Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ ธันวาคม 2532








 
นิตยสารผู้จัดการ ธันวาคม 2532
หาญ - ปิ่น - เอกสิน ลงขันเพื่อเพื่อน             
 


   
search resources

เอกสิน
ปิ่น จักกะพาก
หาญ เกียรติเฟื่องฟู
Consultants and Professional Services
Financing
ธนาคารเชสแมนฮัตตัน




ไม่ง่ายนักซึ่งคนที่ถูกมองว่า "มลทิน" จากบริษัทหนึ่งจะสามารถสร้างบริษัทใหม่ขึ้นมาหากินในธุรกิจเดิมที่ตัวมีชื่อ "ฉาวโฉ่" ได้ในเวลาอันรวดเร็ว แถมได้รับการต้อนรับอย่างดีอีกต่างหาก

มันอาจจะเป็นเรื่องไม่ง่ายสำหรับหลายคน แต่เป็นเรื่องที่พิสูจน์ออกมาแล้วว่า "ไม่ยาก" สำหรับหาญ เกียรติเฟื่องฟู อดีตกรรมการผู้จัดการบงล.สินอุตสาหกรรม (ซิกโก้)

ภายหลังลาออกจากซิกโก้เพียง 4 เดือนเมื่อตุลาคม 2531 หาญหวนกลับมาสุ่วงการธุรกิจเงินทุนหลักทรัพย์อีกด้วยตำแหน่งกรรมการผู้จัดการที่บงล.เอกสินในเดือนกุมภาพันธ์ 2532 แลเพียง 8 เดือนให้หลังเขาสามารถทำกำไรสุทธิให้บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์แห่งนี้ 15 ล้านบาท

ก่อนที่เอกกสินจะมาเป็น "เอกสินของหาญ" อย่างในทุกวันนี้ ก็เป็นเพียงบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เล็กๆ ในชื่อเดิมว่า "กรุงทอง" เผชิญกับภาวะวิกฤติสถาบันการเงินในช่วงปี 2526 - 2529 ซวดเซและมีตัวเลขขาดทุนสะสมตลอดมานับจากนั้น

อย่างไรก็ดี กรุงทองไม่ได้เข้าร่วมในโครงการทรัสต์ 4 เมษา ด้วยเหตุนี้การเจรจาซ้อขายจึง "ง่าย" กว่าทรัสต์ในโครงการจำนวนมากที่จนป่านนี้ก็ยังคงขายไม่ออก ทั้งนี้ความสำเร็จในการเจรจาซื้อกรุงทองจากกลุ่มบริหารเดิมคือตระกูลใบมงคลและไทยยืนยงศักดิ์เป็นฝีมือของปิ่นเอกพาก กรรมการผู้จัดการบงล.เอกธนกิจ

ปิ่นและเอกธนกิจถือเป็นภาพลักษณ์แห่งความสำเร็จในธุรกิจด้านวาณิชธนกิจ โดยในปี 2531 เอกธนกิจมีลูกค้าอยู่ในแผนกวาณิชธนกิจถึง 9 รายและค่าธรรมเนียมจากส่วนนี้ถือเป็นรายได้หนึ่งที่สำคัญของบริษัท ในปีดังกล่าวเอกธนกิจมีรายได้จากค่าธรรมเนียมและการบริการรวม 42,466,300 ล้านบาท

ในภาพลักษณ์แห่งความสำเร็จของปิ่นและเอกธนกิจ เอกสินมีส่วนร่วมอยู่ด้วย ชื่อเอกสินบ่งบอกถึงความสัมพันธ์ในเครือเดียวกับเอกธนกิจ และปิ่นก็ถือหุ้นของเอกสินเอาไว้จำนวนหนึ่ง

กระนั้นก็ตาม "ตัวตน" ของเอกสินที่เกิดขึ้นอย่างเต็มภาคภูมิในวงการค้าหลักทรัพย์ครั้งนี้ก็สืบเนื่องมาจากชื่อแห่งความ "หมองมัว" ของหาญที่ทำไว้ที่ซิกโก้ด้วย ทั้งนี้หาญเคยถูกกล่าวหาว่าเล่นพอร์ทของตนเองพร้อมกันไปกับพอร์ทของบริษัทในสมมัยที่อยู่ซิกโก้อันเป็นเหตุให้เขาลาออกจากซิกโก้

