Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา มกราคม 2552
เคทีซี ดูแลตัวเองให้แข็งแรง             
โดย นภาพร ไชยขันแก้ว
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)

   
search resources

บัตรกรุงไทย, บมจ.
Credit Card




ภาพลักษณ์ของเคทีซีตลอดระยะ 3-4 ปีที่ผ่านมาในฐานะผู้ให้บริการบัตรเครดิต ใช้นโยบายบุกตลาดอย่างหนักและรุนแรง แต่ในปีนี้เคทีซีจะลดความหวือหวาให้น้อยลง เพื่อลดความสูญเสียรายได้ของบริษัท

สภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยในปี 2552 ว่ากันว่าถึงขั้นเผาจริง แต่บริษัทหลายๆ แห่งก็พยายามที่จะพลิกวิกฤติที่เกิดขึ้นให้เป็นโอกาส แต่สำหรับบริษัทบัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการบัตรเครดิตเคทีซีและสินเชื่อ ที่มีนิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลับมองตรงกันข้าม

นิวัตต์มองว่าปีนี้จะไม่ใช่ปีแห่งโอกาส แต่เป็นปีของการดูแลตัวเองให้แข็งแรง ราบรื่น เพราะรูปแบบการทำงานจะแข่งกับตัวเองมากกว่าผู้ประกอบการรายอื่น

รายอื่นที่นิวัตต์กล่าวถึงโดยเฉพาะคู่แข่งบัตรเครดิตที่มาจากต่างชาติกำลังอยู่ในภาวะอ่อนแอเพราะสถาบันการเงินหลายแห่งทั้งในสหรัฐอเมริกาและยุโรปกำลังประสบปัญหา หลายแห่งต้องให้ภาครัฐเข้าไปดูแลกิจการ ทำให้สถาบันเหล่านั้น กลายเป็นรัฐวิสาหกิจ

วิถีการบริหารงานของรัฐวิสาหกิจคือการลดต้นทุนและลดคน ดังนั้น เคทีซีจึงอยู่ในภาวะที่ไม่ต้องแข่งกับใคร

เคทีซีจะต้องดูแลตัวเองให้มากขึ้น ด้วยการบริหารงานให้สอดคล้องกับสภาพ วิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น เพราะลูกค้า 1.6 ล้านรายของเคทีซี ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าทั่วไป ที่มีฐานเงินเดือนอยู่ระหว่าง 8,000 บาทถึงระดับหมื่นบาทต้นๆ

นิวัตต์เริ่มเห็นสัญญาณของลูกค้าเคทีซีที่ใช้เงินหมุนเวียนลดลง เขาคาดการณ์ว่าลูกค้าจะผิดนัดชำระเพิ่มขึ้นในปีนี้เป็น 3.5-3.7% จากปี 2550 ที่มีสัดส่วน 3.2-3.3%

สิ่งที่เคทีซีให้ความสำคัญและเริ่มวางแผนรับมือด้วยการบริหารความเสี่ยง การตั้งเงื่อนไขฐานเงินเดือนลูกค้าใหม่จะต้องมีเงินเดือน 9,000 บาท จากเดิมที่กำหนดไว้ 8,000 บาท

เคทีซีเริ่มจัดฐานลูกค้าเพื่อประเมินความเสี่ยง โดยเฉพาะลูกค้าที่ดำเนินธุรกิจ ส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และธุรกิจเอส เอ็มอี ซึ่งเคทีซีมีทีมที่ดูแลฐานข้อมูลลูกค้า 25 คน

ทีมประนอมหนี้เป็นอีกทีมหนึ่งที่จะต้องทำงานด้วยความยืดหยุ่น โดยมีเป้าหมายเก็บหนี้ให้เร็วที่สุด โดยการเจรจาต่อรองของทีมงาน ในฐานะเจ้าหนี้กับลูกหนี้ เจรจาเพื่อลดเงินต้น ลดดอกเบี้ย และตัดเป็นหนี้สูญบางส่วน

การบริหารความเสี่ยงกับกลุ่มลูกค้า ระดับกลาง และผู้ประกอบการที่มีความเสี่ยง ทำให้กลยุทธ์ในการทำตลาดในปีนี้ของเคทีซีจะหันไปจับกลุ่มลูกค้าระดับสูง (hi-end) ซึ่งเป็นกลุ่มที่แทบจะไม่มีปัญหาทางด้านการเงิน และยังเป็นกลุ่มที่ใช้จ่ายค่อนข้างสูง ซึ่งทำให้เคทีซีมีภาวะเสี่ยงน้อย ที่สุด

กลุ่มลูกค้าระดับบนของเคทีซีมีประมาณ 5% หรือเกือบ 1 แสนราย และเป็นกลุ่มที่ใช้จ่ายเดือนละ 1-2 แสนบาท

เคทีซีเริ่มจัดกิจกรรมเพื่อเอาใจลูกค้า ระดับบนตั้งแต่ปลายปี 2551 ที่ผ่านมา ด้วยการร่วมมือกับ บมจ.การบินไทยและมาสเตอร์การ์ด ออกบัตรเครดิตประดับเพชรและทองคำเป็นรายแรกในเมืองไทย ภายใต้ชื่อ The Jewel

ลูกค้าที่จะครอบครองบัตรเครดิตประดับเพชรและทองคำ จะต้องจ่ายค่าบัตร เป็นจำนวนเงิน 10,000 บาท เคทีซีคาดหวังไว้ว่าจะมีลูกค้าประมาณ 500 ราย มียอดค่าใช้จ่ายต่อบัตรไม่น้อยกว่า 1 แสนบาทต่อเดือน

