ซีพี ชูนโยบายอาหารพร้อมทานรุกแนวดิ่งระดับผลิตภัณฑ์-แบรนด์ลงลึก อัดฉีด 250 ล้านบาท บุกตลาดอาหารพร้อมทานทั้งในและต่างประเทศ เร่งขยายสินค้าแบรนด์ซีพีลดโออีเอ็ม หวังดันครัวไทยสู่ครัวโลกอีก 5 ปี ขยาย 20 ประเทศ พร้อมชูเมนูเพื่อสุขภาพ รับพฤติกรรมผู้บริโภค สิ้นปีโต 25% กวาด 2,500 ล้านบาท

นายสุพัฒน์ ศรีธนาธร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอาหารแปรรูปซีพี เปิดเผยว่า แนวทางการทำตลาดกลุ่มอาหารแปรรูปหรือพร้อมทาน ในระหว่างปี 2552-2554 จะมีการขยายโปรดักส์ไลน์ในแนวดิ่งหรือลงลึกระดับผลิตภัณฑ์และแบรนด์มากขึ้น พร้อมกันนี้มุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ซีพีทั้งในประเทศและต่างประเทศในเชิงรุก และขยายซับแบรนด์เพื่อเติมเต็มการทำตลาด ภายใต้การใช้งบการตลาดปีนี้ 250 ล้านบาท

สำหรับการทำตลาดต่างประเทศ ได้ทุ่มงบ 100 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาใช้ 80-100 ล้านบาท เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และผลักดันแบรนด์ซีพีจากครัวไทยสู่ครัวโลกภายใน 5 ปีข้างหน้านี้ โดยการขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มจาก 10 ประเทศในปัจจุบันเป็น 20 ประเทศ ซึ่งจะมีการปรับพอร์ตโฟลิโอ เน้นขยายโปรดักส์ไลน์แบรนด์ซีพีเป็นหลัก เพิ่มจาก 10% เป็น 30% ส่วนการรับจ้างผลิตเหลือเป็น 30-40% ทั้งนี้เน้นกลุ่มเมนูกุ้งเป็นสินค้าเรือธง และขยายเมนูอาหารพร้อมทานอื่นๆ

“ช่วง 2-3 ปีนี้ ซีพีเน้นการสร้างแบรนด์และภาพลักษณ์ตลาดในต่างประเทศ โดยมีการเพิ่มไลน์สินค้าให้มากขึ้น เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายครัวไทยสู่ครัวโลก ควบคู่กับการตั้งเป้าหมายของยอดขาย และสัดส่วนการตลาด ซึ่งขณะนี้กระทรวงพาณิชย์กำลังผลักดันในเรื่องครัวไทยสู่ครัวโลก บริษัทก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ”

ผลพวงจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะวิกฤตการเงินของอเมริกา ไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดอาหารแปรรูปหรือพร้อมทานส่งออก รวมทั้งตลาดภายในประเทศด้วย เนื่องจากอาหารเป็นปัจจัยสี่ ซึ่งล่าสุดได้เปิดตัวเมนูหัวปลา ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามคาดว่าธุรกิจอาหารแปรรูปในปีนี้ทั้งในและต่างประเทศ มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง โดยเฉพาะการทำโปรโมชันและราคา

นายสุขวัฒน์ ด่านเสริมสุข รองกรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้ทุ่มงบ 150 ล้านบาท สำหรับการทำตลาดในประเทศ ซึ่งปีนี้เน้นกลุ่มอาหารแปรรูปหรืออาหารพร้อมทานเมนูเพื่อสุขภาพ ซึ่งเป็นแนวทางที่ ธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้วางทิศทางการดำเนินธุรกิจอาหารแปรรูป

สำหรับปีนี้มีสินค้าใหม่ไม่เกิน 20 เมนู อาทิ บะหมี่เป็ดทรงเครื่อง ขนมจีนกุ้ง และล่าสุดทุ่ม 30 ล้านบาท ซื้อเครื่องจักรผลิตซุปไก่ และกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาซุปกุ้ง ปลา กระดูก ตั้งเป้า 6 เดือนแรก ยอด 3 แสนซองต่อเดือน ปีหน้า 1 ล้านซองต่อเดือน และคาดว่าจะเต็มกำลังการผลิต

ผลประกอบการปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 25% หรือมีรายได้ 2,500 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมา 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้ในประเทศ 50% และต่างประเทศ 50% สำหรับในปีนี้คาดว่ารายได้ภายในประเทศเติบโต 30% จากปีที่ผ่านมาโต 15% โดย 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ อาหารทานเล่น อาหารพร้อมทาน กลับข้าว และของสด เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% โดยอาหารพร้อมทานเติบโตมากสุด คือ 15%