|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
รับเหมารายกลาง “ไทยโพลีคอนส์” ปรับแผนปีหน้าเทน้ำหนักมุ่งรับงานราชการ หลังลูกค้าภาคเอกชนชะลอลงทุน ชูจุดเด่นจับตลาด Niche รับงานก่อสร้างภาคใต้ คู่แข่งน้อย ได้สิทธิทางภาษี เดินหน้าเข้าตลาด MAI ตั้งเป้าระยะยาวขึ้นชั้นรับเหมารายใหญ่
ชื่อของ “ไทยโพลีคอนส์” แม้จะไม่โดดเด่นเป็นที่รู้จัก เพราะเป็นผู้รับเหมาที่เน้นการทำธุรกิจแบบโลว์โพร์ไฟล์ตลอด 20 ปีตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท แต่กลับเป็นบริษัทที่เลือกจะสวนกระแสในช่วงที่ภาพรวมตลาดรับเหมาก่อสร้างยังนิ่ง โดยมีแผนจะเข้าไประดมทุนอีก 100 ล้านบาทในตลาดหลักทรัพย์ MAI ภายในสิ้นปีนี้ เพื่อนำเงินไปขยายธุรกิจ ท่ามกลางกระแสการทยอยปิดกิจการของผู้รับเหมา เพราะไม่สามารถประคับประคองตัวเองจากวิกฤตเศรษฐกิจได้
การใช้กลยุทธ์รับงานก่อสร้างแบบ “ปิดความเสี่ยง” เลือกรับเฉพาะงานที่เชื่อถือได้ เป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงดี มีลูกค้าประจำ เช่น คอนโดมิเนียมของแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์, เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ และอาคารของอินเด็กซ์ ลิฟวิ่ง มอลล์ รวมไปถึงการรับงานแบบ “เสี่ยงมาก กำไรมาก” ด้วยการโดดเข้าไปรับงานรับเหมาก่อสร้างใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงภัย แลกกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเหลือ 3% เป็นระยะเวลา 3 ปี ซึ่งตลาดงานก่อสร้างในภาคใต้ถือเป็น Niche Market ที่มีการแข่งขันต่ำ ทั้งหมดกลายเป็นสิ่งที่หนุนให้ไทยโพลีคอนส์เป็นธุรกิจรับเหมาที่สามารถรักษาอัตราการเติบโตของบริษัทได้อย่างน่าสนใจ
สำหรับงานก่อสร้างในปีหน้าที่จะหดตัวตามภาวะเศรษฐกิจอย่างแน่นอน แต่ไทยโพลีคอนส์ยังคงตั้งเป้าการเติบโตของธุรกิจแบบสวนกระแส ส่วนหนึ่งเพราะมั่นใจว่าจะรับรู้รายได้จากแบ็คล็อกงานในมือที่มีอยู่แล้ว ซึ่งจะผลักรายได้ในปีหน้าให้เติบโตขึ้น เจริญ จันทร์พลังศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด (มหาชน) (TPOLY) กล่าวว่า นโยบายการรับงานในปีหน้าจะเน้นงานราชการมากขึ้น ซึ่งยังมีงานประมูลออกมาอย่างต่อเนื่อง คาดว่าสัดส่วนงานราชการจะเพิ่มขึ้นจาก 30% เป็น 40% รวมไปถึงงานโรงไฟฟ้า ปิโตรเคมี ซึ่งยังเป็นธุรกิจที่มีการลงทุนระยะยาว ในขณะที่งานภาคเอกชนจะหดหายไปตามการลงทุนใหม่ที่ลดลงในปีหน้า
คีย์สำคัญของงานราชการที่ไทยโพลีคอนส์เลือกเข้าไปประมูลจะต้องเป็นหน่วยงานที่ให้ความสำคัญกับราคากลาง มีหน่วยงานที่ดูแลการออกแบบของตนเองโดยเฉพาะ ไม่ต้องพึ่งกรมโยธาธิการ ซึ่งเป็นหน่วยงานกลางที่มีงานเต็มมือ เช่น กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข เป็นต้น โดยขนาดงานที่ไทยโพลีคอนส์สนใจจะเป็นงานมูลค่า 100-200 ล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปี
งานก่อสร้างภาคเอกชนที่น้อยลงในปีหน้า ใครๆ ก็คงจะคาดการณ์ได้ และคงจะเลือกปรับตัวหันไปรับงานราชการไม่ต่างไปจากที่ไทยโพลีคอนส์คิด แต่ความพร้อมของผู้รับเหมาที่จะเข้าไปแย่งเค้กงานราชการ ทำให้การแข่งขันสูงขึ้น เจริญไม่รู้สึกเป็นห่วงมากนัก เพราะใครที่คิดจะเข้าไปรับงานราชการ โดยไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้า ไม่มีผลงานก่อสร้างของราชการในอดีตเป็นแบ็คกราวด์ ถือว่าหมดสิทธิตั้งแต่ยกแรก
ส่วนงานก่อสร้างในภาคใต้บริษัทก็ยังเดินหน้าจะเข้าไปประมูลอย่างต่อเนื่อง โดยอาศัยความได้เปรียบผู้รับเหมาท้องถิ่นที่ไม่สามารถรับงานขนาดใหญ่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาตลาดก่อสร้างในภาคใต้ก็ยังมีการเติบโต แม้จะมีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้น แต่ก็ทำให้มีคู่แข่งเข้ามารับงานก่อสร้างน้อยมาก ทำให้ชื่อเสียงของไทยโพลีคอนส์ค่อนข้างโดดเด่น เป็นที่รู้จักในภาคใต้มากกว่าในกรุงเทพฯ ทั้งนี้ที่นราธิวาสจะมีโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่เกิดขึ้น คือ โครงการก่อสร้างมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ มูลค่า 5,000 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 5 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างรอประมูลงานก่อสร้างสนามบินนราธิวาส โดยจับมือกับผู้รับเหมาท้องถิ่น คือ บริษัท หาดใหญ่พีเอสเอ็ม
นอกจากนี้ยังจะขยายไปรับงานตามลูกค้าที่เข้าไปลงทุนที่กัมพูชา คือ โรงพยาบาลกรุงเทพ ส่วนประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ ที่กำลังศึกษาอยู่ คือ ลาว แต่ขณะนี้ยังไม่ใช่จังหวะที่เหมาะสม ต้องรออีก 4-5 ปีข้างหน้า
เจริญคาดว่า ตลาดก่อสร้างในปีหน้ายังมีเรื่องต้นทุนก่อสร้างที่ลดลงเป็นปัจจัยบวกต่อผู้รับเหมา ในขณะที่ปัจจัยลบ คือ การลงทุนภาคเอกชนหดตัวลง แต่อย่างไรก็ตามธุรกิจที่อิงกับการศึกษา คือ โรงเรียน มหาวิทยาลัย ยังเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจมากนัก มีการซื้อที่ดินแปลงใหญ่ และมีแผนลงทุนในปีหน้า เพื่อพัฒนาวิทยาเขตแห่งใหม่ ถือเป็นโอกาสที่บริษัทสนใจจะเข้าไปเจาะตลาด เช่น โครงการก่อสร้างโรงเรียนอัสสัมชัญ บน ถ.พระราม 2 ข้างนิคมอุตสาหกรรมสินสาคร โครงการวิทยาเขตแห่งใหม่ของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย บนที่ดิน 400 ไร่ ถ.ชัยพฤกษ์
เจริญกล่าวว่า สิ้นปีนี้คาดว่าจะมีแบ็คล็อกประมาณ 3,000-3,500 ล้านบาท และในระยะยาวหากยังเดินตามกลยุทธ์เดิม มีการเติบโตและขยายงานไปต่างประเทศมากขึ้น เจริญตั้งเป้าว่า หากสถานการณ์ของตลาดต่อจากนี้ไม่เลวร้ายนัก อีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะมีโอกาสเห็นไทยโพลีคอนส์ขึ้นชั้นเป็นรับเหมารายใหญ่ตามรอยรับเหมารุ่นใหญ่ที่ปัจจุบันมีรายได้ต่อปีเหยียบหมื่นล้านบาท
|
|
|
|
|