ยิ้ม ฮุนตระกูล ประธานบริหารโรงแรมอิมพีเรียล และประมุขของตระกูล "ฮุนตระกูล"
เสียชีวิตลง ก่อนหน้าวันฉลองครบรอบ 16 ปีของโรงแรมอิมพีเรียลเพียงหนึ่งสัปดาห์
แต่ถึงกระนั้นรายการจัดฉลองต่างๆ ก็มิได้เลื่อนออกไป และคงไว้ตามปกติ เพียงแต่ในห้วงเวลาเดียวกันเหล่าพี่น้อง
"ฮุนตระกูล" ก็ต้องเทียวไปเทียวมาระหว่างงานแลองและงานศพของบิดา
ยิ้ม ฮุนตระกูลเติบโตมาจากธุรกิจร้านถ่ายภาพ "ฉายาจิตรกร" บริเวณวังบูรพาและโรงภาพยนต์เฉลิมกรุง
ซึ่งจัดได้ว่าเป็นร้านถ่ายภาพเก่าแก่มีอายุเกือบ 50 ปี
ต่อมายิ้มลงขันกับเพื่อนฝูงลงทุนทำธุรกิจโรงแรมขนาด 170 ห้องและนั่นเป็นตำนานการเริ่มต้นของ
"อิมพีเรียล"
ปี 2514 เกิดโศกนาฎกรรมครั้งใหญ่สำหรับอิมพีเรียลและธุรกิจโรงแรมทั่วไปเมื่อเกิดไฟไหม้ที่อิมพีเรียล
แขกที่มาพักซึ่งเป็นชาวต่างประเทศตายไปหลายศพ ตัวโรงแรมแทบจะเหลือแต่เถ้าถ่าน
แต่เหตุการณ์ครั้งนั้นจัดได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของ "อิมพีเรียล"
และ "ฮุนตระกูล" ก็ว่าได้เพราะว่ายิ้มตัดสินใจซื้อหุ้นของเพื่อนๆ
เดินหน้าทำธุรกิจโรงแรมต่อไป และอากร ฮุนตระกูลลูกชายคนโตลาออกเชสแมนฮัตตันแบงก์มาบริหารโรงแรมช่วยพ่อเต็มตัว
อากรในช่วงนั้น เขาอายุไม่ถึงสามสิบดี เขาใช้ชีวิตการศึกษาที่อังกฤษเป็นเวลาถึง
8 ปี ตั้งแต่ระดับไฮสกูลจนจบปริญญาตรีด้านเศรษฐศาสตร์ในปี 2512 ต่อจากนั้นเขามาทำงานที่สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดแบงก์ประจำกรุงลอนดอนและฮัมบูร์ก
แต่เป็นช่วงสั้นๆ เขากลับมาเมืองไทย ทำงานที่ธนาคารเชสแมนฮัตตันเป็นผู้ช่วยผุ้จัดการฝ่ายเงินกู้
และช่วงนี้เองที่ไฟไหม้อิมพีเรียล
อากรช่วยพ่อเขียนโครงสร้างการขออนุมัติเงินกู้เพื่อฟื้นฟูโรงแรมขึ้นมาใหม่จากธนาคารหลายแห่ง
ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้เองที่พ่อและน้องๆขอให้อากรมาช่วยดูแลกิจการซึ่งอากรก็ตัดสินใจลาออกจากอาชีพนายธนาคารมาเป็นผู้บริหารโรงแรม
ซึ่งขณะนั้นเป็นโรงแรมเล็กๆ และยังมีประวัติที่คนหวั่นใจไม่น้อยติดมาอีกด้วย
อากรซื้อที่ดินเดิมและขยายต่อออกมาจนถึงถนนวิทยุสร้างโรงแรมอิมพีเรียลขึ้นมาใหม่ในปี
2516 จากประสบการณ์ของยิ้ม ฮุนตระกูลและความเฉลียวฉลาด ลองผิดลองถูกของอากร
ทำให้โรงแรมอิมพีเรียลเติบโตจนกลายเป็นโรงแรมขนาดใหญ่มีห้องพัก 400 ห้อง
และมีโรงแรมในเคลือรวมทั้งสิ้น 7 แห่ง คือ อิมพีเรียล, อิมพาล่า, อิมพีเรียลสมุย,
อิมพีเรียลท้องทรายธารา, ซิตี้อินน์เกสต์เฮาส์, จิมส์ ลอร์ดและห้องอาหาร
'คุณอากร' ในอังกฤษและฝรั่งเศส
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้โรงแรมอิมพีเรียลเติบโตมาได้ทุกวันนี้ นอกเหนือจากการบริการความสะดวกสบาย
และธุรกิจท่องเที่ยวที่เจริญขึ้นมาตามลำดับแล้ว อิมพีเรียลยังมีจุดเด่นที่แตกต่างจากโรงแรมที่บริหารโดยชาวต่างชาติในยุคนั้นก็คือเรื่อง
การบริการด้านอาหาร
