แบงก์อิสลามเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันนี้ ผู้จัดการแบงก์เผยภายในปีนี้ได้เห็นธุรกิจโรง
แรมขนาดห้าดาวสำหรับชาวมุสลิมผุดขึ้นในเมืองไทยอย่างน้อย 3-4 ราย วงเงินลงทุนรวมประมาณ
4,000 ล้าน บาท และอาจเกิดศูนย์ผลิตและจำหน่ายรถระดับไฮคลาสในไม่ช้า ส่วนธุรกิจอื่นที่มาแรงได้แก่
โรงพยาบาล อาหาร และการศึกษานานาชาติ
นายอนันต์ ตังทัตสวัสดิ์ ผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในวันนี้
(18 ส.ค.) ได้เชิญ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานในพิธีเปิดตัวอย่างเป็นทางการของธนาคารหลังจากเปิดธนาคารสาขาแรกเมื่อวันที่
12 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากนั้นจะเปิด สาขาธนาคารที่ทุ่งครุ และอีก 5 สาขา ในเขตจังหวัดภาคใต้
ได้แก่ หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ปัตตานี สตูล ยะลา และนราธิวาส ในวันที่ 4 กันยายน
และ ในระหว่างช่วงเดือนตุลาคม 2546-มกราคม 2547 ตามลำดับ
โดยในลำดับต่อไปจะเปิดธนาคารสาขาในเขตใจกลางเมือง เช่น ย่านสีลม เพื่อให้เป็นฐานอำนวยความสะดวกทางด้านเงิน
สำหรับการติดต่อทางการค้า การส่งออก ฯลฯ แก่ลูกค้าต่างชาติ ทั้งนี้เนื่องจากเป้าหมายหลัก
ของธนาคารตั้งแต่เริ่มต้น คือ ต้องการดึงนักธุรกิจต่างชาติให้เข้ามาร่วมลงทุน
และทำการค้าในลักษณะระดับนานาชาติ
นายอนันต์ กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าชาวมุสลิมมีความมั่นใจเลือกที่จะร่วมลงทุน และขอสนับสนุนด้านสินเชื่อจากธนาคารอิสลามมากกว่าธนาคารพาณิชย์อื่นๆ
เนื่องชาวอิสลามมักมีความรู้สึกเป็นพวกพ้องกัน และเห็นว่าเป็นคนเชื้อสายเอเชียด้วยกัน
ประกอบกับตั้งอยู่ในประเทศไทย ซึ่งมีความสงบสุข ไม่มีความขัดแย้งด้านศาสนาและสังคม
การเมืองมั่นคง และเศรษฐกิจมีเสถียรภาพที่ดี
"หลังจากที่ชาวโลกได้รับรู้ว่ามีธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยเกิดขึ้น ก็ได้มีนักธุรกิจสนใจเข้ามามาก
อย่างเช่น บังกลาเทศ มาเลเซีย สิงคโปร์ และกลุ่มนักธุรกิจระดับสูงจากตะวันกลาง
ซึ่งไม่เฉพาะชาวมุสลิมเท่านั้น แต่เป็นนักลงทุนจากต่างประเทศอื่นๆ ด้วย" นายอนันต์กล่าว
นายอนันต์กล่าวว่า ได้มีนักธุรกิจชาวต่างชาติหลายรายแสดงความสนใจเข้ามาลงทุนร่วมกับคนไทยในธุรกิจโรงแรม
เนื่องจากมองว่าประเทศไทยยังขาดแคลนโรงแรมระดับห้าดาวสำหรับชาวมุสลิม เพราะปัจจุบันโรงแรมส่วนใหญ่ยังมีสิ่งที่ผิดหลักศาสนาอยู่ในโรงแรม
เช่น มีเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ และสิ่งบันเทิงอื่นๆ อยู่ภายในโรงแรม ทั้งนี้คาดว่า
จะสามารถ เห็นโรงแรมขนาด 200-300 ห้อง อย่างน้อย 3-4 แห่ง เกิดขึ้นภายในปีนี้
"วงเงินลงทุนสำหรับธุรกิจโรงแรม เราตั้งเป้า 1,000 ห้องทั่วประเทศ ห้องละ 3-4
ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท" นายอนันต์กล่าว
นอกจากนี้ ยังมีนักลงทุนต่างชาติสนใจที่จะลงทุนร่วมกับคนไทยในการจัดตั้งศูนย์การผลิตจำหน่ายรถยนต์ระดับไฮคลาส
เป็นรถขนาดใหญ่ ลักษณะกึ่งรถตู้ แต่สะดวกสบายกว่า และมีรูปแบบไม่ซ้ำใคร เพื่อจำหน่ายภายในประเทศ
และในภูมิภาคเอเชียด้วย ซึ่งนายอนันต์กล่าวแสดงเชื่อมั่นว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะมีธุรกิจประเภทนี้เกิดขึ้นในเมืองไทย
เพราะปัจจุบันมีผู้นำระดับโลกเดินทางมาเยือนประเทศไทยมากขึ้นทำให้รถเกรดดีๆ มีความจำเป็นต่อภาพพจน์ของประเทศมากขึ้น
ตลอดจนประเทศไทย มีความเหมาะสมเนื่องจากมีบุคลากรที่มีความสามารถ และค่าแรงต่ำ
"ธุรกิจอื่นๆ ที่นักลงทุนต่างชาติ สนใจยังมีอีกมาก อาทิ โรงพยาบาล การศึกษา และอาหาร
ที่มาแรงคือ ธุรกิจโรงพยาบาล เพราะเขามองว่าเรื่องสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ ธุรกิจด้าน
การศึกษาก็มีผู้สนใจเข้ามาเยอะโดยเฉพาะการศึกษาระดับอินเตอร์ เชื่อว่า เมื่อดึงเขาเข้ามาแล้ว
ธุรกิจต่อเนื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับปัจจัย 4 ทั้งหลาย จะตามมา" นายอนันต์กล่าว
สำหรับเป้าการปล่อยสินเชื่อ และยอดเงินฝากนั้น ธนาคารได้ตั้งไว้ที่ 2,800 ล้านบาท
ซึ่งขณะนี้มียอดเงิน ฝากและปล่อยสินเชื่อแล้วประมาณ 160 ล้านบาท เนื่องจากเปิดให้บริการได้กลางปีทำให้ผลการดำเนินงานทั้ง
2 ด้าน ไม่เป็นไปตามที่ตั้งไว้ เนื่องจากยัง ขาดบุคลากร และประชาชนทั่วไปยังไม่
รู้จักธนาคารเท่าที่ควร อย่างไรก็ตามจากจำนวนลูกค้ากว่า 2,000 ราย ทางธนาคารถือว่าเป็นการสนับสนุน
และการตอบรับที่ดีมากระดับหนึ่ง
ทั้งนี้ ธนาคารจะต้องมีความระมัดระวังในการดำเนินการเพื่อไม่ให้ เกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)
เพราะธนาคารต้องดำเนินงานโดยไม่ขัดต่อหลักศาสนาอิสลาม เนื่องจากหากมีเอ็นพีแอลเกิดขึ้น
และธนาคารสามารถฟ้องร้องชนะได้จะต้องนำเงินที่ได้ไปบริจาคให้กับการกุศลทั้งหมด