Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน17 ธันวาคม 2551
กองอสังหาฯใหม่ปาดเหงื่อ ศก.พ่นพิษระดมทุนลำบาก             
 


   
search resources

Funds




แนวโน้มเศรษฐกิจชะลอตัว ฉุดความมั่นใจนักลงทุน จนกระทบพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ ล่าสุด "กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แบบมีกรรมสิทธิ์ 101 สโตร์เรจ" ค่ายบลจ.บีทีวืด นักลงทุนสถาบันมีปัญหา ระดมทุนไม่เข้าเกณฑ์ ส่งผลจัดตั้งกองไม่สำเร็จ สู้ต่อ เตรียมจับปัดฝุ่นใหม่กุมภาพันธ์ปีหน้า ขณะที่เอ็มเอฟซีปาดเหงื่อ ระดมทุนกอง "เอ็มเอฟซี-นิชดาธานี2" ผ่านฉลุย 1 พันล้าน แม้ไม่เต็มมูลค่าโครงการ ระบุต้องเอาสินทรัพย์บางส่วนออกไป รอจังหวะลงทุนเพิ่ม ขณะที่ "TFUND" ใส่เงินซื้อโรงงานเพิ่ม หลังแผนเพิ่มทุนลงตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แบบมีกรรมสิทธิ์ 101 สโตร์เรจ (101 Storage Property Fund หรือ STOR) กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บีที จำกัด ซึ่งเปิดขายหน่วยลงทุนไประหว่างวันที่ 20 - 28 พฤศจิกายน 2551 ที่ผ่านมานั้น ปรากฏว่าไม่สามารถระดมทุนตามเกณฑ์ ทำให้ไม่สามารถจัดตั้งกองทุนได้

รายงานข่าวระบุว่า สาเหตุส่วนหนึ่งเนื่องนักลงทุนสถาบันมีปัญหาทางด้านการลงทุน แต่อย่างไรก็ตาม บลจ.บีทียังไม่ยกเลิกแผนการจัดตั้งกองทุนดังกล่าว โดยจะนำกลับเสนอขายอีกครั้งในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ส่วนเงินลงทุนในส่วนที่นักลงทุนได้จองซื้อหน่วยลงทุนเข้ามา ทั้งนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน บริษัทก็จะทยอยคืนเงินในส่วนนั้นกลับไป

สำหรับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แบบมีกรรมสิทธิ์ 101 สโตร์เรจ (101 Storage Property Fund หรือ STOR) มีมูลค่าโครงการ 603 ล้านบาท ลงทุนในโกดังสินค้าซึ่งตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าว 101 บนเนื้อที่กว่า 39 ไร่ โดยจุดเด่นของกองทุนนี้ จะลงทุนในอาคารรับฝากสินค้า ซึ่งถือว่าเป็นกองทุนแรกของไทย โดยจะประกันผลตอบแทนขั้นต่ำ 6 ปีแรก ในอัตราไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 7 ต่อปีโดยมีการค้ำประกันของธนาคารพาณิชย์ และผลตอบแทนของกองทุนจะจ่ายเป็นเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยไม่เกินปีละ 2 ครั้ง

ด้านนายพิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFC เปิดเผยว่า บริษัทสามารถขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอ็มเอฟซี-นิชดาธานี โดยระดมเงินทุนได้จากนักลงทุนสถาบันและรายย่อยกว่า 1,000 ล้านบาท และขณะนี้อยู่ระหว่างการขอจดทะเบียนกองทุนกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) หลังจากนั้นจะนำหน่วยลงทุนเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้นเดือนมกราคม 2552 เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้ผู้ถือหน่วยลงทุนต่อไป

อย่างไรก็ตาม เดิมที่มูลค่าโครงการของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอ็มเอฟซี-นิชดาธานี2 นั้น จดทะเบียนไว้ที่ 1,329 ล้านบาท ซึ่งการกองทุนสามารถระดมทุนได้ประมาณ 1,000 ล้านบาทหลังจากปิดขายไอพีโอนั้น เป็นผลมาจากความไม่มั่นใจของนักลงทุนต่อเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากในช่วงที่ระดมทุนนั้น มีการชุมนุมปิดสนามบิน แต่อย่างไรก็ตาม กองทุนยังสามารถจัดตั้งกองทุนได้ ถึงแม้จะไม่เต็มมูลค่าโครงการก็ตาม โดยจำนวนเงินที่ระดมทุนได้ดังกล่าว ทำให้กองทุนต้องเอาสินทรัพย์บางส่วนออกไป ซึ่งไม่มีปัญหาแต่อย่างใด เพราะกองทุนสามารถลงทุนเพิ่มได้ในอนาคต

