Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤศจิกายน 2532








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤศจิกายน 2532
SEC ของสหรัฐ:ต้นแบบสำหรับไทย             
โดย ภัชราพร ช้างแก้ว
 


   
search resources

คณะกรรมาธิการควบคุมการซื้อขายแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ - SEC
Stock Exchange




SEC หรือที่มีชื่อเรียกเต็ม ๆ ว่า THE SECURITIES AND EXCHANGE COMMISSION ซึ่งศาสตราจารย์ซิดนีย์เอ็ม รอบบินส์ เรียกเป็นภาษาไทยว่าคณะกรรมาธิการควบคุมการซื้อขายแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ กอตั้งในปีค.ศ. 1934 เป็นหน่วยงานอิสระที่ทำหน้าที่ด้านกฎหมาย มีบทบาทหน้าที่ควบคุม ให้การดำเนินนการในธุรกิจซื้อขายแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

คณะกรรมาธิการฯ SEC มีรวมทั้งหมด 5 คน ได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธิบดี โดยความเห็นชอบของ สภาสูงสหรัฐฯประธานาธิบดี จะเลือกกรรมาธิการคนหนึ่งขึ้นเป็นประธาน และกรรมาธิการจะมาจาก พรรคการเมืองเดียวกันได้ ไม่เกิน 3 คน กรรมาธิการเหล่านี้มีวาระการดำรงตำแหน่งครั้งละ 5 ปี

บทบาทของ SEC ระบุอยู่ในกฎหมายฉบับต่าง ๆ ซึ่ง SEC จะต้องดำเนินการควบคุมดูแลให้เป็นไปตามกฎหมายนั้น ๆ คือ พระราชบัญญัติหลักทรัพย์ปี 1933 และปี 1934 พระราชบัญญัติบริษัทมหาชนที่ดำเนินการเกี่ยวกับกิจการสาธารณูปโภค ปี 1935 พระราชบัญญัติพันธบัตร ปี 1939 พระราชบัญญัติที่ปรึกษาการลงทุนปี 1940 นอกจากนี้ยังมีบทบาทในการให้คำปรึกษาแก่ศาลตามพระราชบัญญัติล้มละลายรวมทั้งบทบาทหน้าที่ที่แน่นอนในกฎหมายตาง ๆ อีกเป็นจำนวนมาก

SEC มีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ ร่วมปฏิบัติงานด้วยเป็นจำนวนมาก เช่นนักกฎหมาย นักบัญชี วิศวกร ผู้วิเคราะห์หลักทรัพย์ และผู้ตรวจสอบ เป็นต้น โดยมีการแบ่งส่วนงานต่าง ๆ เป็น 9 ฝ่าย เช่นฝ่ายบริษัทจดทะเบียน มีหน้าที่กำหนดมาตรฐานการรับบริษัทต่าง ๆ เข้ามาจดทะเบียนออกหลักทรัพย์ซื้อขายในตลาดฯ กำหนดให้บริษัทเหล่านั้น มีการเปิดเผยข้อมูลทั้งที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องกับฐานะทางการเงิน และรับผิดชอบให้บริษัทเหล่านั้นดำเนินการตามมาตรการต่าง ๆ ที่ตั้งไว้ด้วย

นอกจากนี้ก็มีฝ่ายที่ดูแลทางด้านการซื้อขายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดยจับตามองกิจกรรมการซื้อขายหลักทรัพย์ทั้งในตลาดหลักทรัพย์และตลาดนอกตลาดหลักทรัพย์ (โอทีซี) ฝ่ายนี้มีหน้าที่ในการป้องกัและการฉ้อโกงการซื้อขาย การปั่นหุ้น และดำเนินการสอบสวนลักษณะการซื้อขายที่ผิดปกติ การซื้อขายอย่างผิดกฎหมาย เช่น WASH SALES, MATCHED ORDERS, POOL OPERATIONS เป็นต้น

ฝ่ายอื่น ๆ ได้แก่ สำนักงานสมุห์บัญชี สำนักงานภูมิภาคซึ่งคอยควบคุมดูแลสำนักงานประจำภาคและสาขาต่าง ๆ หลายสิบแห่งของ SEC เป็นต้น

