Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์8 ธันวาคม 2551
เมืองไทยประกันภัยพิสูจน์ถุงเงิน มั่นคงมากพอคุ้มครองความเสี่ยง             
 


   
www resources

โฮมเพจ เมืองไทยประกันภัย

   
search resources

เมืองไทยประกันภัย, บมจ.
Insurance
นวลพรรณ ล่ำซำ




หนังโฆษณาชุดใหม่ "เปลื้อง" ของเมืองไทยประกันภัย อาจฟังดูน่าเสียวไส้ แต่นี่คือ นัยสำคัญที่จะครอบคลุมความหมาย การทำประกันภัยในยุคเศรษฐกิจทั่วโลก ล่มสลาย ถ้ามีประกันภัยจ่ายแทน ลูกค้าก็ไม่ต้องเปลื้องผ้าผ่อน จ่ายภาระค่าใช้จ่ายมหาศาล ผู้บริหารมั่นใจความมั่นคง และเงินกองทุนที่แข็งแกร่งจะเป็นเงื่อนไขให้ลูกค้าเลือกบริษัทประกันภัย ยอมรับ กำไรจากพอร์ตลงทุนหุ้นมูลค่าปรับลดลง จนต้องหันมาหากำไรจากการรับประกันภัยมากขึ้นแทน ขณะที่ไตรมาส 2-3 ปีนี้ต้องเอ็กซเรย์พอร์ตอย่างละเอียด ก่อนตัดสินใจปรับเพิ่มราคาเบี้ยและไม่ขายสินค้าที่มีอัตราความเสียหายสูง...

นับเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี หลังจาก ควบรวมกิจการระหว่าง บมจ.ภัทรประกันภัย และเมืองไทยประกันภัย จนเปลี่ยนมาเป็น บมจ.เมืองไทยประกันภัย ที่บริษัทชื่อเก่าในร่างใหม่ ต้องหันมาเทน้ำหนักให้กับหนังโฆษณาอย่างเอาจริงเอาจัง ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลกล่มสลาย และธุรกิจประกันภัยก็โดนหางเลขไปด้วย แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว

หนังชุดใหม่ "เปลื้อง" ของเมืองไทยประกันภัย ที่เริ่มประกาศตัวผ่านสื่อ เมื่อกลางปีที่ผ่านมา จึงชี้ให้เห็นถึงผลพวง พิษสงร้ายแรงของเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก รวมถึงธุรกิจประกันภัยด้วย

" ชื่อว่า เปลื้อง อาจจะฟังดูน่าเสียวไส้ แต่หนังโฆษณา ชุดนี้ ก็จะบอกให้เห็นว่า ถึงแม้ผู้คนจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ แต่คนก็ยังให้ความสำคัญกับธุรกิจประกันภัยอยู่เช่นเดิม"

นวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บมจ. เมืองไทยประกันภัย บอกข้อมูลเกี่ยวกับ ภาพรวมตลาดประกันภัยยังไม่ตกเสียทีเดียว และการออกหนังโฆษณาก็เพื่อบอกให้รู้ว่า ความเสี่ยงอยู่ใกล้ตัว โดยเฉพาะประกันภัยรถยนต์ ที่มีความเสี่ยงตลอดเวลา แต่ถ้าทำประกันภัยก็ไม่ต้องเสียค่าซ่อม แซม มหาศาล จนต้องเปลื้องผ้า หมดเนื้อ หมดตัว เหมือนในหนังโฆษณาชุดใหม่ เพราะทำประกันภัยจะมีคนจ่ายแทน

" จากวิกฤตเศรษฐกิจ จะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป ผู้บริโภคจะไม่เลือกที่ราคาเบี้ยถูก แต่จะเน้นที่เงื่อนไขเป็นธรรม การให้บริการดี และเห็นได้ชัดเลยคือ ความมั่นคงของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นสถานะทางการเงิน เงินกองทุน เงินสำรองประกันภัย ที่จะใช้เป็นตัวตัดสินใจให้กับลูกค้า"

นวลพรรณ บอกว่า ลูกค้าส่วนใหญ่เริ่มมองหาความมั่นคงขององค์กรที่จะทำประกันภัยด้วย โดยเฉพาะเรื่องสถานะการเงิน ที่เริ่มเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวมากกว่าในอดีต

หนังโฆษณาชุดใหม่ เปลื้อง นอกจากจะบอกถึงความคุ้มครองความเสียหายให้กับลูกค้า บมจ.เมืองไทยฯก็ยังโชว์ถุงเงินก้อนโต เพื่อบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของฐานะการเงินพ่วงไว้ด้วย ต่างจากหนังโฆษณาชุดเก่าที่แล้วมา

