กว่าจะมาเป็นบริษัทประกันภัยอันดับหนึ่งทุกวันนี้ กรุงเทพประกันภัยมีอายุมาแล้ว
40 ปี ด้วยทุนจดทะเบียนแรกสุด 5 ล้านบาท ชื่อว่า "เอเชียพาณิชย์"
ต่อมาในปี 2507 กิจการได้เติมโตมากขึ้นจนต้องเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 20 ล้านบาท
ถือว่าเป็นบริษัทวินาศภัยที่มีทุนจดทะเบียนสูงสุดในขนาดนั้น
แม้ในปัจจุบันกรุงเทพประกันภัยจะไม่ใช่บริษัทที่มีทุนจดทะเบียนสูงสุด เนืองจากมีทุนจดทะเบียนตอนนี้
100 ล้านบาท แต่ชำระแล้วประมาณ 70 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งมีบริษัทบางแห่งมีทุนสูงถึง
2-3 เท่าตัวแต่สิ่งเหล่าก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการรับประกัน
กรุงเทพประกันภัยครองความเป็นหนึ่งในด้านเบี้ยประกันมาตลอด ณ ไตรมาสสามของปีนี้
ก็เช่นเดียวกับเบี้ยประกันรับรวมทั้งสิ้น 878.14 ล้านบาท ส่วนแบ่งตลาด 9.68
% แบ่งเป็นอัคคีภัย 401.35 ล้านบาท ส่วนแบ่งตลาด 14.80% ทางทะเลและขนส่ง
107.85 ล้านบาท ส่วนแบ่งตลาด 14.30% รถยนต์ 230.90 ล้านบาท ส่วนแบ่งตลาด
5.19% เบ็ดเตล็ด 138.05 ล้านบาท ส่วนแบ่งตลาด 11.99%
แต่ใช่ว่าบริษัทที่รับงานใหญ่ ๆ จะสบายเสอมไปอย่างวาตภัย ไต้ฝุ่นเกย์ ที่ภาคใต้ครั้งนี้
บริษัทประกันภัยเล็ก ๆ ที่ไม่ได้รับเรือขนส่งสินค้ามากนักล้วนรอดพ้นจากการจ่ายเงินไหม
ส่วนกรุงเทพประกันภัยยักษ์ใหญ่ประกันต้องจ่ายสินไหมเรือจม 2 ลำ ลำแรกชื่อ
แสงไทยไดมอนด์ ทุนประมาณ 24 ล้านบาท ลำที่สอง ชื่อ แสงไทยรูบี้ทุนประกันประมาณ
20 ล้านบาท แต่ลำหลังนี้เสียหายไม่เกิน 1 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีสินค้าปุ๋ยที่รับประกันไว้ประมาณ
3-4 ล้านบาท ที่ต้องชดใช้
รวมแล้วมีทุนประกัน 25 - 29 ล้านบาท ที่ได้รับความเสียหาย !
วาตภัยกลุ่มภาคใต้งวดนี้ ทำให้ชัย โสภณพนิช คิดถึงเกษตรกรมาขึ้น เพราะว่าพื้นที่ทำการเกษตรเสียหายกว่า
ล้านไร่ แต่ไม่มีประกันเลย พืชที่เสียหายมากคือมะพร้าว สับปะรด ยางพารา ชัย
ถึงกับปรารภว่าพืชเหล่านี้น่าสนใจ จะหาทางลองศึกษาดูอย่างน้อยก็จะเป็นการเปิดตลาดใหม่พร้อมๆ
กับการคืนกำไรให้ประชาชน ในแง่ของเบี้ยประกันจะไม่มีการขึ้นอัตราแบบนครซานฟรานซิลโกที่ถูกแผ่นดินไหวแน่นอน
โดยภาพรวมของธุรกิจ นับว่าเป็นไปด้วยดีแม้ว่าจะมีบริษัท ประกันบางแห่งได้รับความเสียหายจากวาตภัยบ้าง
มีความเติมโตถึง 32 % เบี้ยรับประกันทั้งหมดในไตรมาสสามประมาณ 9,069.96 ล้านบาท
ความเติมโตของธุรกิจทำให้หุ้นของบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์อยู่ในอัตราศื้อขายที่ดี
หรืออาจจะเรียกว่าสูงสุดในตลาดก็ยังได้ อาที หุ้นของกรุงเทพประกันภัยในวันที่
17 พ.ย 32 ราคาเปิด 8,467 บาท แม้ว่าราคาจะต่ำกว่าเดือนสิงหาคม - กันยายน
ที่มาผ่านนี้ (ประมาณหุ้นละหมื่นบาทเศษ ) แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นผลมาจากวาตภัยเพราะว่าราคาหุ้นลดลงตั้งแต่เดือนตุลาคมแล้วเพราะกรุงเทพประกันภัยเพิ่มทุนอีก
10 ล้านบาท จึงมีการขยายหุ้นงวดใหม่โดยกรุงเทพประกันภัยจัดจำหน่ายเอง ด้วยเหตุผลที่ว่าจำนวนหุ้นมีน้อย
ไม่ต้องอาศัยตัวแทนก็จัดจำหน่ายเองได้
อย่างไรก็ตามนักเล่นหุ้นหลายคนที่คาดว่าราคาหุ้นบริษัทประกันยังไปได้ดี
เพราะจำนวนขายมีน้อย แต่ความต้องการมากและส่วนใหญ่จะเป็นการทุ่มซื้อจากต่างประเทศ
สำหรับบริษัทกรุงเทพประกันภัยได้กำหนดสัดส่วนต่างประเทศไว้ 30 % ซึ่ง ขณะนี้ก็เกือบเต็มแล้ว
ในอนาคตความเติมโตของบริษัทก็คงอยู่ในระดับ 20 % เพราะฐานเบี้ยประกันของบริษัทใหญ่ฉะนั้นจะไม่เร่งเติมโตมากกว่านี้
ส่วนการกไรคาดว่าประมาณ 300 ล้านบาท แม้ปีนี้บริษัทต้องจ่ายสินไหมรายใหญ่
ๆ หลายครั้ง แต่ก็ไม่กระทบกระเทือนแต่อย่างใด