซีซี, บีทเทิล, ซีรอคโค และกอล์ฟ เป็นต้น โดยตั้งเป้าหมายยอดขายปีนี้ที่ 950 คัน แบ่งเป็นรถตู้ 500 คัน จากปีที่ผ่านมาทำได้กว่า 400 คัน และรถยนต์นั่ง หรือเก๋งอีก 450 คัน

ขณะที่ธุรกิจผู้จำหน่ายรถยนต์จากปัจจุบัน 3 แบรนด์ 11 สาขา จะมีการขยายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้เซ็นสัญญาเป็นดีลเลอร์จำหน่ายรถยนต์มาสด้าและฟอร์ด ซึ่งในอนาคตจะขยายให้ได้ 20-30 สาขา แต่จะไม่เน้นเพียงยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง เพื่อลดความเสี่ยงของแต่ละแบรนด์ ที่จะมีช่วงขึ้นและลงตามไลน์โปรดักซ์

“แน่นอนว่าหากเป็นไปตามเป้าหมาย แต่ละสาขามีรายได้ปีละกว่า 100 ล้านบาท จะทำให้กลุ่มธุรกิจนี้มีรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท ทำให้กลุ่มธุรกิจสาขาจำหน่ายรถยนต์สามารถนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้อย่างมั่นคง โดยขณะนี้ได้มีการเตรียมพร้อมแล้ว อย่างเช่นการทำระบบบัญชีให้เป็นมาตรฐาน สามารถตรวจสอบได้ แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเป็นปีไหน”นายวิทิตกล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us