Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน9 ธันวาคม 2551
สภาพัฒน์จี้รัฐฟื้นท่องเที่ยว             
 


   
www resources

โฮมเพจ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

   
search resources

สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)
Tourism




สภาพัฒน์เล็งเลื่อนแถลงจีดีพีไตรมาส 4 เร็วกกว่า 1 เดือน เพื่อให้ทันสถานการณ์เศรษฐกิจที่ไม่ปกติ จี้ภาครัฐเป็นตัวนำเศรษฐกิจทั้งการลงทุนเมกะโปรเจกต์และกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ แนะรัฐบาลใหม่เร่งนโยบายไทยเที่ยวไทย กระตุ้นตลาดในประเทศ ใช้โอกาสช่วงเทศกาลปีใหม่นำร่อง

นายปรเมธี วิมลศิริ ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า นาย อำพน กิตติอำพน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้สอบถามว่า สศช.สามารถที่จะเลื่อนการแถลงรายงานผลอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาส 4 (จีดีพี) (ต.ค.-ม.ค.) ปี 2551 ให้เร็วขึ้นมาเป็นเดือนมกราคม 2552ได้หรือไม่ เนื่องจากวาระเดิมที่จะแถลง คือเดือนกุมภาพันธ์ 2552 โดยเห็นว่า ปัจจัยหลักจากวิกฤติการเมืองที่มีการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้เกิดผลกระทบจากการท่องเที่ยว ดังนั้นจะรายงานตัวเลขจีดีพีของไตรมาส 4 และตัวเลขจีดีพีทั้งปี 2551 ได้หรือไม่

ด้านนางสุวรรณี คำมั่น รองเลขาธิการ สศช. กล่าวว่า แม้ปัญหาการเมือง จากการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ จะทำให้เกิดผลกระทบกับการท่องเที่ยว โดยเฉพาะจำนวนนักท่องเที่ยวภายนอกที่ลดลง และมิติการลดการจ้างงานบางส่วน แต่หากมีการทดแทนภาคการท่องเที่ยวในประเทศให้มากขึ้น เช่นกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวในประเทศ ในลักษณะไทยเที่ยวไทย อัตราความเจริญเติบโตด้านการท่องเที่ยวก็อาจจะกลับมา

“หยุดยาว 2-3 วันที่ผ่านมา จะสังเกตเห็นได้ว่า การท่องเที่ยวในประเทศมีนักท่องเที่ยวที่เป็นคนไทยเพิ่มจำนวนมากขึ้น โดยเฉพาะการท่องเที่ยวตามธรรมชาติ ทั้ง เขาใหญ่ หรือ อ.ปาย เป็นต้น”

ก่อนหน้านี้ สศช.คาดว่า จะปรับลดประมาณการเติบโตทั้งปีของปี 2551 จากร้อยละ 5.2-5.7 เหลือร้อยละ 4.5 การส่งออกปี 2552 จะชะลอตัว ส่งออกด้านปริมาณเติบโตลดจากปี 2551 จาก ร้อยละ 7.6 เหลือเพียง ร้อยละ 4.4 ดุลการค้าเพิ่มขึ้น จากขาดดุล 1,000 ล้านดอลลาร์เป็นขาดดุล 6,500 ล้านดอลลาร์ ดุลบัญชีเดินสะพัด ขาดดุลเพิ่มจากร้อยละ 0.4 เป็นร้อยละ 1.2 เงินเฟ้อ ลดจากร้อยละ 5.6 เหลือร้อยละ 2.5-3.5 แต่อัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นจากปีนี้ ที่ร้อยละ 1.4 เป็นร้อยละ1.5-2.5 ของจีดีพี โดยว่างงานประมาณ 1.2 ล้านคน

สศช.เห็นว่า รัฐบาลจะต้องหาทางรับมือเศรษฐกิจด้วย การเร่งรัดการลงทุนเมกะโปรเจกต์ต่างๆ มุ่งเน้นในการกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศโดย รวมถึงการกระจายงบด้านการดูแลสังคม สาธารณสุข การกระตุ้นการท่องเที่ยว การบริหารเศรษฐกิจปีหน้า ภาครัฐต้องเป็นตัวนำ เพื่อชดเชยผลกระทบที่เกิดจากการส่งออกชะลอตัวมาก รวมทั้งให้ลำดับความสำคัญกับการดำเนินมาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวต่อกลุ่มผู้มีรายได้น้อย กลุ่มด้อยโอกาส และกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมโดยเฉพาะการเพิ่มศักยภาพในการพึ่งพาตนเองในระยะยาวและการเพิ่มประสิทธิภาพควบคู่ไปด้วย นอกจากนี้การดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นและการกำหนดเป็นแผนปฏิบัติการที่ชัดเจนเพื่อเตรียมสภาพคล่องให้มีเพียงพอจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการใช้จ่ายและการลงทุนมากขึ้น

ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยปี 52 มีแนวโน้มชะลอลงจากปี 2551 การลงทุนภาคเอกชนจะยังชะลอตัวต่อเนื่องเนื่องจากความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจจะยังต่ำในภาวะที่เศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงต่ำสุด อย่างไรก็ตามคาดว่าในครึ่งหลังของปี ภาวะเศรษฐกิจและการเงินโลกจะผ่านพ้นช่วงต่ำสุดไปแล้วในครึ่งแรกของปีและเริ่มปรากฏผลของการดำเนินนโยบายการเงินและการคลังผ่อนคลายที่ได้ดำเนินมาในช่วงครึ่งหลังปี 2551 และต่อเนื่องในช่วงครึ่งแรกของปี 2552

ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในปี 2552 คาดว่าภาคเศรษฐกิจจริงของประเทศเศรษฐกิจสำคัญ ๆ จะยังคงอยู่ในช่วงของการแก้ปัญหาภาคการเงิน ซึ่งจะส่งผลให้สภาพคล่องทางการเงินตึงตัวมากขึ้นและส่งผลกระทบต่อเนื่องต่อภาคเศรษฐกิจจริงของประเทศต่าง ๆ มากขึ้นโดยเป็นผลกระทบที่จะต่อเนื่องเป็นวงกว้างมากขึ้นจากสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น และลุกลามไปยังประเทศในเอเชียและยุโรปตะวันออก รวมทั้งประเทศจีนและอินเดียที่จะต้องเผชิญกับการชะลอตัวของการส่งออกไปยังตลาดส่งออกสำคัญที่จะรุนแรง   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us