อย่างไรก็ดี ในปี 1970 สภาที่ปรึกษาประธานาธิบดีซึ่งแต่งตั้งโดยประธานาธิบดีนิกสันได้ทำการศึกษาหน่วยงานอิสระต่าง ๆ ของรัฐบาลสหรัฐฯและเสนอรายงานชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับหน่วยงานอิสระที่ทำหน้าที่ทางด้านกฎหมายบางหน่วยงาน รายงานชิ้นนี้รู้จักกันดีในนามของ ASH REPORT อันเป็นชื่อที่เรียกตามชื่อของ ROY L. ASH ประธานสภาที่ปรึกษาฯชุดนี้

ใน ASH REPORT ได้มีการวิจารณ์รูปแบบการตั้งคณะกรรมาธิการอิสระชุดต่าง ๆ โดยกล่าวว่าหน่วยงานเหล่านี้มีกรรมาธิการมาจากหลายองค์กรร่วมกันปฏิบัติงานโดยแต่ละคนต่างมีอำนาจเท่าเทียมกัน โครงสร้างแบบนี้ก่อให้เกิดปัญหาอย่างหนึ่งคือเมื่อจำเป็นที่จะต้องออกมาตรการอันใดอันหนึ่งเพื่อจัดการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น กรรมาธิการเหล่านี้มักจะถกเถียงและมีความเห็นไม่ลงรอยกัน จนทำให้การตัดสินใจเลือกใช้มาตรการใดล่าช้าไม่ทันท่วงที

อย่างไรก็ตาม ในกรณีของ SEC นั้น รายงานกล่าวว่า SEC เป็นหน่วยงานที่ สามารถดำเนินการตามคำสั่งของรัฐสภาสหรัฐฯได้อย่างเรียบร้อย และสามารถใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นวางใจให้แก่นักลงทุน แต่ถึงกระนั้น SEC ก็ควรจะมีการปรับโครงสร้าง ไม่ใช่เพราะเหตุของความผิดพลาดในอดีตที่ผ่านมา แต่เพื่อที่จะให้เกิดความมั่นใจว่า หน่วยงานนี้จะมีศักยภาพพอที่จะรับมือกับการขยายตัวอย่างรวดเร็วและซับซ้อนของธุรกิจหลักทรัพย์

ความเปลี่ยนแปลงอย่างมโหฬารในธุรกิจค้าหลักทรัพย์ทำให้เกิดคำถามขึ้น ว่า SEC ซึ่งมีกรรมาธิการที่ทรงสิทธิ์และอำนาจเท่าเทียมกันถึง 5 คนนั้นจะสามารถปกปอ้งเหล่านักลงทุนได้อย่างทันท่วงทีหรือไม่ ในเดือนธันวาคมปี 1968 ขณะที่การซื้อขายหลักทรัพย์พุ่งถึงจุดสูงสุด การณ์กลับปรากฎว่าบริษัทโบรกเกอร์ทั้งหลายไม่สามารถส่งมอบหลักทรัพย์ได้ทันตามกำหนด คิดเป็นมูลค่าถึง 4,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

นอกจากนี้การคาดหมายเมื่อปี 1962 ว่าปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอกร์กจะเพิ่มเป็น 2 เท่าในปี 1975 แต่ปรากฎว่าเมื่อถึงปี 1968 ปริมาณการซื้อขายกลับเพิ่มขึ้น 4 เท่าตัวแล้ว

ปรากฎการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ทำให้เกิดข้อสรุปว่าตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กต้องลดทอนกระบวนการที่ยืดเยื้อกินเวลาลงเสียบ้าง เพื่อปรับตัวให้ทันกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นทุกขณะ

ASH REPORT มีข้อเสนอให้จัดตั้งหน่วยงานใหม่แทนที่ SEC ใช้ชื่อว่า SECURITIES AND EXCHANGE AGENCY เข้ายึดความรับผิดชอบงานทั้งหมดจาก SEC โดยมีผู้อำนวยการทำหน้าที่บริการสูงสุดเพียงคนเดียว ที่ได้รับการแต่งตั้งหรือถอดถอนจากประธานาธิบดีโดยผ่านความเห็นของของสภาสูงสหรัฐฯ

ผู้อำนวยการคนนี้จะดูแลฝ่ายงานต่าง ๆ ที่อยู่ใน SEA ทั้งหมด บริหารงานภายใน SEA จัดทำนโยบายตามคำสั่งของรัฐสภาและประธานาธิบดี

มีผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับ ASH REPORT เป็นจำนวนมาก แต่จนกระทั่งถึงปี1984 SEC ก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด คือยังคงไว้ซึ่งคณะกรรมาธิการรวม 5 คนเช่นเดิม

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us