กรุงไทยธนกิจ (KTC) เตรียมรุกสินเชื่อบุคคลกันยายนนี้ หลังทดสอบระบบไอที ด้านอิออน (AEON) จากเมืองปลาดิบ คาดครึ่งปีหลังนี้ สินเชื่อบุคคลในไทยระอุ แต่คุยบริษัทกระทบน้อย เพราะลูกค้าคนละกลุ่มกับคู่แข่ง ย้ำลูกค้าต่างจังหวัดในไทยยังมีอีกมาก เน้นร้านค้าชุมชน หวังกวาดยอดลูกค้าง่ายขึ้น เซท-เทเลม จากเมืองน้ำหอม ผนึกแบงก์ กสิกรไทย ปล่อยสินเชื่อผ่านสาขา แบงก์ใหญ่อันดับ 3 ของไทย ตั้งเป้าปีหน้า 1.2 หมื่นล้านบาท ติงผู้ประกอบการอย่าหวังสร้างยอดปล่อยกู้อย่างเดียว ควรแนะนำผู้กู้กำลังผ่อนที่เหมาะสม เพื่อกันปัญหาหนี้เน่า

ภาวะแข่งขันตลาดสินเชื่อบุคคลธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ (นอนแบงก์) แข่งขันรุนแรงมาตลอด เหตุผลจากมูลค่าตลาดมหาศาลถึง 1 ล้านล้านบาท ยังมีช่องว่าง จะแทรกได้อีกมาก โดยเฉพาะต่างจังหวัด ช่วงแรกกลุ่มแบงก์ต่างชาติและแบงก์ลูกครึ่งเข้าสู่ตลาดก่อน จับกลุ่มลูกค้ารายได้ประมาณ 10,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป หลังจากนั้นไม่นาน กลุ่มนอนแบงก์ก็ได้เข้ามา แต่จับกลุ่มลูกค้ารายได้ต่ำกว่าเดือนละ 10,000 บาท

KTC กระโจนเข้าสนาม ก.ย.

บริษัท บัตรกรุงไทย (KTC) บริษัทลูกธนาคารกรุงไทย จะเข้าสู่ตลาดสินเชื่อบุคคลกันยายนนี้ หลังจากเจรจาด้านราคา และแก้ไขปัญหาเทคนิคเสร็จเรียบร้อย นายนิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย กล่าวว่าสินเชื่อบุคคล เดิมคาดว่าบริษัทจะสามารถเปิดให้บริการได้กลางปีนี้ แต่ต้องเลื่อน เนื่องจากความพร้อมด้านระบบยังไม่พอ ขณะนี้บริษัททดสอบระบบอยู่ เชื่อว่าภายในต้นกันยายนจะสามารถเปิดให้บริการสินเชื่อบุคคล

สินเชื่อบุคคลที่ KTCจะเริ่มเปิดบริการกันยายน กรณีสถาบันการเงินนอนแบงก์เองยอมรับว่าต้องแข่งขันรุนแรงขึ้นอีก เขาคาดว่าคงกระทบบริษัทบ้าง แต่คงไม่มากนัก เพราะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นคนละกลุ่มที่จะกระทบคงเป็นส่วนต่างจังหวัด เนื่องจากเครือข่ายธนาคารกรุงไทยต่างจังหวัดมาก คาดว่าคงอาศัยช่องทางนั้นรุกตลาด และเงื่อนไขปล่อยสินเชื่อ คงไม่เข้มงวดเท่ากรุงเทพฯมากนัก

ด้านแหล่งข่าวบริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ ในเครือกลุ่มอิออนจากเมืองปลาดิบ กล่าวว่า ปัจจุบัน การแข่งขันสินเชื่อบุคคลสูงมาก ช่วงครึ่งปีหลังคาดคงจะดุเดือดมากกว่าครึ่งปีแรก ทั้งคู่แข่งนอนแบงก์ และแบงก์ โดยเฉพาะบริษัทบัตรกรุงไทยที่จะเริ่มปล่อยสินเชื่อบุคคลช่วงครึ่งปีหลัง อาจกระทบฐานลูกค้าบริษัทบ้างเล็กน้อย เนื่องจาก KTC มีช่องทางปล่อยสินเชื่อผ่านธนาคารกรุงไทยที่มีเครือข่ายทั่วประเทศ

การปล่อยสินเชื่อกลุ่มธนาคารจะต่างจากอิออน คือจะไม่ปล่อยสินเชื่อให้ลูกค้าเงินเดือนต่ำตลาดตรงนี้ ยังคงเป็นของนอนแบงก์ คนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ ต่างจังหวัดมาก "เราจึงมีโอกาสที่จะจับลูกค้าในกลุ่มนี้ได้อีกเยอะ อีกทั้งสินเชื่อของเรา จะเน้นเป็นการผ่อนชำระโดยร่วมมือกับพันธมิตรที่เป็นร้านค้าปลีกรายย่อย อาทิ ร้านขายเฟอร์นิเจอร์ ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่อยู่ตามชุมชน ทำให้เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้น" เขากล่าว

