|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
บล.ทิสโก้ ชี้ ภาวะตลาดหุ้นไทยผันผวนแนะลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงาน “ปตท.สผ - บ้านปู- บางจาก ”นำทีม เพราะมีมาร์เกตแคปใหญ่หากภาวะหุ้นฟื้นจะปรับตัวขึ้นได้เร็ว อีกทั้งมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง จ่ายปันผลสูงถึง 7.2-7.5% หลังจากราคาได้ปรับตัวลดลงมามากแล้ว แต่ห่วงหุ้นโรงกลั่น เหตุค่าการกลั่นยังต่ำ พร้อมคาดราคาน้ำมันยังลดลงต่อเนื่อง ก่อนปรับตัวขึ้นอีกครั้งในไตรมาส4/52
วานนี้(3ธ.ค.)สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จัดสัมมนาในหัวข้อ "หุ้นพลังงาน :ความหวังตลาดหุ้นไทย" ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ
นายชัยพัชร ธนวัฒโน นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยที่มีความผันผวน จากปัญหาเศรษฐกิจโลกถดถอยส่งผลเศรษฐกิจไทยมีการชะลอตัวนั้น ประเมินว่าหุ้นที่มีความน่าสนใจในการลงทุนคือกลุ่มพลังงานจากความเหมาะสมในการลงทุนระยะยาว เพราะเมื่อดัชนีตลาดหุ้นไทยฟื้นหุ้นกลุ่มดังกล่าวจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเร็ว จากที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เกตแคป)ที่สูง
นอกจากนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวมีฐานะทางการเงินที่ดี โดยมีหนี้สินสิทธิต่อส่วนผู้ถือหุ้นเพียง 0.5เท่า ลดลงจาก 2 เท่า จากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา หรือมีความเสี่ยงต่ำ ทำให้เหมาะต่อการลงทุนในระยะยาวและไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจ เพราะ น้ำมัน ไฟฟ้า เป็นสินค้าที่จำเป็นและยังมีการใช้อย่างต่อเนื่อง และที่ผ่านมาที่ผ่านมาราคาหุ้นกลุ่มดังกล่าวได้มีการปรับตัวลดลงมากสะท้อนกับราคาน้ำมับดิบโลกที่ปรับตัวลดลงมากเกินไป
ดังนั้นจึงทำให้ความเสี่ยงที่ราคาหุ้นกลุ่มดังกล่าวจะปรับตัวลดลงอีกเป็นไปได้น้อย เพราะแรงขายของนักลงทุนต่างชาติมีการขายหุ้นดังกล่าวออกมาลดลง จากเดิมก่อนหน้านี้มีแรงขายออกมาจำนวนมากตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2551 ที่ราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุด โดยการที่กลุ่มดังกล่าวปรับตัวลดลงมากเกินไปทำให้ราคาปัจจุบันน่าสนใจมากขึ้น โดยมีค่าP/Eปี หน้าเพียง 5.3 เท่า เทียบกับ 6.1 เท่าของตลาด มีการจ่ายเงินปันผลสูงถึง 7.2-7.5% หลังจากที่ราคาปรับตัวลงมาก
สำหรับแนวโน้มราคาน้ำมัน นายชัยพัชร กล่าวว่ายังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องจาก จากความต้องการใช้ที่ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจไม่ดี โดยเชื่อว่าในไตรมาส4/51 ราคาน้ำมันจะปรับตัวลดลงกว่าไตรมาส3/51 ประมาณ 50% ซึ่งกว่าที่ราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกครั้งคาดว่าจะเป็นช่วงไตรมาส4/52 เป็นต้นไปและจะปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง โดยบริษัทแนะนำลงทุนในหุ้น บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)หรือ BCP
อย่างไรก็ตามธุรกิจโรงกลั่นนั้นมีความน่าเป็นห่วงเช่นกัน จากการที่ค่าการกลั่นน้ำมันลดลง และการชะลอตัวจอของความต้องการใช้ตามภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี และยังคงได้รับผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันที่น่าจะปรับตัวลดลงในปี 2552 หรืออาจจะสามารถเป็นกำไรได้ ถ้าการลดลงของราคาน้ำมันหยุดแล้ว
นายชัยพัชร กล่าวว่า ส่วนธุรกิจก๊าซธรรมชาติ เชื่อว่ายังมีความต้องการใช้ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามคววามต้องการใช้ที่ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นตามความต้องการใช้ไฟฟ้า และเชื่อว่าราคาก๊าซธรรมชาติจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ในช่วงไตรมาส4และปีหน้า
ส่วนธุรกิจถ่านหินเชื่อว่าราคาถ่านหินยังคงปรับตัวลงตามราคาน้ำมัน เช่นกัน ทั้งนี้ความต้องการใช้ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจาก โรงไฟฟ้าใหม่ในภูมิภาคนี้ ขณะที่ประมาณการผลิตยังขยายตัวไม่ทัน ความเสี่ยงของปริมาณการผลิตขึ้นอยู่กับการขนส่งของออสเตรเลีย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความแออัดของท่าเรือ ซึ่งน่าจะได้รับการแก้ไขในอีก 2 ปีข้างหน้า
ขณะที่ธุรกิจโรงไฟฟ้า ความต้องการใช้ไฟฟ้าขยายตัวลดลงและอยู่ในอัตราที่ต่ำกว่าที่เคยคาดการณ์เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และฝนตกเร็วกว่าที่คาด แต่หุ้นดังกล่าวเหมาะต่อการถือลงทุนในระยะยาวจากที่มีการปันผลสูง
|
|
|
|
|