อย่างไรก็ตามบรรดาแขกเหรื่อที่มาร่วมงานแนะนำบงล.เอกสินอย่างเป็นทางการเมื่อจันทร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2532 ล้วนแต่บอกกับ "ผู้จัดการว่า" การที่ตัดสินใจลงทุนร่วมกับหาญหรือลงขันให้หาญครั้งนี้ก็เพราะว่าเป็นเพื่อนกัน

วิชัย วาสนาส่ง กรรมการผู้จัดการบริษัทยูนิเวสพร้อพเพอร์ตี้ กล่าวอย่างไม่ลังเลใจกับ "ผู้จัดการ" ว่า "ผมเป็นเพื่อนกับคุณหาญ คนดีมีฝีมืออย่างนี้เมื่อถูกไล่ออกจากซิกโก้ เราก็ต้องช่วยกัน" แม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่กลุ่มยูนิเวสสนใจในธุรกิจหลักทรัพย์

นอกจากพิชัยแล้ว ผู้ร่วมทุนคนอื่นๆ ก็ล้วนแต่เอ่ยอ้างว่าเป็นเพื่อนรักกับหาญทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น ดำริห์ ก่อนันทเกียรติ แห่งยูนิคอร์ดโดยถือไว้ในชื่อบริษัทสมบัติดำริห์ จำกัด กลุ่มสุขวิทธุรกิจของตระกูลจูตระกูลซึ่งเกี่ยวดองกับทางจักกะพาก บริษัทสัปปะรดไทย จำกัดที่เอกสินเป็นนายหน้าจัดจำหน่ายและประกันการจำหน่ายหุ้นหรือกระทั่งบริษัทซิว จำกัดของพรเสก กาญจนจารี

เรียกว่างานนี้ทุกคนพร้อมใจลงขันเพื่อเพื่อนโดยแท้ !

แม้แต่ธนาคารเชสแมนฮัตตันก็สนใจเข้าร่วมหุ้นด้วย 10% เนื่องเพราะมีความสัมพันธ์ในฐานะบริษัทคู่ค้าและปิ่นก็เคยมีความสัมพันธ์กับธนาคารเชสฯในฐานะศิษเก่าที่นี่มาก่อน การหาผู้ร่วมทุนต่างชาติของเอกสินจึงเป็นเรื่องง่ายๆ อีกเรื่องหนึ่งสำหรับหาญ

ประกิตต์ เสกสรร รองกรรมการผู้จัดการบงล.เอกสินซึ่งเป็น "คู่หู" ของหาญและเป็น 1 ใน 10 ที่ติดตามหาญออกจากซิกโก้กล่าวกับ "ผู้จัดการ" ว่าทางเอกสินกำลังมองหาแบงก์สักแบงก์เข้ามาร่วมทุน เพราะว่าจริงๆบริษัทไฟแนนซ์โกยทั่วไปควรจะมีแบงก์เข้ามาร่วมหุ้นด้วย

เอกสินและธนาคารเชสฯมีธุรกิจเกี่ยวข้องกันหลายอย่าง ประกิตต์เปิดเผยว่า "หาญมีลูกค้าที่เป็นโบรกเกอร์ชาวต่างชาติพอสมควร และขณะเดียวกันเอกสินก็มีธุรกิจหลายอย่างเกี่ยวข้องกับบริษัทที่มีชาวต่างชาติมาลงทุน ดังนั้นจึงมีการส่งธุรกิจบางอย่างให้แก่กัน"

การที่เอกสินเลือกร่วมทุนกับธนาคารเชสฯซึ่งมีบรนิษัทเชสแมนฮัตตัน (ประเทศไทย) จำกัดอันเป็น FINANCAIL HOLDING COMPANY ของธนาคารเชสฯเข้าถือหุ้นนั้นก็เพื่อประโยชน์ของความสะดวกคล่องตัวในการร่วมกันทำ SYNDICATED LOAN และที่สำคัญธนาคารเชสฯ สามารถทำตามเงื่อนไขต่าง ๆ ของเอกสินได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของจำนวนหุ้นที่แบ่งให้ 10% เรื่องของ KNOW-HOW ที่เอกสินสามารถส่งคนไปฝึกอบรมได้ รวมถึงเรื่องการบริหารที่ธนาคารเชสฯ ตกลงว่าจะไม่รบกวนหรือแทรกแซงเอกสินโดยเด็ดขาด

พิศดูเงื่อนไขเหล่านี้แล้ว ธนาคารเชสฯ เป็นฝ่ายเสียเปรียบโดยสิ้นชิง !

