เป็นปีที่ 14 ที่วารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้จัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทย โดยภาพรวมของเศรษฐีหุ้นในปี 2551 ซึ่งวัดจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ประเภทบุคคลธรรมดาในประเทศที่ถือหุ้นสัดส่วน 0.5% ขึ้นไป ตามการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นล่าสุดก่อนวันที่ 30 กันยายน 2551 จำนวน 5,095 ราย มีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวมทั้งสิ้น 397,901 ล้านบาท ลดลงจากปี 2550 ถึง 78,285 ล้านบาท หรือลดลง 16.44%
ผลการจัดอันดับ ฉบับเดือนธันวาคม 2551 ปรากฏว่า ตำแหน่งแชมป์เศรษฐีหุ้นประจำปี 2551 ได้แก่ อนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ บิ๊กบอสแห่งวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งได้สร้างสถิติใหม่ด้วยการรักษาตำแหน่งแชมป์เศรษฐีหุ้นไว้ได้อีกครั้งเป็นปีที่ 6 โดยถือครองหุ้นมูลค่าสูงสุดรวม 14,657.45 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้น บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) 23.98% มูลค่า 14,633.23 ล้านบาท และ บมจ.แมนดารินโฮเต็ล (MANRIN) 1.67% มูลค่า 4.21 ล้านบาท
อันดับ 2 ยังเป็นของ ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ แห่งพฤกษาเรียลเอสเตท หรือ PS ซึ่งครองตำแหน่งนี้ติดต่อกัน 3 ปีแล้ว โดยปีนี้ถือครองหุ้นมูลค่ารวม 9,599.16 ล้านบาท จากการถือหุ้น PS ในสัดส่วน 61.85% รวยลดลง 1,554.79 ล้านบาท หรือ 13.94% เนื่องจากราคาหุ้น PS ได้ปรับตัวลดลงถึง 13.93%
อันดับ 3 ก้าวขึ้นมาจากอันดับ 4 เมื่อปีที่แล้ว ได้แก่ นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ หรือหมอเสริฐ แห่งบางกอกแอร์เวย์ส โดยถือหุ้น บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BGH) 13.55% และ บมจ.โรงพยาบาลนนทเวช (NTV) 0.79% รวมมูลค่า 5,111.20 ล้านบาท ลดลง 1,167.80 ล้านบาท หรือ 18.60%
อันดับ 4 ไต่ขึ้นจากอันดับ 8 เมื่อปีที่แล้ว ได้แก่ ประวิทย์ มาลีนนท์ แห่งช่อง 3 โดยถือครองหุ้น บมจ.บีอีซี เวิลด์ (BEC) 11.42% มูลค่ารวม 4,864.92 ล้านบาท รวยลดลง 433.96 ล้านบาท หรือ 8.19%
ด้านนักลงทุนรายใหญ่ อย่าง นิติ โอสถานุเคราะห์ ทายาท สุรัตน์ โอสถานุเคราะห์ แห่งโอสถสภา ไต่อันดับเศรษฐีหุ้นขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จากอันดับ 10 ในปี 2549 มาอยู่ในอันดับ 9 เมื่อปี 2550 และขึ้นมาอยู่ในอันดับ 5 ในปี 2551
อันดับ 6 ที่ตกเป็นของ พวงพันธุ์ บูลศักดิ์ นักลงทุนรายใหญ่อีกราย ที่ก้าวกระโดดจากอันดับ 148 เมื่อปีที่แล้ว โดยถือครองหุ้นรวมมูลค่า 3,776.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 3,177.67 ล้านบาท หรือ 530.27%
สำหรับนิจพร จรณะจิตต์ พี่สาวของ เปรมชัย กรรณสูต บิ๊กบอสอิตาเลี่ยนไทย ยังรักษาอันดับ 7 ไว้ได้เป็นปีที่ 3 โดยถือหุ้นมูลค่ารวม 3,631 ล้านบาท ลดลง 1,774.28 ล้านบาท หรือ 32.82%
เจ้าของค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ แกรมมี่ อากู๋ ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ปีนี้ขยับขึ้นมาเป็นเศรษฐีหุ้นอันดับ 8 หลังจากหล่นไปอยู่ในอันดับ 25 เมื่อปีที่แล้ว
เช่นเดียวกับประชุม มาลีนนท์ ที่ก้าวขึ้นจากอันดับ 12 มาเป็นเศรษฐีหุ้นในอันดับ 9 รวย 3,390.01 ล้านบาท ตามติดด้วยเศรษฐีหุ้นอันดับ 10 อัมพร มาลีนนท์ ที่ไต่ขึ้นมาจากอันดับ 13 เมื่อปีที่แล้ว รวย 3,363.08 ล้านบาท
ส่งผลให้ตระกูลมาลีนนท์ครองอันดับ 1 ของตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยได้อีกครั้งในปีนี้ โดยมีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวม 24,426.93 ล้านบาท ลดลง 2,045.23 ล้านบาท หรือ 7.73%
สำหรับตระกูลอัศวโภคิน ยังคงรักษาอันดับ 2 ไว้ได้อีกปีหนึ่ง จากการถือหุ้นของธุรกิจในตระกูล ได้แก่ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) บมจ.แมนดาริน โฮเต็ล (MANRIN) บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH) และ บมจ.เอพี พร๊อพเพอร์ตี้ (AP) ของ 7 เครือญาติ รวมมูลค่าหุ้นที่ตระกูลอัศวโภคินถือครองทั้งสิ้น 17,684.70 ล้านบาท ลดลง 156.17 ล้านบาท หรือ 0.88%
อันดับ 3 เป็นของตระกูลวิจิตรพงศ์พันธุ์ เจ้าของโครงการหมู่บ้านจัดสรรแบรนด์ "พฤกษา" ที่ก้าวขึ้นมาจากอันดับ 4 เมื่อปีที่แล้ว
ส่วนตระกูลจิราธิวัฒน์ แห่งเซ็นทรัล ซึ่งมีเครือญาติในตระกูลที่ติดอันดับเศรษฐีหุ้นมากที่สุดถึง 25 คน ปีนี้อยู่ในอันดับ 4 โดยถือหุ้นรวมมูลค่า 10,916.73 ล้านบาท ลดลง 5,174.62 ล้านบาท หรือ 32.16%
และอันดับ 5 ยังเป็นของตระกูลปราสาททองโอสถ ด้วยมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวม 6,624.74 ลดลง 1,192.89 ล้านบาท หรือ 15.26%
ส่วนตระกูลชินวัตรของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ตกลงมาหนึ่งอันดับจากอันดับ 47 มาอยู่อันดับ 48 ในปีนี้
โดยรวยลดลงเหลือ 1,369.31 ล้านบาท หรือลดลง 18.98% ซึ่งลูกสาวคนโต พิณทองทา ชินวัตร และลูกสาวคนสุดท้อง แพทองธาร ชินวัตร ยังคงเป็นเศรษฐีหุ้นในอันดับ 108
ทั้งคู่ ถือหุ้น บมจ.เอสซี แอสเซท (SC) ในสัดส่วนที่เท่ากันคือ 28.97% มูลค่า 627.69 ล้านบาท ส่วนคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ถือหุ้น บมจ.โรงพยาบาลวิภาวีดี (VIBHA) และ SC รวมมูลค่าเพียง 6.45 ล้านบาท ....
|