"เราจะมีสปอตเรดิโอ ทีร่จะลอนช์พร้อมๆกัน เน้นเงินกองทุนแข็งแกร่งเหมือนกับหนังโฆษณาทางทีวี เพราะตอนนี้มองภาพลักษณ์ที่แบรนด์อย่างเดียวไม่ได้แล้ว เพราะถุงเงินจะบอกฐานะการเงินบริษัทเราว่าแกร่งแค่ไหน"

นวลพรรณ บอกว่า หลังควบรวมกิจการเมื่อปีที่แล้ว บริษัทมีเงินกองทุน 1,700 ล้านบาท เกินกว่าเกณฑ์ที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กำหนดไว้ถึง 7 เท่า

โดยผลประกอบการ 9 เดือนปีนี้ นับจากควบรวมกิจการมาตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน 2550 บริษัทมีเบี้ยใหม่รับรวม 1,077 ล้านบาท มีเบี้ยรับรวม 3,225 ล้าบาท มีกำไรจากการรับประกันภัย 297 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 72 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม นวลพรรณ ก็ยอมรับว่า ต้องหันมาโฟกัสกำไรจากการรับประกันภัยมากขึ้น เพื่อทดแทนพอร์ตลงทุนในหุ้นที่ลดมูลค่าลงร่วม 150 ล้านบาท เพราะผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกดิ่งเหว

"พอร์ตเราลงหุ้นไม่เกิน 25% มูลค่าพอร์ตที่ลงไปมูลค่าลดลง 150 ล้านบาท ซึ่งไม่ได้ขาย ซึ่งถ้าราคาดี ขายก็เป็นบวก"

นวลพรรณ อธิบายว่า พอร์ตลงทุนในหุ้นสัดส่วนกว่า 80% อยู่ในดัชนี SET50 ซึ่งก็ลงหนัก ที่เหลือจะเป็นหุ้นปันผลเป็นหลัก ซึ่งราคาก็ลงมาพอสมควร แต่ก็มองเป็นเรื่องภาวะเศรษฐกิจโลก การรอให้ต่างประเทศมาซื้อ ก็ต้องรอแบบค่อยเป็นค่อยไป

" ถ้าในระยะยาว ตลาดกลับมาดีอีกครั้ง ก็อาจจะทยอยเข้าเก็บ ในช่วงแรกคงเตรียมเงินไว้ไม่เกิน 100 ล้านบาท ในช่วงเวลา 6 เดือน"

นวลพรรณ ยอมรับว่า บมจ.เมืองไทยประกันภัย ได้ลดสัดส่วนลงทุนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ค่อนข้างมาก เพราะต้องการหันมาเน้นกำไรจากการรับประกันภัยเป็นหลัก

ทั้งนี้ ฝ่ายกลยุทธ์จะทบทวนโครงสร้างใหม่ว่า ราคา หรือ สินค้าตัวไหน ที่มีสินไหมจ่ายมากในไตรมาส 2-3 ก็จะมีการปรับปรุงราคาให้เหมาะสม โดยมีการแยกพอร์ตอย่างละเอียด เพื่อจะดูอัตราความเสียหายหรือ ลอส เรโช ซึ่งถ้าสถิติสูงมาก ก็อาจปรับเป็นไม่ขายสินค้าตัวนั้นหรือ อาจปรับเพิ่มเบี้ยแทน

ตัวอย่าง เช่น พอร์ตรถยนต์ ถ้าบางพอร์ตมีอัตราความเสียหายสูงระดับ เกินกว่า 60 หรือ 65% ก็อาจต้องปรับเพิ่มเบี้ยขึ้นอีก เพราะต้องการสร้างบริษัทให้แข็งแรง ไม่มีปัญหาเงินทุนหมุนเวียน ทั้งนี้ ได้ปรับเบี้ยประกันภัยรถยนต์ขึ้นอีก 10% ในช่วงกลางปีที่ผ่านมาแล้ว

ขณะเดียวกัน กาอนหน้านี้ ประกันภัยอิสรภาพที่มีปัญหายุ่งยาก คณะกรรณการบริหารความเสี่ยง ก็มีมติให้ยกเลิกแล้ว ต่อจากนั้นก็พยายามเจาะเข้าหาพอร์ตใหม่ๆ รวมถึง มองหาตลาดรายย่อย ขยายสำนักงานตัวแทน และมุ่งขยายตัวแทนเพิ่ม

ขณะที่เป้าหมายปี 2552 คาดว่าจะขยายตัว 10% คิดเป็นเบี้ยประกันภัยรับรวม 4,050 ล้านบาท พร้อมจะขยายสำนักงานตัวแทนอีก 30 แห่ง รวมเป็น 359 แห่ง เพราะคนเริ่มรู้จักมากขึ้น หลังจากควบรวมกิจการเมื่อปีที่แล้ว...   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us