ทั้งนี้ กองทุนรวม MNIT2 ได้เปิดขายหน่วยลงทุนระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน-2 ธันวาคม 2551 ที่ผ่านมา มีมูลค่าโครงการ 1,329 ล้านบาท โดยกองทุนดังกล่าวจะลงทุนโดยซื้อกรรมสิทธิ์สมบูรณ์ (Freehold) ในทรัพย์สินประเภทบ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 76 หลัง พร้อมที่ดิน แต่เนื่องจากอยู่ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจและการเมือง จึงทำให้สามารถระดมทุนได้ประมาณ 1,005 ล้านบาท ซึ่งกองทุนยังคงสามารถซื้อบ้านเดี่ยวและที่ดินได้จำนวน 58 หลัง ของโครงการ The Regent ที่นิชดาธานี ถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นชุมชนชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย

กองทุนรวม MNIT2 เป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่ลงทุนในโครงการที่ประสบความสำเร็จในการสร้างชุมชนชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในไทยที่มีมาตรฐานระดับสากล โดยกองทุนจะได้รับผลตอบแทนสม่ำเสมอ จากการปล่อยเช่าบ้านเดี่ยวเป็นระยะเวลาประมาณ 7 ปีให้กับบริษัทนิชดา พร็อพเพอร์ตี้ และกองทุนจะได้รับผลตอบแทนเป็นค่าเช่ารายเดือนตามที่ตกลงไว้ ซึ่งกองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ โดยกองทุนให้บริษัทนิชดาทำสัญญาเช่าโดยมีการวางหลักประกัน 9 เดือนของค่าเช่า ทั้งนี้การเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์โดยสมบูรณ์ในที่ดินและอาคาร (Freehold) กองทุนมีโอกาสที่จะได้รับมูลค่าเพิ่มในทรัพย์สิน โดยกองทุนมีสิทธิที่จะขายทรัพย์สินภายในกองทุนได้หลังจากปีที่ 3 เมื่อเห็นว่าเป็นประโยชน์กับผู้ลงทุนโดยไม่ถือเป็นการผิดสัญญาเช่ากับบริษัทนิชดา

ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่เกินปีละ 4 ครั้ง ในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของกำไรสุทธิของกองทุน ซึ่งบลจ.เอ็มเอฟซี เชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนที่ลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ MNIT 2 ในระดับที่น่าพอใจอย่างต่อเนื่องทุกปี ซึ่งที่ผ่านมาเอ็มเอฟซีได้ประสบความสำเร็จมาแล้วกับกองทุน MNIT ที่จ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหน่วยลงทุน จำนวน 13 ครั้ง เป็นเงินกว่า 229 ล้านบาท

ขณะที่นายสุธีร์ คันธารวงสกุล ผู้มีอำนาจในการรายงานสารสนเทศ บลจ.บัวหลวง เปิดเผยว่า ตามที่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน ซึ่งจัดการโดยบริษัทได้เสนอขายหน่วยลงทุนเพิ่มทุนครั้งที่ 3 ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนเดิมและบุคคลทั่วไป ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2551 จนถึงวันที่ 2 ธันวาคม 2551 ได้จำนวน 195,200,000 หน่วย ในราคาเสนอขายหน่วยละ 10.25 บาท โดยมีจำนวนเงินที่ได้รับภายหลังหักค่าใช้จ่ายในการเสนอขายหน่วยลงทุนประมาณ1,967.9 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจัดการได้นำเงินจำนวนดังกล่าวรวมกับเงินที่ได้จากการขายโรงงานในครั้งก่อนอีกจำนวน 189.9 ล้านบาท ไปซื้อโรงงานและคลังสินค้า รวม 46 หลัง รวมเป็นเงิน 2,157.8 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us