|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ยอดขายรถใหม่ ป้ายแดง หล่นวูบ ตามกระแสเศรษฐกิจโลก ฉุดประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ทรุดฮวบฮาบ ไฟแนนซ์ที่เคยแข่งขันหั่นดอกเบี้ยชิงพื้นที่โชว์รูมรถยนต์ของดีลเลอร์ค้ารถ ต้องชะลอปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ เพราะวิตกปัญหา เอ็นพีแอล จะเบ่งบานตามสภาพเศรษฐกิจที่ยังมองไม่เห็นอนาคต... "
ไทยเศรษฐกิจประกันภัย" เบนทิศหันหน้าเจาะช่องทางตัวแทน เปิดตลาดสินค้าประกันภัยรถยนต์ต้นทุนต่ำ "2-3 plus" หลังช่องทางรับงานรถป้ายแดงจากไฟแนนซ์สะดุด มองแนวโน้มรถเล็ก "ซิตี้คาร์" มาแรง แม้ความเสี่ยงจะสูง แต่แทบทุกค่ายก็หาทางออกด้วยการปรับเบี้ยให้สูงขึ้นชดเชย พร้อมตรวจสภาพอย่างละเอียด ขณะที่รถเชิงพาณิชย์ รถกระบะ รถบรรทุก เบี้ยจะค่อยๆหายไปตามสภาพเศรษฐกิจ...
ธุรกิจในแวดวงประกันวินาศภัย จำเป็นต้องยอมรับสภาพการเปลี่ยนแปลงของตลาดประกันภัย ซึ่งอิงกับสภาพเศรษฐกิจเป็นหลัก เมื่อใดที่เศรษกิจดี ประกันภัยก็จะเติบโตเป็น 2 เท่า แต่ถ้าวันใดที่เศรษฐกิจถดถอย ประกันภัยก็จะพลอยได้รับผลกระทบเป็นเงาตามตัว
"เห็นชัดคือ ภาคส่งออกปรับตัวลดลง ประกันภัยขนส่งทางทะเลเบี้ยก็ปรับตัวลดลง ขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์ ปรับตัวลงมาก เพราะยอดขายรถที่ปรับตัวลงมาตั้งแต่ เดือนก.ค.-ต.ค. 2551 ราว 25% ก็เชื่อว่า ประกันภัยรถยนต์น่าจะยุบตัวลงเช่นกัน"
พุทธิพงษ์ ด่านบุญสุต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยเศรษฐกิจประกันภัย ยังคาดว่า ยอดจองรถในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป จะไม่ได้ตามเป้าหมาย เพราะผู้คนส่วนใหญ่ยังคงเก็บเงินสดไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉิน
นอกจากนั้น ภาคอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างคอนโด ตลอดแนวรถไฟฟ้าบางโครงการก็ชะลอการก่อสร้าง ขณะที่ยอดจองก็ลดลงไปด้วย
โดยสรุปก็คือ การเติบโตของประกันภัยในปี 2552 คงมีเบี้ยรับลดลง แต่ก็ใกล้เคียงกับปี 2551 ที่ 1.15 แสนล้านบาท ขณะที่ปี 2550 อยู่ที่ 1.05 แสนล้านบาท
" ประกันภัย พ.ร.บ. หรือ ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ น่าจะทำได้เต็มที่ มีเท่าไรก็ทำได้เท่านั้น แต่ประกันภัยรถยนต์ โดยเฉพาะรถใหม่น่าจะชะลอตัวลง รวมถึงรถหรู หรือรถนำเข้า ที่บริโภคเชื้อเพลิงจำนวนมาก ก็คงไม่ได้รับความนิยม เท่ากับรถซิตี้คาร์ หรือ รถเครื่องยนต์ขนาดเล็ก"
จากสถิติว่ากันว่า ประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 ที่มีราคาเบี้ยเป็นเงินก้อนโตราวหมื่นกว่าบาท อาจจะไม่ได้รับความนิยมมากเท่ากับประกันภัยประเภท 2-3 plus ที่คิดราคาต่ำกว่าค่อนข้างมาก