อากรกล่าวว่า โรงแรมในไทยโดยทั่วไปมักเน้นอาหารฝรั่งซึ่งคุ้นลิ้นนักท่องเที่ยวหรือคนไทยในระดับไฮคลาสมากๆขณะที่อากรใช้ความคิดที่ว่า
นักท่องเที่ยวต่างชาติย่อมอยากจะลิ้มลองรสชาติใหม่ๆ กับกลุ่มคนไทยโดยทั่วไปก็น่าจะเป็นอีกกลุ่มเป้าหมายหนึ่งที่ควรจะดึงเข้ามาใช้บริการด้านอาหารในโรงแรม
ซึ่งอาจแพงกว่านิดหน่อย แต่ความสะดวกสบายและการบริการดีเยี่ยมกว่าหลายเท่า
ตั้งแต่นั้นมาอากรก็เริ่มเน้นเรื่องการบริการด้านนี้ นอกเหนือจากให้บริการแค่เรื่องห้องพัก
โรงแรมอิมพีเรียลจึงขวักไขว่ไปด้วยคนไทยเต็มไปหมดในช่วงเที่ยงและกลางคืน
ตามสโลแกน "เรารับใช้คนไทย"
"เราขายอาหารเครื่องดื่มได้มากกว่าห้อง เพราะห้องพักมันสี่ร้อยห้อง
พอมันเต็มก็เต็มทำอะไรไม่ได้อีก แต่ถ้าห้องอาหารมันขายได้เป็นรอบ มันขายได้ทั้งวัน"
อากรเคยกล่าว
อิมพีเรียลจึงเป็นหัวหอกเรื่องบริการด้านอาหารและจัดเลี้ยงมาตั้งแต่บัดนั้น
จนโรงแรมต่างๆเริ่มปรับตัวเป็นทิวแถว
อากรมีน้องอีก 6 คนคือเอนก, อดุลย์, สมศักดิ์, อนันต์, อนงค์, และอาทร ซึ่งส่วนใหญ่ยังช่วยเหลือดูแลกิจการในเครือเช่น
อดุลย์ เป็นผู้จัดการที่อิมพาล่า สมศักดิ์ช่วยดูแลอิมพีเรียล เป็นต้น
ในวันฉลองครบรอบ 16 ปีอิมพีเรียลเมื่อวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา จึงเป็นเหมือนวันประกาศความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง
เพราะจากความสำเร็จที่ผ่านมา อิมพีเรียลกำลังขยายตัวครั้งสำคัญด้วยการสร้าง
"อิมพีเรียลคอมเพล็กซ์" ซึ่งประกอบด้วยโรงแรมขนาดยักษ์ 2 แห่งที่ซอยสุขุมวิท
20 ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้างให้เสร็จทันในปี 2534
ในงานฉลอง 16 ปีดังกล่าวนับเป็นงานแห่งความรื่นเริงโดยแท้ มีพิธี "ฮ้องขวัญ"
วัฒนธรรมชาวภาคเหนือแห่มาเป็นขบวนใหญ่ด้วยความวิจิตรสวยงาม สไลด์มัลติวิชั่นแสดงถึงความสำเร็จของอิมพีเรียล
นักร้อง-นักแสดงผลัดเปลี่ยนกันมาให้ความบันเทิงไม่ซ้ำหน้าและแขกเหรื่อมากมายซึ่งล้วนกลับไปด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสท่ามกลางความอิ่มเอมสุขใจของพี่น้อง
"ฮุนตระกูล" และพนักงานของอิมพีเรียล
แต่ในวันรุ่งขึ้นพี่น้อง "ฮุนตระกูล" ทั้งหกและพนักงานอิมพีเรียลก็ต้องไปพร้อมกันที่เมรุใหญ่
วัดสระเกศ เพื่อร่วมกันทำพิธีศพ ส่วนใหญ่เป็นญาติผู้ใหญ่และมีอายุแล้วเกือบทั้งสิ้น
ทุกคนมาในชุดขาวและดำในอาการนิ่งสงบ รวมทั้งพี่น้อง "ฮุนตระกูล"
ทั้งหมดที่ดำเนินทุกอย่างไปตามพิธีอันเคร่งครัดตามประเพณีจีน
"ท่านบอกว่า หากเกิดอะไรขึ้นก็ขอให้จัดงานฉลองครบรอบ 16 ปีตามที่วางไว้โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลง"
ชมพูนุทภรรยาของอากรกล่าวกับ "ผู้จัดการ"
อาจจะน่าเสียดายสำหรับ ยิ้ม ฮุนตระกูล ที่ไม่มีโอกาสได้ร่วมในงานฉลองที่พิเศษยิ่งแต่หากถ้ามองในวันนี้และอนาคตของโรงแรมอิมพีเรียลเขาคงภาคภูมิใจและอยู่อย่างสงบไปชั่วนิรันดร์