Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน8 ธันวาคม 2551
บจ.สนซื้อหุ้นคืนเพิ่ม15บ. หลังตลท.ผ่อนหลักเกณฑ์             
 


   
search resources

ภัทรียา เบญจพลชัย
Stock Exchange




"ภัทรียา" เผย มีบจ.สนใจซื้อหุ้นเพิ่มอีก 15 บริษัท รวม 32 บริษัท ด้านสมาคมโบรกเกอร์เชื่อแนวโน้มบริษัทสนในซื้อหุ้นคืนมากขึ้น ตลาดหลักทรัพย์ฯเล็งลดเวลาแจ้งซื้อหุ้นคืนเหลือ 3 วัน จากปกติ 14 วัน รอกระทรวงพาณิชย์ไฟเขียว หลังจากผ่อนให้บจ.ขออนุมัติผู้ถือหุ้นซื้อหุ้นคืนโดยส่งหนังสือเวียนได้กรณีซื้อไม่เกิน10%

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯได้มีการปรับปรุงเกณฑ์การซื้อหุ้นคืน ทำให้มีบริษัทจดทะเบียน (บจ.) มีความสนใจมากขึ้น เนื่องจากสามารถทำได้รวดเร็วขึ้นจากที่บริษัทสามารถส่งหนังสือขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นได้ในกรณีซื้อหุ้นไม่เกิน 10% โดยบริษัทดังกล่าวยังไม่ได้แก้ไขข้อบังคับบริษัทเพื่อให้อำนาจคณะกรรมการบริษัทอนุมัติโครงการ จากเดิมนั้นต้องใช้เวลานานในเชิญประชุมผู้ถือหุ้น

นอกจากนี้ การที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวลดลงนั้นทำให้ราคาหุ้นมีการปรับตัวลดลงต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานทำให้บริษัทเข้ามาซื้อเพื่อดูแลราคาหุ้นและจะให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวจากเป็นผู้ที่ทราบพื้นฐานของบริษัทเป็นอย่างดี ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทสนใจซื้อหุ้นคืนรวมจำนวน 32 บริษัท ซึ่งเพิ่มขึ้น 15 บริษัท จากก่อนที่จะมีการปรับปรุงเกณฑ์ ที่มี 17 บริษัท อนึ่ง ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2551 มีบริษัทซื้อหุ้นคืนรวม 19 บริษัท วงเงินทั้งสิ้น 7,415 ล้านบาท ( ณ 30 ต.ค. 2551)

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์ฯ แจ้งเพิ่มเติมว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีการส่งหนังสือเวียนไปยังบริษัทจดทะเบียน บริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน และที่ปรึกษากฎหมายของทุกบริษัท เรื่องการปรับปรุงเกณฑ์การซื้อหุ้นคืนเพื่อให้บริษัทจดทะเบียนสามารถดำเนินการซื้อหุ้นคืนได้โดยสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เนื่องจาก คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้มีมติปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าว เพื่อให้บริษัทจดทะเบียนสามารถเริ่มซื้อหุ้นคืนได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว และทันต่อสถานการณ์ราคาหุ้นที่มีความผันผวนสูงในปัจจุบัน แต่ยังคงหลักการที่ให้ผู้ถือหุ้นเป็นผู้อนุมัติการทำโครงการซื้อหุ้นคืน

ทั้งนี้คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯมีมติให้แก้ไขเกณฑ์การซื้อหุ้นคืน โดยให้บริษัทจดทะเบียนสามารถขออนุมัติการซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นโดยเวียนเป็นหนังสือได้ หากบริษัทมีความสนใจซื้อหุ้นคืนแต่ยังไม่ได้แก้ไขข้อบังคับบริษัทเพื่อให้อำนาจคณะกรรมการบริษัทอนุมัติโครงการ หรือยังไม่ได้ขอนุมัติโครงการจากผู้ถือหุ้น โดยมาตรการดังกล่าวนั้นจะใช้ชั่วคราวระยะเวลาเพียง 6 เดือน เพื่อตอบสนองกับสถานการณ์ที่ไม่เป็นปกติ โดยเริ่มบังคับใช้ 19 พฤศจิกายนนี้ ส่วนบริษัทที่แก้ไขข้อบังคับบริษัท โดยระบุการให้อำนาจคณะกรรมการเป้นผุ้อนุมัติการซื้อหุ้นคืนกรณีซื้อไม่เกิน 10%ของทุนชำระแล้ว คณะกรรมการบริษัทสามารถมีมติให้ดำเนินการซื้อหุ้นคืนได้เช่นเดิมตามเกณฑ์ปัจจุบัน

นอกจากนี้เพื่อให้การซื้อหรือจำหน่ายหุ้นคืนสามารถดำเนินการได้ทันต่อสถานการณ์ของราคาหุ้น ซึ่งเปลี่ยนแปลงตลาดเวลา ประกอบกับโครงการซื้อหุ้นคืนเป้นเรื่องที่กำหนดให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลผ่านระบบแผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯเพื่อให้ผู้ลงทุนรับทราบ คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯจึงมีมติให้ลดระยะเวลาเปิดเผยข้อมูล จากปัจจุบันที่กำหนดให้บริษัทต้องเปิดเผยโครงการซื้อหุ้นจำหน่ายหุ้นคืนต่อตลาดหลักทรัพย์ฯล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 14 วันก่อนวันที่เริ่มทำการซื้อหุ้นหรือเริ่มจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนเป็นไม่น้อยกว่า 3 วัน

อนึ่งเกณฑ์ดังกล่าวในการลดเวลาเปิดเผยโครงการซื้อหุ้นคืนนั้นอยุ่ระหว่างการประสานงานกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อเสนอแก้ไขหลักเกณฑ์ให้เป็นไปในแนวเดียวกันและจะแจ้งให้บริษัททราบเมื่อกฎกระทรวงดังกล่าวมีผลบังคับใช้ต่อไป

คณะกรรมการบริหารบริษัทหลักทรัพย์ (สมาคมโบรกเกอร์) ประเมินว่า จากการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ร่วมหารือกับทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์และกระทรวงพาณิชย์เพื่อให้บริษัทจดทะเบียนมีความสะดวกในการซื้อหุ้นคืนได้คล่องตัวยิ่งขึ้น และได้มีบริษัทจดทะเบียนแจ้งความจำนงที่จะซื้อหุ้นมาแล้วอีกจำนวน 14 บริษัท จึงเชื่อว่าการปรับปรุงเกณฑ์ดังกล่าวจะทำให้มีจำนวนผู้บริการหรือเจ้าของกิจการซื้อหุ้นคืนมากขึ้น

นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯได้มีการแก้ไขเกณฑ์การซื้อหุ้นคือเพื่อที่จะให้บริษัทจดทะเบียนที่สนใจซื้อหุ้นคืนทำได้สะดวกมากขึ้น เนื่องจากการที่ราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียนมีการปรับตัวลดลงมามากนั้นบริษัทจดทะเบียนควรที่จะเข้ามาซื้อหุ้นคืนเพื่อดูแลราคาหุ้นของบริษัทอยู่ในระดับที่เหมาะสม หากบริษัทนั้นมีกำไรเหลือการดำเนินงานมาซื้อหุ้นคืน เพราะ หากปล่อยให้ราคาหุ้นต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานเมื่อบริษัทมีความจำเป็นที่จะต้องมีการเพิ่มทุนจะทำให้เพิ่มทุนได้ลำบากเพราะ จะได้ราคาที่ไม่เหมาะสม   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us