แต่หากจะดูให้ลึก ๆ เงินจำนวน 34.6 ล้านบาทสำหรับหุ้นเอกสิน 10% หรือ 700,000 หุ้นที่ธนาคารเชสฯ ลงทุนออกจะดูเป็นจำนวนเล็ก ๆ เมื่อเทียบกับสิ่งที่ธนาคารเชสฯ ต้องการและได้มาจากการลงทุนครั้งนี้

ธนาคารเชสฯ เคยมีเชสไฟแนนซ์เป็นธุรกิจในเครือที่รองรับลูกค้าซึ่งสนใจลงทุนค้าหลักทรัพย์ในไทย ครั้นขายไปแล้วให้กับกลุ่มศรีมิตร ธนาคารเชสฯ ก็หมดเครือข่ายขณะที่ธุรกิจนี้กำลังรุ่งเรือง ดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์ไทยโตวันโตคืนอย่างชนิดที่ดึงดูดผู้ถอนตัวออกจากวงการในช่วงตลาดฯ ซบให้กลับมาสู่ตลาดฯ ได้เกือบหมด และธนาคารเชสฯ เป็นหนึ่งในนั้น

ประกิตต์ เปิดเผยกับ "ผู้จัดการ" ว่า เอกสินมีปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ในวงเงินเดือนละกว่า 1,000 ล้านบาท ครึ่งหนึ่งของวงเงินจำนวนนี้มาจากลูกค้าต่างชาติผ่านทางหาญและธนาคารเชสฯ โดยธนาคารเชสฯ จะแนะนำลูกค้าที่สนใจตลาดหุ้นไทยให้ใช้เอกสินเป็นโบรกเกอร์ ขณะเดียวกัน กองทุนต่าง ๆ ที่ธนาคารเชสฯ ดูและเป็นคัสโตเดียนและผู้จัดการฯ ก็อาจจะผ่านมาทางเอกสินได้ และในทางกลับกันลูกค้าต่างประเทศของเอกสินก็อาจจะใช้บริการเรื่องคัสโตเดียนและสินเชื่อต่าง ๆ จากธนาคารเชสฯ

ประเด็นนี้เพียงอย่างเดียวก็นับว่าคุ้มพอแล้วกับการลงุทนกว่าล้านเหรียญสหรัฐฯ แม้จะถูกจำกัดบทบาทการบริหารไว้เพียงที่ปรึกษาคณะกรรมการโดยให้ผู้ที่ดำรงตำแหน่งผู้จัดการธนาคารเชสฯ ประเทศไทย นั่งในตำแหน่งนี้ควบไปด้วยก็ตาม

ประกิตต์ กล่าวกับ "ผู้จัดการ" อีกว่า เอกสินมีนโยบายมุ่งธุรกิจด้านวาณิชธนกิจเป็นหลัก และคาดว่าจะทำค่าธรรมเนียมจากธุรกิจนี้เป็นรายได้หลัก โดยปัจจุบันเอกสินให้บริการคำปรึกษาทางด้านการเงินการปรับโครงสร้างทางการเงินให้บริษัทต่าง ๆ การจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น การจัดเงินกู้แบบ SYNDICATED LOAN และแม้เอกสินเพิ่งจะเป็น LEAD UNDERWRITE บริษัทสับปะรดไทยเพียงแห่งเดียวในปีนี้ แต่ยังมีอีก 4 บริษัทที่กำลังติดต่อดูแล โดยคาดว่า 4 รายนี้จะยื่นเข้าตลาดฯ ในปี 2533

ในส่วนของเอกสินเองนั้นก็มีโครงการจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วยเช่นกัน ประกิตต์กล่าวว่า "คงต้องให้เวลาหาญและทีมงานของเราอีกสัก 2 ปีเพื่อสร้างบริษัทให้มั่นคงมีอะไรต่าง ๆ ที่เป็นระบบและเป็นที่ยอมรับของตลาดฯ เราคงนำเข้าไปเหมือนกัน"

และเมื่อถึงวันนั้น หาญและทีมงานคงได้ทำการพิสูจน์ให้วงการได้เห็นทั่วกันว่า ความหมองมัวในอดีตฤาจะบดบังความชาญฉลาดและเครือข่ายเพื่อนฝูงในวงธุรกิจที่ยอมลงขันเพื่อให้เขาคืนกลับสู่สังเวียนอีกครั้งได้

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us