บริษัท อิออนเตรียมแผนขยายฐานลูกค้าสู่ต่างจังหวัดไทยมากขึ้น "เพราะเรามองว่าในกรุงเทพฯ ตลาดเริ่มอิ่มตัวแล้ว แต่ในต่างจังหวัดยังมีช่องว่างอีกมาก ทางเราเองก็ได้วางเครือข่ายของสาขาไว้เยอะ แล้ว ส่วนใหญ่จะเน้นพันธมิตรหลัก คือเทสโก้โลตัสและบิ๊กซี ซึ่งเมื่อเปิดสาขาต่างจังหวัดแล้ว จะมีบูทของอิออนภายในห้างนั้นๆ ด้วย เพื่อที่จะอนุมัติสินเชื่อให้แก่ลูกค้า คู่แข่งของเราที่เป็นนอนแบงก์ด้วย กัน เช่น จีอี (ผู้ให้บริการ First Choice จากสหรัฐฯ เขาจะเน้น จับมือกับพันธมิตรเพื่อให้ First Choice ทำตลาด เพียงผู้เดียว เป็นคู่ค้าเฉพาะเจาะจง (exclusive) ซึ่งจีอี ทำสัญญาเป็นคู่ค้ากับพาวเวอร์บาย เพื่อไม่ให้รายอื่นเข้าไปปล่อยสินเชื่อในร้านพาวเวอร์ บาย"

แน่นอนว่า คงจ่ายส่วนแบ่งให้มากกว่าต่างจากอิออน ยอดสินเชื่อจากร้านค้าโมเดิร์นเทรด ยอดเพียง 30% ของยอดสินเชื่อรวมบริษัท ที่เหลืออีก 70% จากค้าปลีกรายย่อย "เราเน้นที่ส่วนนี้มากกว่า" ยอด สินเชื่อไตรมาส 1 ปีนี้ 6,000 ล้านบาท ยอดคงค้าง 12,000 ล้านบาท ส่วนหนี้เน่าไตรมาสเดียวกัน 2.6% หรือประมาณ 300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดิมเล็กน้อย

เซทเทเลมหวังเกาะสาขาแบงก์รวงข้าว

นายเปโดร โรดิเกส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซทเทเลม (ประเทศไทย) ในเครือกลุ่มเซทเทเลมจากฝรั่งเศส กล่าวว่าธุรกิจบริษัทปัจจุบัน เน้นบริการสินเชื่อผ่อนชำระ สำหรับผู้บริโภคที่ต้องการซื้อสินค้าแบบผ่อนชำระเป็นประจำวงเงินต่ำกับพันธมิตรค้าปลีก 600 รายทั่วไทย บริการบัตรเครดิต เป็นบัตรเฉพาะที่ออกร่วมกับบิ๊กซี บัตรที่ออกโดยเซทเทเลม ที่สามารถใช้ได้เฉพาะร้านค้าเครือข่ายเซทเทเลม คือบัตร Aura เป็นบัตรรูปแบบใหม่ที่จะ เปิดตัวไตรมาส 4

ส่วนสินเชื่อบุคคล เราจับมือกับพันธมิตร คือ ธนาคารกสิกรไทย เพื่อที่เราจะได้อาศัยช่องทางการ ปล่อยสินเชื่อโดยผ่านสาขาของธนาคารที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก น่าจะเป็นช่องทางในการปล่อยสินเชื่อของเราได้มากพอสมควร โดยยอดปล่อยสินเชื่อสิ้นปีนี้ เราคาดว่าจะอยู่ที่ 8,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอด ที่เราปรับเป้าลงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่โตขึ้น และ Credit Beauro หยุดดำเนินการทำให้เราต้องระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อด้วย

ปี 2547 เราตั้งเป้าสินเชื่อทั้งหมดไว้ที่ 12,000 ล้านบาท โดยครึ่งหนึ่งนั้น จะมาจากยอดสินเชื่อบุคคล ที่ปล่อยผ่านธนาคารกสิกรไทย สินเชื่อผ่อนชำระ 4,000 ล้านบาท ที่เหลือ 2,000 ล้านบาทน่าจะเป็นบัตรเครดิต

"การปล่อยสินเชื่อนั้น เราไม่ได้ทำเพื่อที่จะเร่งเพิ่มยอดสินเชื่อเพียงอย่างเดียว แต่เราคำนึงถึงความสามารถที่จะชำระเงินได้ ไม่ได้ดูแค่ว่าเงินเดือนถึงเกณฑ์เพียงอย่างเดียว อยากให้สถาบันการเงินทุกแห่ง ให้ข้อมูลกับบริษัทข้อมูลเครดิต เพื่อป้องกันการเกิด หนี้สินท่วมครัวเรือน และควรให้คำแนะนำกับประชาชนในการกู้ว่า เขามีกำลังผ่อนแค่ไหน ไม่ใช่ตั้ง หน้าตั้งตาปล่อยกู้อย่างเดียว โดยไม่ยอมตระหนักว่าในอนาคตอาจมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นก็ได้" นายโรดิเกสกล่าว