Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน18 ธันวาคม 2551
ตลาดหุ้นคึกไม่รอด หวั่นเสื้อแดงป่วน             
 


   
search resources

Stock Exchange




ตลาดหุ้นคึกไม่รอด แม้เปิดตลาดดีดรับข่าวเฟดรับดอกเบี้ย ก่อนรูดต่ำปิดที่ 445.94 จุด ขยับเพิ่มเพียง 0.63 จุด มูลค่าซื้อขาย 2,108.05 ล้านบาท แม้ต่างชาติขนเงินลงทุน แต่รายย่อยตระหนกเทขายหนัก หลังข่าวกลุ่ม นปช. ประกาศจะออกมาชุมเพื่อขัดขวางการแถลงนโยบายของรัฐบาล ยังผลให้นักลงทุนวิตก และเทขายหุ้นออกมาต่อเนื่องจนปิดตลาด ขณะที่วันนี้รอทิศทางการเมือง "ภัทรียา " เผยแนวโน้มหุ้นปี 52 หากปัจจัยลบทั้งในและนอกประเทศคลี่คลาย ความเชื่อมั่นของนักลงทุนจะกลับมา ภาพรวมตลาดน่าจะปรับดีขึ้น เชื่อต่างชาติยังสนลงทุนหุ้นไทย

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วานนี้ดีดรับการปรับเฟดลดดอกเบี้ยเปิดตลาดที่ระดับ 10 จุด ก่อนจะค่อยปรับลดลงช่วงบ่าย และปิดตลาดที่ดัชนี 445.94 จุด เพิ่มขึ้นเพียง 0.63 จุด คิดเป็น 0.14% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 19,692,52 ล้านบาท เรียกว่าแทบไม่ขยับจากวันก่อน โดยนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 977.10 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,130.95 ล้านบาทและนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 2,108.05 ล้านบาท แม้ช่วงเช้าดัชนีหุ้นจะดีดแต่แผ่วลงในช่วงบ่าย เหตุกระแสข่าวการออกมาชุมนุมของกลุ่มผู้ชุมนุม แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ออกมาชุมนุมเพื่อขัดขวางการแถลงนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี

นายมงคล พ่วงเกดรา นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วานนี้ (17 ธ.ค.) จากการที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอีก 0.75% เหลือ 0.25% และลดดอกเบี้ยมาตราฐานลง 0.75% จาก 1.25% เหลือ 0.50 % ส่งผลให้

ดัชนีปรับเพิ่มขึ้นกว่า 10 จุด ขณะที่ในช่วงบ่ายดัชนีร่วงลง จากความวิตกกังวลของนักลงทุนหลังเฟดประกาศลดดอกเบี้ย ซึ่งแสดงถึงสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐที่ไม่ดีจึงทำให้มีแรงเทขายออกมา

ทั้งนี้ ปัญหาการเมืองภายในประเทศยังคงไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเป็นพิเศษ เนื่องจากอยู่ระหว่างการตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) แม้ว่าจะมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แต่ตลาดคาดการณ์ว่าปัญหาต่างๆ จะคลี่คลายไปในทางที่ดี

สำหรับแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดว่ายังปรับขึ้นลงตามทิศทางผลการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) และแผนการช่วยเหลือกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ของรัฐบาลสหรัฐฯ รวมถึงปัญหาการเมืองภายในประเทศ ดังนั้นนักลงทุนระยะสั้นควรเทขายทำกำไร ส่วนกการลงทุนในระยะยาวให้ถือหุ้นต่อไป ทั้งนี้ประเมินแนวรับที่ 438 จุด และแนวต้านที่ 450 จุด

นายภูวดล ลาภอุดมสุข ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าวานนี้ตลาดหลักทรัพย์ปรับเพิ่มรับข่าวเฟดประกาศลดดอกเบี้ยระยะสั้นลงต่ำสุดในรอบ 50 ปี เหลือเพียง 0.25% จนทำให้ปิดภาคเช้าในแดนบวกขณะที่ช่วงบ่ายจากปัญหาการเมืองภายในประเทศ ภายหลังกลุ่ม นปช.ประกาศว่าจะมาชุมเพื่อขัดขวางการแถลงนโยบายของรัฐบาล จึงทำให้นักลงทุนเกิดความวิตกกังวลต่อเหตุการณ์ดังกล่าวและเทขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่องจนปิดตลาด

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดว่ายังคงมีแรงเทขายออกมา

เนื่องจากก่อนหน้านี้ดัชนีได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อมาหลายวันแล้วโดยนักลงทุนควรจับตาการแถลงนโยบายของรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และผลการประชุมของ OPEC ส่วนกลยุทธ์การลงทุนแนะรอซื้อหุ้นเมื่ออ่อนตัวและให้แนวรับอยู่ที่ 435 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 455 จุด

ด้านนายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล. นครหลวงไทยจำกัด (มหาชน) กล่าวว่าวานนี้จากการที่เฟดประกาศลดดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.75% ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นรับกับข่าวดีดังกล่าว ขณะที่ปัญหาการเมืองภายในประเทศภายหลังกลุ่ม นปช. ประกาศว่าจะคัดขวางการแถลงนโยบายของฝั่งพรรคร่วมรัฐบาล ส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าจะมีเหตุการณ์รุนแรง และเทขายหุ้นออกมาจนดัชนีร่วงลง

สำหรันแนวโน้มตลาดหลักทรัพย์วันนี้ น่าจะอยู่ในช่วงปรับฐาน และควรจับรอดูปัญหาการเมืองภายในประเทศว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงหรือไม่ รวมถึงการประชุมของกลุ่มOPEC ในเรื่องการประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมัน แนะนักลงทุนให้เทขายทำกำไร โดยมีแนวรับอยู่ที่ 445 จุด และแนวต้านอยู่ที่ 460 จุด

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดหุ้นในปี 2552 นั้น หากสถานการณ์คลี่คลายทั้งปัจจัยภายนอกประเทศ และปัจจัยภายใน ความเชื่อมั่นของนักลงทุนก็กลับมา ภาพรวมตลาดน่าจะปรับดีขึ้น อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามคือประมาณการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจทั้งในโลก และเศรษฐกิจไทย มาตรการการช่วยเหลือ ฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาล รวมถึงปัจจัยการเมืองในประเทศด้วย

นายวิเชษฐ ตันติวานิช รองผู้จัดการสายงานการตลาดศูนย์ระดมทุนตลท.กล่าวว่า หลังมีรัฐบาลใหม่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นโดยเฉพาะนักลงทุนในประเทศ เห็นได้จากดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่มีการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งๆที่นักลงทุนต่างชาติยังเทขายออกมาอยู่ มูลค่าการซื้อขายก็สูงถึง 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งโดยเป็นแรงซื้อของนักลงทุนไทยเป็นผู้นำตลาด จากที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติเป็นผู้ซื้อที่หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยให้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีที่อาจจะทำให้นักลงทุนต่างชาติเริ่มหันกลับมาซื้อ เพราะไม่อยากตกขบวน โดยผ่านมาให้มีการพบกับนักลงทุนสถาบันต่างประเทศ 2 ราย จากประเทศสิงคโปร์ มีมุมมองที่ดีกับประเทศไทยหลังจากที่ได้รัฐบาลใหม่ ทำให้มีความมั่นใจที่จะเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยจากไม่อยากเสียโอกาส หรือตกขบวนหากตลาดปรับขึ้น   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us