|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
สิงห์ฯ ชี้ตลาดเบียร์กว่าแสนล้านบาทปีหน้าไม่โต ล่าสุดตัวเลขตลาดปีนี้ 9 เดือนติดลบ 2.8% หวั่นวิกฤตเศรษฐกิจโลกกระทบไทยระยะยาว จ่อคิวปั้นสินค้ากลุ่มนอนแอลกอฮอล์ลงตลาดปีหน้า ทดแทนกลุ่มเบียร์ ส่วนแผนกลุ่มเบียร์ตั้งการ์ดหวังโตจากการชิงแชร์จากไทยเบฟฯ – ไทยเอเชียฯ เพื่อรั้งตำแหน่งผู้นำครองแชร์ 56-57% โอดรีดภาษีอีก 2% ซ้ำเติมผู้ประกอบการ
นายสันติ ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเบียร์สิงห์ ลีโอ ไทเบียร์ เปิดเผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจในปีหน้านี้คาดว่าจะส่งผลกระทบรุนแรงมากกว่าเมื่อเทียบกับในวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งในปี 2540 เพราะเป็นวิกฤตเศรษฐกิจโลก ในขณะที่วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา เป็นวิกฤตที่เกิดขึ้นเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย ดังนั้นคาดว่าปีหน้านี้ตลาดเบียร์มูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท ไม่มีอัตราการเติบโต ดังนั้นทิศทางการดำเนินธุรกิจเบียร์ของผู้ประกอบการจะแข่งขันกันเข้มข้นและรุนแรง เพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดจากคู่แข่ง เพื่อผลักดันให้แบรนด์มีอัตราการเติบโต
สำหรับในปีหน้านี้บริษัทไม่มีแผนเปิดตัวสินค้ากลุ่มแอลกอฮอล์ใหม่ แต่เพื่อผลักดันให้บริษัทมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทจะดำเนินการตลาดในเชิงรุกกลุ่มเครื่องดื่มนอนแอลกอฮอล์ จากปัจจุบันมีเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์ บี-อิ้ง น้ำดื่มสิงห์ และโซดาสิงห์ ส่วนกลุ่มเบียร์บริษัทจะเน้นการช่วงชิงส่วนแบ่งจากคู่แข่ง และดำเนินการตลาดให้ดีที่สุด ทั้งนี้เพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดเบียร์ด้วยการครองส่วนแบ่ง 56-57% จากมูลค่าเบียร์กว่า 1 แสนล้านบาท
“แม้ว่าจะมีปัจจัยลบมากมาย ทั้งจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก ซึ่งคนมองว่าไม่ใช่วิกฤตต้มยำกุ้งแต่เป็นวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ซึ่งอาจจะกระทบต่อประเทศไทยในระยะยาว แต่เราอย่ามองว่าปากถ้ำไม่มีแสงไฟ ดังนั้นผู้ประกอบการต้องสู้บนพื้นฐานความเป็นจริง ซึ่งในส่วนตัวมองว่าประเทศไทยไม่ได้เลวร้าย และยังมีสภาพคล่องทางการเงิน”
สำหรับภาวะตลาดเบียร์ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ติดลบ 2.8% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย ซึ่งเมื่อเทียบกับภาวะปกติตลาดมีอัตราการเติบโต 8-14% อย่างไรก็ตามในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาบริษัทยังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ครึ่งปีหลังได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบต่างๆ ทำให้สิ้นปีนี้คาดว่าบริษัทมีอัตราการเติบโตเล็กน้อย หรือไม่เติบโตเลย
ล่าสุดได้ทุ่มงบ 20 ล้านบาท เปิดตัวโครงการ”Singha Biz Coures” เปิดโอกาสให้นักศึกษาระดับอุดมศึกษาทั่วประเทศเข้ามาเรียนรู้การทำงาน การบริหารงานกับทีมผู้บริหาร สิงห์ คอร์เปอเรชั่น อาทิ ปิติ ภิรมย์ภักดี ,ฉัตรชัย วิรัตน์โยสินทร์ และกูรูผู้มีความเชี่ยวชาญในสาขาวิชาต่างๆ อีกมากมาย โดยเริ่มอบรมช่วงเดือนเมษายน – เดือนพฤษภาคม 2552 ทั้งนี้การจัดกิจกรรมดังกล่าวเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้กับองค์กร โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่
นายสันติ กล่าวถึงกรณีกระทรวงการคลังเสนอให้มีการปรับภาษีเพิ่มขึ้น 2% ซึ่งมีโอกาสทำให้บริษัทต้องปรับราคาเบียร์เพิ่มขึ้น 2% และมีโอกาสที่จะส่งผลกระทบต่อยอดขาย เพราะวิกฤตเศรษฐกิจส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคทำให้มีความระมัดระวังการใช้เงิน ซึ่งแนวทางการเก็บภาษีเพิ่มขึ้น 2% ถือว่าเป็นการซ้ำเติมผู้ประกอบการ อีกทั้งหากมีการเก็บภาษีเพิ่มขึ้นจะต้องมีการปรับโครงการสร้างภาษีใหม่ โดยพิจารณาเก็บตามปริมาณดีกรี นอกจากนี้หากมีการเก็บภาษีเบียร์ก็ต้องมีการเก็บภาษีเหล้าด้วย ดังนั้นการปรับภาษีของภาครัฐต้องมีหลักการและปรับอย่างยุติธรรม
|
|
 |
|
|