|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
โรงงานยาสูบเบนเข็มทำธุรกิจเสริมหวังหารายได้ทดแทนการจำหน่ายบุหรี่ที่มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง เตรียมดันธุรกิจโรงพยาบาลบริหารเชิงพาณิชย์เทียบชั้นเอกชนสร้างความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเป็นจุดขาย พร้อมนำพื้นที่ทำเลดีทำร้านอาหาร - ให้เอกชนเช่าทำประโยชน์ต่อไป
นายประจวบ ตันตินนท์ ผู้อำนวยการโรงงานยาสูบ(รยส.) กระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจของโรงงานยาสูบในอนาคตว่า จะหันไปทำธุรกิจอื่นเพื่อทดแทนธุรกิจยาสูบที่มีแนวโน้มลดลงมาโดยตลอด เพื่อเลี้ยงองค์กรให้สามารถอยู่รอดต่อไป โดยเฉพาะธุรกิจโรงพยาบาลที่มองว่าน่าจะพัฒนาหารายได้เชิงพาณิชย์มากขึ้น โดยจะเน้นปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพของโรงพยาบาลให้เป็นเลิศในด้านใดด้านหนึ่ง
“โรงพยายาลยาสูบจะมีจุดเด่นคือเป็นโรงพยาบาลที่อยู่กลางสวนสาธารณะซึ่งน่าจะเป็นธุรกิจที่มีอนาคตสดใส เพราะหลังจากย้ายโรงงานยาสูบออกไปยังต่างจังหวัดในรัศมีไม่เกิน 200 กม. จากกรุงเทพฯ แล้ว จะปรับปรุงพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ต่อไป ซึ่งขณะนี้ก็มีโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งเริ่มให้ความสนใจจึงมีความเป็นไปได้ที่จะหาพันธมิตรทางธุรกิจต่อไป”นายประจวบ กล่าวและว่าเบื้องต้นมีแนวคิดที่จะสร้างจุดเด่นคล้ายกับที่เอกชนบริหารงาน เช่น รพ.บำรุงราษฏร์ รพ.กรุงเทพ ที่เก่งเฉพาะด้านจนเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมทั้งจากคนไทยและต่างชาติ ส่วนโรงพยาบาลของยาสูบจะเน้นให้มีความเชี่ยวชาญด้านใดนั้นคงต้องรอให้คณะกรรมการพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง เช่นอาจเป็นด้านหัวใจหรือสมองเป็นต้น
อย่างไรก็ตามรยส.จะต้องนำแผนการดำเนินธุรกิจอื่นเพื่อทดแทนธุรกิจยาสูบให้คณะกรรมการพิจารณากำหนดทิศทางก่อน ซึ่งนอกจากธุรกิจโรงพยาบาลแล้วยังมีแนวคิดจะนำที่ดินที่มีอยู่ประมาณ 10 แปลง เช่น แถวเจริญกรุง ซึ่งส่วนใหญ่ป็นพื้นที่ทำเลดีมาบริหารเชิงพาณิชย์ด้วยแต่อยู่ระหว่างพิจารณาความเหมาะสม เช่นอาจเปิดให้เอกชนเช่าหรือทำเป็นร้านอาหารเป็นต้น
“จากสถิติ10ปีที่ผ่านมาพบว่าการสูบบุหรี่ลดลงเกือบครึ่งจากการรณรงค์และไม่สนับสนุนให้สูบบุหรี่ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี ทำให้มองว่าในอนาคต10ปีข้างหน้ายอดขายหรือกำไรของยาสูบก็จะต้องลดลงเรื่อยๆ จึงต้องหันไปหารายได้จากทางอื่นทดแทน โดยตั้งเป้าหมายว่าจะมีรายได้จากทางอื่นเข้ามาประมาณ 2 พันล้านบาทจากรายได้รวมในปัจจุบัน” นายประจวบ กล่าวและว่าการทำงานของโรงพยาบาลของยาสูบช่วงที่ผ่านมาถือเป็นธุรกิจเสริมที่ยังไม่ได้ทำอย่างเต็มประสิทธิภาพและไม่ได้คำนึงถึงผลตอบแทนมากนัก โดยจะเน้นรักษาเฉพาะพนักงานของรยส.เองเท่านั้น
ส่วนแผนงานเร่งด่วนในปี 52 คือการเร่งผลักดันการก่อสร้างโรงงานยาสูบแห่งใหม่ ซึ่งน่าจะกำหนดร่างทีโออาร์และเปิดให้ยื่นซองประมูลได้ภายในต้นเดือนม.ค.นี้และน่าจะเริ่มเห็นการก่อสร้างได้ภายในปีนี้ ซึ่งถือเป็นการดำเนินตามนโยบายของกระทรวงการคลังที่ต้องการให้รัฐวิสาหกิจเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนออกไปให้เร็วที่สุด โดยกำหนดก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายใน 3 ปี ซึ่งคงเป็นผลงานที่ชัดเจนที่สุดในช่วงที่ตนดำรงตำแหน่งดังกล่าว
ทั้งนี้ ยืนยันว่าจะไม่ต้องปรับโครงสร้างภายในด้วยการลดคนงาน หรือปรับคนออกแต่อย่างใด เพราะในระยะ 10 ปี ต่อจากนี้ พนักงาน รยส.ที่ปฏิบัติงานด้านยาสูบนั้นจะเกษียณอายุออกไปถึง 50% ของพนักงานทั้งหมด ดังนั้นการรับพนักงานใหม่ที่จะเข้ามาทดแทนนั้น จะเน้นไปทางด้านที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจอื่นๆ ที่ รยส.จะมุ่งไปแทน
|
|
|
|
|