|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ไฮคิว ทุ่ม 50 ล้านบาท ลุยปลากระป๋อง ซอสปรุงรส อาหารพร้อมทาน ระบุภาวะเศรษฐกิจถดถอยปีหน้า มีทั้งปัจจัยบวกและลบหนุน หวั่นปลาขาดแคลนกระทบตลาดไม่โต ด้านการส่งออกชี้กระทบแค่ไตรมาสแรก ซัปพลายเออร์รอดูสถานการณ์ สิ้นปีนี้โตเกือบ 20% กวาด 2,000 ล้านบาท
นายสุวิทย์ วังพัฒนมงคล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไฮคิวผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายปลากระป๋องและซอสปรุงรสโรซ่า เปิดเผยว่า ท่ามกลางภาวะวิกฤตเศรษฐกิจที่ถดถอย แต่ปลากระป๋องเป็นอาหารสำเเร็จรูปจึงได้รับผลกระทบไม่มากนักเมื่อเทียบกับสินค้ากลุ่มอื่นๆ ดังนั้นแนวโน้มตลาดปลากระป๋องในปีหน้าคาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 7-10% แต่ต้องขึ้นอยู่กับวัตถุดิบด้วย ซึ่งเมื่อเทียบกับปีนี้วัตถุดิบขาดแคลนทำให้ตลาดไม่มีอัตราการเติบโต
นโยบายการตลาดปีหน้าบริษัทเน้นกลุ่มสินค้าซอสปรุงรส โรซ่า เชฟ แอท โฮม มุ่งชูกลยุทธ์การตลาดครีเอทนิชมาร์เก็ตเป็นหลัก เพื่อเลี่ยงการแข่งขันตลาดซอสปรุงรสมูลค่า 4,000 ล้านบาท ที่ใช้กลยุทธ์ราคากันอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตามในปีหน้านี้คาดว่าซอสปรุงรสในส่วนของคอนซูเมอร์จะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น เพราะผู้บริโภคหันมาปรุงอาหารกินที่บ้านแทนการกินอาหารนอกบ้านมากขึ้น เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น ร้านอาหาร โรงแรม คาดว่าในกลุ่มนี้หดตัวลง
ส่วนกลุ่มโรซ่า พร้อมท์ อิน วัน อาหารพร้อมทานรูปแบบใหม่ (RTE-Ready to eat) เน้นการสื่อสารถึงความแตกต่างจากอาหารแช่แข็ง โดยไม่จำเป็นต้องแช่เย็น เพราะผ่านกระบวนการสเตอริไรซ์ มีอายุ 1 ปี เนื่องจากผู้บริโภคยังไม่เข้าใจ ส่วนตลาดอาหารพร้อมทานมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท แนวโน้มตลาดมีอัตราการเติบโตจากปัจจัยบวกด้านความสะดวกสบายของผู้บริโภค แต่ขณะเดียวกันก็มีปัจจัยลบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคเลือกทำอาหารกินเองแทน
"การส่งออกในปีหน้านี้ คาดว่าในช่วงไตรมาสแรกยังไม่ดีมากนัก โดยซัปพลายเออร์ชะลอการสั่งสินค้า เพื่อรอดูสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ อีกทั้งยังต้องการโละของที่ค้างสต็อกออกมาจำหน่ายให้หมดเป็นหลัก จากนั้นจึงค่อยมีการสั่งสินค้า ซึ่งคาดว่าการส่งออกจะทยอยฟื้นดีขึ้น ดังนั้นบริษัทจึงไม่มีความกังวลมากนัก"
สำหรับในปีหน้านี้บริษัทฯวางบการตลาด 50 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีนี้ ผ่านการจัดกิจกรรมและการโฆษณาประชาสัมพันธ์อย่างครบวงจร สำหรับผลประกอบการปีนี้คาดว่ามีอัตราการเติบโตเกือบ 20% หรือมีรายได้ 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ส่งออก 30% และภายในประเทศ 70% ทั้งนี้รายได้หลักมาจากปลากระป๋อง 60% ที่เหลืออีก 40% เป็นซอสปรุงรสและอาหารพร้อมทาน ซึ่งปีหน้าคาดว่าสัดส่วนรายได้ทั้ง 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ยังคงสัดส่วนนี้อยู่
|
|
|
|
|