SEC หรือที่มีชื่อเรียกเต็ม ๆ ว่า THE SECURITIES AND EXCHANGE COMMISSION
ซึ่งศาสตราจารย์ซิดนีย์เอ็ม รอบบินส์ เรียกเป็นภาษาไทยว่าคณะกรรมาธิการควบคุมการซื้อขายแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์
กอตั้งในปีค.ศ. 1934 เป็นหน่วยงานอิสระที่ทำหน้าที่ด้านกฎหมาย มีบทบาทหน้าที่ควบคุม
ให้การดำเนินนการในธุรกิจซื้อขายแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
คณะกรรมาธิการฯ SEC มีรวมทั้งหมด 5 คน ได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธิบดี
โดยความเห็นชอบของ สภาสูงสหรัฐฯประธานาธิบดี จะเลือกกรรมาธิการคนหนึ่งขึ้นเป็นประธาน
และกรรมาธิการจะมาจาก พรรคการเมืองเดียวกันได้ ไม่เกิน 3 คน กรรมาธิการเหล่านี้มีวาระการดำรงตำแหน่งครั้งละ
5 ปี
บทบาทของ SEC ระบุอยู่ในกฎหมายฉบับต่าง ๆ ซึ่ง SEC จะต้องดำเนินการควบคุมดูแลให้เป็นไปตามกฎหมายนั้น
ๆ คือ พระราชบัญญัติหลักทรัพย์ปี 1933 และปี 1934 พระราชบัญญัติบริษัทมหาชนที่ดำเนินการเกี่ยวกับกิจการสาธารณูปโภค
ปี 1935 พระราชบัญญัติพันธบัตร ปี 1939 พระราชบัญญัติที่ปรึกษาการลงทุนปี
1940 นอกจากนี้ยังมีบทบาทในการให้คำปรึกษาแก่ศาลตามพระราชบัญญัติล้มละลายรวมทั้งบทบาทหน้าที่ที่แน่นอนในกฎหมายตาง
ๆ อีกเป็นจำนวนมาก
SEC มีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ ร่วมปฏิบัติงานด้วยเป็นจำนวนมาก
เช่นนักกฎหมาย นักบัญชี วิศวกร ผู้วิเคราะห์หลักทรัพย์ และผู้ตรวจสอบ เป็นต้น
โดยมีการแบ่งส่วนงานต่าง ๆ เป็น 9 ฝ่าย เช่นฝ่ายบริษัทจดทะเบียน มีหน้าที่กำหนดมาตรฐานการรับบริษัทต่าง
ๆ เข้ามาจดทะเบียนออกหลักทรัพย์ซื้อขายในตลาดฯ กำหนดให้บริษัทเหล่านั้น มีการเปิดเผยข้อมูลทั้งที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องกับฐานะทางการเงิน
และรับผิดชอบให้บริษัทเหล่านั้นดำเนินการตามมาตรการต่าง ๆ ที่ตั้งไว้ด้วย
นอกจากนี้ก็มีฝ่ายที่ดูแลทางด้านการซื้อขายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
โดยจับตามองกิจกรรมการซื้อขายหลักทรัพย์ทั้งในตลาดหลักทรัพย์และตลาดนอกตลาดหลักทรัพย์
(โอทีซี) ฝ่ายนี้มีหน้าที่ในการป้องกัและการฉ้อโกงการซื้อขาย การปั่นหุ้น
และดำเนินการสอบสวนลักษณะการซื้อขายที่ผิดปกติ การซื้อขายอย่างผิดกฎหมาย
เช่น WASH SALES, MATCHED ORDERS, POOL OPERATIONS เป็นต้น
ฝ่ายอื่น ๆ ได้แก่ สำนักงานสมุห์บัญชี สำนักงานภูมิภาคซึ่งคอยควบคุมดูแลสำนักงานประจำภาคและสาขาต่าง
ๆ หลายสิบแห่งของ SEC เป็นต้น
อย่างไรก็ดี ในปี 1970 สภาที่ปรึกษาประธานาธิบดีซึ่งแต่งตั้งโดยประธานาธิบดีนิกสันได้ทำการศึกษาหน่วยงานอิสระต่าง
ๆ ของรัฐบาลสหรัฐฯและเสนอรายงานชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับหน่วยงานอิสระที่ทำหน้าที่ทางด้านกฎหมายบางหน่วยงาน
รายงานชิ้นนี้รู้จักกันดีในนามของ ASH REPORT อันเป็นชื่อที่เรียกตามชื่อของ