ขณะเดียวกัน ก็มีการชะลอตัวของรถป้ายแดง หลังจากมีการแข่งขันสูงมาตั้งแต่ต้นปี 2551 จนมาถึงปลายปี บรรดาธนาคารพาณิชย์ที่มีธุรกิจในเครือทำกิจการเช่าซื้อรถยนต์ก็เริ่มชะลอการปล่อยสินเชื่อลง ทำให้ตลาดรถป้ายแดง ที่มักจะถูกบังคับทำประกันภัยประเภท 1 เบี้ยจะปรับลงไปโดยปริยาย
ธุรกิจประกันภัยที่เคยรับงานจากธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ในเครือธนาคารหลายแห่ง จึงต้องเบนทิศกลับมาที่ช่องทางตัวแทนเพื่อจับจองพื้นที่รถที่มีอายุมากกว่า 1 ปีขึ้นไป และส่วนใหญ่ก็มักจะเลือกซื้อประกันภัยประเภท 2-3 plus ที่มีราคาเบี้ยต่ำกว่าหลายพันบาทแทน
พุทธิพงษ์ อธิบายว่า ยอดขายรถป้ายแดงชะลอตัวลง ขณะที่การแข่งขันตัดราคาเบี้ยก็ยังสูงอยู่ ดังนั้นก็เชื่อว่าในปี 2552 แนวโน้มรถยนต์เครื่องยนต์ขนาดเล็กหรือ "รถซิตี้คาร์" จะได้รับความนิยมมากขึ้นจากผู้บริโภค
อย่างไรก็ตาม สำหรับรถซิตี้คาร์ จากสถิติบอกได้ว่า มีอัตราความเสียหายสูงกว่ารถยนต์ที่มีขนาดใหญ่กว่า ขณะที่อัตราการเกิดอุบัติเหตุก็มีมากกว่า ทำให้ก่อนหน้านี้แทบทุกบริษัทประกันภัยต้องปรับเพิ่มเบี้ยรถเล็กกันโดยไม่ได้นัดหมาย ดังนั้นคนที่มีรถเล็กก็เลี่ยงไม่ได้ต้องจ่ายเบี้ยแพงขึ้น
อาจจะรวมไปถึงรถเชิงพาณิชย์ รถกระบะ และรถบรรทุก ที่มีชั่วโมงการใช้งานสูง มีความเสี่ยงสูงและเบี้ยสูงอยู่แล้ว เมื่อได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจก็ยิ่งทำให้ตลาดรถกลุ่มนี้มีปริมาณเบี้ยลดลง
พุทธิพงษ์ บอกว่า ในปีหน้า ธุรกิจจะปรับเบี้ยขึ้นอีกหรือไม่ ต้องดูกันเป็นรายไตรมาส ว่าเบี้ยที่ปรับไปแล้วตั้งแต่ปี 2551 จะครอบคลุมความเสียหายหรือไม่
ที่ผ่านมา การปรับเบี้ยรถเล็กลงเฉลี่ย 10-15% ก็เพื่อให้บริษัทสามารถประคองตัวอยู่ได้ ถ้าราคาเบี้ยที่ปรับเหมาะสมกับสถานการณ์
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะเกิดขึ้นในปีหน้าก็คือ บริษัทประกันวินาศภัยจะคิดเลือกรถทำประกันภัย โดยการตรวจสภาพมากขึ้น และฝ่ายรับประกันภัยหรือ อันเดอร์ไรท์ ก็ต้องดูรายละเอียดมากขึ้นด้วย
เพราะในปีหน้าการแข่งขันในตลาดประกันภัยรถยนต์จะสูงขึ้น ขณะที่การตรวจสอบรายละเอียดความเสียหายก็จะมากขึ้นด้วย
ที่เห็นชัดเจนและค่อนข้างแน่นอนแล้วก็คือ ผู้ทำประกันภัยรถยนต์จะต้องจ่ายเบี้ยให้ครอบคลุมความเสียหายของรถเล็กมากขึ้น
ขณะที่ตลาดประกันภัยรถยนต์ ประเภท 2-3 plus จะบูม เบ่งบานไปตามสภาพเศรษฐกิจ
ส่วนรถยนต์นั่งขนาดใหญ่และรถยนต์เชิงพาณิชย์งานนี้ จึงต้องทำใจเพียงอย่างเดียว เพราะนอกจากเบี้ยจะถูกปรับขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย ในขณะที่ยอดขายกำลังถดกรูดลงเรื่อยๆ ไฟแนนซ์ส่วนใหญ่ก็คัดเลือกจะปล่อยกู้เข้มงวดขึ้น
ชั่วโมงนี้ ทั้งคนขายประกันภัย และคนซื้อประกันภัย จึงตกอยู่ในสถานภาพเดียวกันคือ ตกอยู่ในที่นั่งลำบากกันถ้วนหน้า....
|
|
|
|
|