Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน8 ธันวาคม 2551
ศก.ปี’52ฉุดยอดใช้ไฟ-น้ำมันวูบ             
 


   
search resources

Economics




จับตาการใช้พลังงานโดยเฉพาะไฟฟ้าและน้ำมันในปี 2552 ที่คาดว่าจะโตลดลงตามภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย วรรณรัตน์สั่งกฟผ.ปรับพีดีพีใหม่อีกระลอกหลังจีดีพีส่อแววไม่โตรับการใช้ไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรมลดไปถึง 30% ดันสำรองไฟกฟผ.เป็น 28% ขณะที่น้ำมันบางจากฯมองปีหน้าโตลดลง 4% จากปีนี้คาดดีเซลล้นต้องหาตลาดระบายส่งออกแทน

นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รักษาการรมว.พลังงานกล่าวว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปปรับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าหรือ PDP ให้สอดคล้องกับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอีกครั้งหนึ่งหลังจากตัวเลขทางเศษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้งจากเดิมที่คาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือจีดีพีจะโต 3% ล่าสุดอาจไม่โตหรือติดลบ ซึ่งจะมีผลให้การใช้ไฟฟ้าลดต่ำมากกว่าที่คาดการไว้และจะส่งผลต่อปริมาณสำรองไฟให้ให้สูงขึ้นจากขณะนี้อยู่ระดับ 28%

“การใช้ไฟโดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมขณะนี้ลดไปถึง 30% คงต้องมาดูให้ปริมาณสำรองอยู่ในอัตราที่เหมาะสมโดยจากเดิมที่มองไว้ระดับ 15% ส่วนตัวก็มองว่าควรจะเผื่อไว้ให้มากกว่านี้เนื่องจากเมื่อเศรษฐกิจกลับมาพลิกฟื้นโดยเร็วระดับดังกล่าวอาจเสี่ยงเกินไป”รมว.พลังงานกล่าว

อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็วๆนี้คณะกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้หารือถึงการกระตุ้นการลงทุนโดยเฉพาะโครงการเมกะโปรเจกต์ของรัฐ ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ได้เสนอแนวคิดในส่วนของพลังงานว่าควรจะเปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามาลงทุนโรงไฟฟ้ามากขึ้นในทุกระดับตั้งแต่ขนาดเล็กที่ส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนไปจนถึงขนาดใหญ่ดังนั้นจึงมอบหมายให้กฟผ.ไปพิจาณราโดยดูเรื่องของปริมาณสำรองที่อาจจะมากกว่า 15% แต่ไม่ให้สูงจนเป็นภาระที่จะไปกระทบต่อค่าไฟฟ้า

นายสมบัติ ศานติจารี ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) กล่าวว่า ขณะนี้การใช้ไฟฟ้ามีอัตราเติบโตที่ลดต่ำลงจากไตรมาสแรกปีนี้ที่ขยายตัว 3% เริ่มลดมาอยู่ระดับ 2% กว่าๆ ในช่วงไตรมาส 2-3 และล่าสุดไตรมาส 4 คาดว่าอัตราเติบโตจะเป็น 0 % ดังนั้นหากเศรษฐกิจปี2552 ชะลอตัวอีกก็จะทำให้การใช้ลดต่ำได้ และผลจากการใช้ไฟที่ลดลงทำให้สำรองไฟฟ้าของกฟผ.อยู่ที่ 28% ซึ่งคงจะต้องมีการปรับพีดีพีใหม่แต่คงต้องรอตัวเลขจีดีพีจากสศช.ให้ชัดเจนก่อน

“ผลจากที่ราคาวัสดุก่อสร้างที่ลดต่ำลงในปัจจุบันทำให้กฟผ.เตรียมแผนที่จะซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าครั้งใหญ่เช่น วังน้อย บางปะกง ฯลฯ เพื่อลดต้นทุนค่าซ่อมบำรุง ส่วนแนวโน้มค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติหรือ Ft ม.ค.-เม.ย.52 ยอมรับว่าจะสะท้อนจากต้นทุนเชื่อเพลิงคือก๊าซธรรมชาติที่มีราคาแพงขึ้นเนื่องจากราคาก๊าซฯจะสะท้อนราคาน้ำมันย้อนหลัง 6 เดือนซึ่งช่วงนี้ราคาน้ำมันสูงค่อนข้างมาก”นายสมบัติกล่าว

นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบางจากปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มการใช้น้ำมันในปี 2552 คาดว่าจะลดต่ำลงประมาณ 4% เมื่อเทียบกับปี 2551 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มเติบโตลดลงตามภาวะเศรษฐกิจโลกประกอบกับประชาชนได้หันไปใช้พลังงานทดแทนและทางเลือกอื่นเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์หรือ NGV ดังนั้นคาดว่าจะกระทบต่อปริมาณการผลิตดีเซลในประเทศที่จะมีเพิ่มขึ้นซึ่งทำให้บางจากฯเตรียมหาแผนรองรับด้วยการมองการส่งออกไปยังต่างประเทศแทน

“ปีนี้เทียบกับปี 2550 แล้วคาดว่าจะโตลดลง 4%แต่ปีหน้าก็จะลดลงอีกตามภาวะเศรษฐกิจ ผมค่อนข้างห่วงดีเซลเพราะโรงกลั่นมีการขยายการผลิตที่เพิ่มในช่วงที่ผ่านมาแต่การใช้ลดลงอย่างมากเพราะหันไปพึ่งไบโอดีเซลและ NGV ค่อนข้างมากทำให้คาดว่าปีหน้าดีเซลน่าจะเหลือส่งออกพอสมควร”นายอนุสรณ์   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us