ROY L. ASH ประธานสภาที่ปรึกษาฯชุดนี้
ใน ASH REPORT ได้มีการวิจารณ์รูปแบบการตั้งคณะกรรมาธิการอิสระชุดต่าง
ๆ โดยกล่าวว่าหน่วยงานเหล่านี้มีกรรมาธิการมาจากหลายองค์กรร่วมกันปฏิบัติงานโดยแต่ละคนต่างมีอำนาจเท่าเทียมกัน
โครงสร้างแบบนี้ก่อให้เกิดปัญหาอย่างหนึ่งคือเมื่อจำเป็นที่จะต้องออกมาตรการอันใดอันหนึ่งเพื่อจัดการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
กรรมาธิการเหล่านี้มักจะถกเถียงและมีความเห็นไม่ลงรอยกัน จนทำให้การตัดสินใจเลือกใช้มาตรการใดล่าช้าไม่ทันท่วงที
อย่างไรก็ตาม ในกรณีของ SEC นั้น รายงานกล่าวว่า SEC เป็นหน่วยงานที่ สามารถดำเนินการตามคำสั่งของรัฐสภาสหรัฐฯได้อย่างเรียบร้อย
และสามารถใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นวางใจให้แก่นักลงทุน แต่ถึงกระนั้น
SEC ก็ควรจะมีการปรับโครงสร้าง ไม่ใช่เพราะเหตุของความผิดพลาดในอดีตที่ผ่านมา
แต่เพื่อที่จะให้เกิดความมั่นใจว่า หน่วยงานนี้จะมีศักยภาพพอที่จะรับมือกับการขยายตัวอย่างรวดเร็วและซับซ้อนของธุรกิจหลักทรัพย์
ความเปลี่ยนแปลงอย่างมโหฬารในธุรกิจค้าหลักทรัพย์ทำให้เกิดคำถามขึ้น ว่า
SEC ซึ่งมีกรรมาธิการที่ทรงสิทธิ์และอำนาจเท่าเทียมกันถึง 5 คนนั้นจะสามารถปกปอ้งเหล่านักลงทุนได้อย่างทันท่วงทีหรือไม่
ในเดือนธันวาคมปี 1968 ขณะที่การซื้อขายหลักทรัพย์พุ่งถึงจุดสูงสุด การณ์กลับปรากฎว่าบริษัทโบรกเกอร์ทั้งหลายไม่สามารถส่งมอบหลักทรัพย์ได้ทันตามกำหนด
คิดเป็นมูลค่าถึง 4,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
นอกจากนี้การคาดหมายเมื่อปี 1962 ว่าปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอกร์กจะเพิ่มเป็น
2 เท่าในปี 1975 แต่ปรากฎว่าเมื่อถึงปี 1968 ปริมาณการซื้อขายกลับเพิ่มขึ้น
4 เท่าตัวแล้ว
ปรากฎการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ทำให้เกิดข้อสรุปว่าตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กต้องลดทอนกระบวนการที่ยืดเยื้อกินเวลาลงเสียบ้าง
เพื่อปรับตัวให้ทันกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นทุกขณะ
ASH REPORT มีข้อเสนอให้จัดตั้งหน่วยงานใหม่แทนที่ SEC ใช้ชื่อว่า SECURITIES
AND EXCHANGE AGENCY เข้ายึดความรับผิดชอบงานทั้งหมดจาก SEC โดยมีผู้อำนวยการทำหน้าที่บริการสูงสุดเพียงคนเดียว
ที่ได้รับการแต่งตั้งหรือถอดถอนจากประธานาธิบดีโดยผ่านความเห็นของของสภาสูงสหรัฐฯ
ผู้อำนวยการคนนี้จะดูแลฝ่ายงานต่าง ๆ ที่อยู่ใน SEA ทั้งหมด บริหารงานภายใน
SEA จัดทำนโยบายตามคำสั่งของรัฐสภาและประธานาธิบดี
มีผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับ ASH REPORT เป็นจำนวนมาก แต่จนกระทั่งถึงปี1984
SEC ก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด คือยังคงไว้ซึ่งคณะกรรมาธิการรวม
5 คนเช่นเดิม