กลยุทธ์การทำตลาดลูกค้าระดับบน จะช่วยทำให้เคทีซีตัดค่าใช้จ่ายค่าโฆษณาและประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ เพราะลูกค้าเหล่านี้เคทีซีบอกว่าจะต้องใช้คนในการติดต่อเชิญชวน

เคทีซีพยายามที่จะยกระดับให้ลูกค้าระดับบนเป็นบุคคลพิเศษ และได้สินค้าบริการที่เหนือกว่าปุถุชนธรรมดาทั่วไปที่ต้องการความหรูหราและมีรสนิยม

จึงทำให้บัตร The Jewel ที่เคทีซีผลิตออกมาอ้างว่า เคทีซีเป็นรายที่ 3 ของโลกที่ผลิตบัตรดังกล่าวขึ้นมาถัดจากดูไบ และประเทศเกาหลี

บัตรดังกล่าวจะประดับเพชรแท้เจียระไนเรียงกัน 3 เม็ด น้ำหนักรวม 0.06 กะรัตและทองคำ 6 เค

แม้ว่าปีนี้เคทีซีจะให้ความสำคัญกับลูกค้าไฮเอนด์เพิ่มขึ้น แต่ลูกค้าทั่วไปที่ใช้บัตรเครดิตของเคทีซียังเป็นฐานใหญ่ที่สร้างรายได้หลัก บริษัทยังต้องรักษาฐานลูกค้าให้ใช้บัตรเครดิตต่อไป เพื่อให้ลูกค้าเลือกใช้บัตรเคทีซีมากกว่าบัตรเครดิตอื่นๆ ที่มีอยู่ในกระเป๋าเงินของลูกค้าอย่างน้อย 3 ใบ

วิธีการดูแลลูกค้าทั่วไป เคทีซีจะใช้กลยุทธ์ทำตลาดหนึ่งต่อหนึ่ง (one on one) โดยใช้ฐานข้อมูลลูกค้าเพื่ออ้างอิงพฤติกรรมในการใช้จ่ายบัตรเครดิตของลูกค้าแต่ละราย

ซึ่งกลยุทธ์เข้าหาลูกค้าหนึ่งต่อหนึ่ง เป็นสิ่งที่นิวัตต์ได้พูดถึงเมื่อปีที่ผ่านมา แต่ในด้านของลูกค้ายังไม่ได้สัมผัสบริการในเชิงรูปธรรมมากเท่าใด

การใช้กลยุทธ์ one on one เปรียบเสมือนเป็นการสานต่อกลุ่มลูกค้า ที่เคทีซีจัดแบ่งออกเป็นกลุ่มที่ชอบกิจกรรม ที่คล้ายคลึงกัน อาทิ กลุ่มถ่ายภาพ กลุ่มเล่นกอล์ฟ กลุ่มเกย์ กลุ่มคนรักหมา เป็นต้น และเพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้ลึกมากขึ้นและได้ใช้งานจริง

ธนา ธนารักษ์โชค ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่าย Customer Insight Senior Vice President-Customer Insight บอกว่ากลยุทธ์เข้าหาลูกค้าหนึ่งต่อหนึ่ง บริษัทจะติดตามจากพฤติกรรมของลูกค้า และจัดรายการส่งเสริมการขายให้สอด คล้องกัน

ยกตัวอย่างเช่น กลุ่มผู้ใช้บัตรเครดิต ที่มีอายุระหว่าง 21-25 ปี วัยเริ่มต้นทำงาน เป็นกลุ่มที่มีสถานภาพเป็นโสด หรือมีแฟน จะมีพฤติกรรมชอบดูภาพยนตร์ รับประทาน อาหาร

เมื่อจับพฤติกรรมได้แล้วบริษัทจะจัดรายการโปรโมชั่นร่วมกับพันธมิตร อาทิ ชมภาพยนตร์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ สาขารัชโยธิน และร้านอาหารเอ็มเคที่อยู่ในสถานที่แห่งเดียวกัน การจัดรายการในรูปแบบดังกล่าวจะทำให้ลูกค้าได้มีโอกาสใช้บัตรเครดิตได้ตลอดเวลา

ส่วนวิธีการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า นอกจากใช้ผ่านสื่อโฆษณา สิ่งพิมพ์ เคทีซียังติดต่อลูกค้าผ่านอินเทอร์เน็ตและเอสเอ็ม เอสผ่านโทรศัพท์มือถือ

ในภาพรวม การทำธุรกิจของเคทีซี ในปีนี้จะไม่ใช่เวลาของการเพิ่มทุนเพื่อขยายกิจการ แต่จะเป็นการดูแลหนี้สินของ ลูกค้าให้รัดกุมมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ต้องกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เพราะธุรกิจโดยรวมของบัตรเครดิต ในปีหน้าจะมีอัตราการเติบโตลดลง

จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศ ไทย (ธปท.) รายงานจำนวนฐานลูกค้าบัตรเครดิตทั้งระบบอยู่ที่ 12,867,379 บัญชียอดสินเชื่อคงค้าง 182,843.26 ล้านบาท และปริมาณการใช้จ่ายรวม 76,448.03 ล้าน บาท เมื่อเทียบกับปี 2550 จำนวนฐานบัตร เครดิตเพิ่มขึ้น 8.51% ยอดคงค้างสินเชื่อโต 5.15% และปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่มขึ้น 1.45%

แม้นิวัตต์จะออกตัวว่าสถานการณ์ข้างหน้ายังไม่มีใครคาดเดาได้แน่ชัด แต่เคทีซีก็เตรียมรับมือเพื่อให้อยู่รอดในสถานการณ์วิกฤติ และแทบจะไม่คาดหวังว่าจะเห็นการเติบโตของบริษัทพุ่งพรวดนับจากนี้ไป   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us