|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ก่อนที่ธนาคารกสิกรไทยจะจับมือกับดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส เพื่อเชื่อมระบบส่งเอกสารการค้าระหว่างประเทศแบบเรียลไทม์ต้องใช้เวลาพัฒนาระบบหลังบ้านถึง 2 ปี
เมื่อปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมาธนาคารกสิกรไทยและบริษัท ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทย ร่วมมือให้บริการเชื่อมต่อระบบบริการ Trade Innovation ของธนาคารเข้ากับระบบการจัดการด้านการขนส่งสินค้าของดีเอชแอล
บริการดังกล่าวจะช่วยอำนวยความ สะดวกในการทำธุรกรรมด้านการค้าระหว่างประเทศให้กับลูกค้าผู้ส่งออกที่ต้องการส่งเอกสารเรียกเก็บเงินจากคู่ค้าในต่างประเทศ
ศูนย์บริการธุรกิจต่างประเทศของธนาคารกสิกรไทยจะทำหน้าที่เป็นผู้รับเอกสารและออกหมายเลขใบนำส่งสินค้า (Air Waybill Number) ซึ่งเป็นบริการอย่างเดียวกันที่ลูกค้าได้รับจากศูนย์บริการดีเอชแอลและเอกสารดังกล่าวจะสามารถส่งออกต่างประเทศผ่านเครือข่ายดีเอชแอลได้ภายในวันเดียวกับที่ส่ง
บริการด้านเอกสารจะช่วยลดขั้นตอนและความยุ่งยากในการตรวจเช็กข้อมูลเอกสารและทำให้เอกสารถึงที่หมายได้เร็วขึ้นทำให้ผู้ส่งออกมีโอกาสได้รับเงินค่าสินค้าเร็วขึ้น
การเชื่อมต่อระบบไอทีของธนาคารกสิกรไทยและดีเอชแอล ตลอดเวลาทำให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานะล่าสุดของเอกสาร ที่ส่งได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมระบบการแจ้งเตือนให้ทราบถึงสถานะสินค้าด้วยอีเมล หรือเอสเอ็มเอส
กรณีเกิดปัญหาระบบข้อมูลจะแจ้งให้ลูกค้ารับรู้ทันทีว่าติดขัดอยู่ในขั้นตอนใด หรือถ้าสินค้าถึงปลายทางระบบก็จะมีการแจ้งให้ลูกค้าทันทีเช่นเดียวกัน
การให้บริการเชื่อมต่อระบบข้อมูลการค้าระหว่างประเทศของธนาคารกสิกรไทยและดีเอชแอลอ้างว่าเป็นความร่วมมือรายแรกในเอเชีย
ก่อนที่จะเปิดให้บริการดังกล่าว ชนัญญารักษ์ เพ็ชรรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเอชแอลฯ ได้เข้าไปพูดคุยกับธนาคารหลายแห่งแต่ไม่ได้รับการพิจารณา แต่ธนาคารกสิกรไทยตัดสินใจที่จะพัฒนาระบบร่วมกัน
ธนาคารและดีเอชแอลใช้เวลาพัฒนาระบบหลังบ้านเชื่อมโยงข้อมูลและทดลองให้บริการมาเป็นระยะเวลาถึง 2 ปีก่อนที่จะเปิดบริการอย่างเป็นทางการ
ส่วนธนาคารกสิกรไทยใช้เวลาพัฒนาแอพพลิเคชั่นในการเชื่อมต่อข้อมูลถึง 3 ปี จึงทำให้ธนาคารมั่นใจว่าเป็นธนาคารรายเดียวที่ให้บริการได้หากธนาคารอื่นๆ ที่จะให้บริการในรูปแบบเดียวกันก็ต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่าธนาคารกสิกรไทยในการพัฒนาแอพพลิเคชั่น
หลังจากที่เปิดบริการดังกล่าวทำให้ธนาคารรุกเปิดศูนย์บริการธุรกิจต่างประเทศเพิ่มขึ้นอีก 10 แห่งในปีนี้เป็น 65 แห่งจากปัจจุบันมีทั้งหมด 55 แห่ง รองรับลูกค้า 11,000 บริษัท จากจำนวนผู้ส่งออกทั้งประเทศ 40,000 บริษัท
ที่ผ่านมามีการใช้บริการระหว่างประเทศ 2.2 ล้านล้านบาทหรือโตขึ้นร้อยละ 40
บริการที่ธนาคารกสิกรไทยร่วมกับดีเอชแอลเป็นอีกกลยุทธ์ หนึ่งที่จะดึงดูดลูกค้าให้หันมาใช้บริการจากปัจจุบันที่ลูกค้า 1 ราย ใช้บริการของธนาคารถึง 4 แห่ง
สิ่งที่ธนาคารตั้งใจไว้คือลูกค้าจะต้องเลือกกสิกรไทยเป็นรายแรก
|
|
|
|
|