Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน15 ธันวาคม 2551
ตลาดอาหารปีหน้ามีปัจจัยลบ-บวก ไฮคิวเท50ล.ลุยปั้นธุรกิจ3ขาเต็มสูบ             
 


   
search resources

ไฮคิวผลิตภัณฑ์อาหาร, บจก.
Canned




ไฮคิว ทุ่ม 50 ล้านบาท ลุยปลากระป๋อง ซอสปรุงรส อาหารพร้อมทาน ระบุภาวะเศรษฐกิจถดถอยปีหน้า มีทั้งปัจจัยบวกและลบหนุน หวั่นปลาขาดแคลนกระทบตลาดไม่โต ด้านการส่งออกชี้กระทบแค่ไตรมาสแรก ซัปพลายเออร์รอดูสถานการณ์ สิ้นปีนี้โตเกือบ 20% กวาด 2,000 ล้านบาท

นายสุวิทย์ วังพัฒนมงคล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไฮคิวผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายปลากระป๋องและซอสปรุงรสโรซ่า เปิดเผยว่า ท่ามกลางภาวะวิกฤตเศรษฐกิจที่ถดถอย แต่ปลากระป๋องเป็นอาหารสำเเร็จรูปจึงได้รับผลกระทบไม่มากนักเมื่อเทียบกับสินค้ากลุ่มอื่นๆ ดังนั้นแนวโน้มตลาดปลากระป๋องในปีหน้าคาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 7-10% แต่ต้องขึ้นอยู่กับวัตถุดิบด้วย ซึ่งเมื่อเทียบกับปีนี้วัตถุดิบขาดแคลนทำให้ตลาดไม่มีอัตราการเติบโต

นโยบายการตลาดปีหน้าบริษัทเน้นกลุ่มสินค้าซอสปรุงรส โรซ่า เชฟ แอท โฮม มุ่งชูกลยุทธ์การตลาดครีเอทนิชมาร์เก็ตเป็นหลัก เพื่อเลี่ยงการแข่งขันตลาดซอสปรุงรสมูลค่า 4,000 ล้านบาท ที่ใช้กลยุทธ์ราคากันอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตามในปีหน้านี้คาดว่าซอสปรุงรสในส่วนของคอนซูเมอร์จะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น เพราะผู้บริโภคหันมาปรุงอาหารกินที่บ้านแทนการกินอาหารนอกบ้านมากขึ้น เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น ร้านอาหาร โรงแรม คาดว่าในกลุ่มนี้หดตัวลง

ส่วนกลุ่มโรซ่า พร้อมท์ อิน วัน อาหารพร้อมทานรูปแบบใหม่ (RTE-Ready to eat) เน้นการสื่อสารถึงความแตกต่างจากอาหารแช่แข็ง โดยไม่จำเป็นต้องแช่เย็น เพราะผ่านกระบวนการสเตอริไรซ์ มีอายุ 1 ปี เนื่องจากผู้บริโภคยังไม่เข้าใจ ส่วนตลาดอาหารพร้อมทานมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท แนวโน้มตลาดมีอัตราการเติบโตจากปัจจัยบวกด้านความสะดวกสบายของผู้บริโภค แต่ขณะเดียวกันก็มีปัจจัยลบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคเลือกทำอาหารกินเองแทน

"การส่งออกในปีหน้านี้ คาดว่าในช่วงไตรมาสแรกยังไม่ดีมากนัก โดยซัปพลายเออร์ชะลอการสั่งสินค้า เพื่อรอดูสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ อีกทั้งยังต้องการโละของที่ค้างสต็อกออกมาจำหน่ายให้หมดเป็นหลัก จากนั้นจึงค่อยมีการสั่งสินค้า ซึ่งคาดว่าการส่งออกจะทยอยฟื้นดีขึ้น ดังนั้นบริษัทจึงไม่มีความกังวลมากนัก"

สำหรับในปีหน้านี้บริษัทฯวางบการตลาด 50 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีนี้ ผ่านการจัดกิจกรรมและการโฆษณาประชาสัมพันธ์อย่างครบวงจร สำหรับผลประกอบการปีนี้คาดว่ามีอัตราการเติบโตเกือบ 20% หรือมีรายได้ 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ส่งออก 30% และภายในประเทศ 70% ทั้งนี้รายได้หลักมาจากปลากระป๋อง 60% ที่เหลืออีก 40% เป็นซอสปรุงรสและอาหารพร้อมทาน ซึ่งปีหน้าคาดว่าสัดส่วนรายได้ทั้ง 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ยังคงสัดส่วนนี้อยู่   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us