|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
นายพรชาย พิริยบรรเจิด กรรมการผู้จัดการ บริษัท แพน ราชเทวี กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ “แพน เมลาสมา ไวท์เทนนิ่ง” เปิดเผยว่า ทางบริษัทฯเล็งเห็นการเติบโตของธุรกิจผลิตภัณฑ์บำรุงหน้า ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 8,000 ล้านบาท โดย 9 เดือน ที่ผ่านมาทางบริษัทฯมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 8% แบ่งเป็นกลุ่มไวท์เทนนิ่ง 50% และกลุ่มลดริ้วรอย 40%
อย่างไรก็ตามจะเห็นได้ว่ากลุ่มไวท์เทนนิ่งมีอัตราการเติบโตเป็นอย่างมาก และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสวนกระแสกับสภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลผิวพรรณอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ครีมปรับสภาพผิว “แพน เมลาสมา ไวท์เทนนิ่ง” ที่มุ่งตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายระดับแมส ที่ให้คุณสมบัติครบทุกความต้องการ ประเดิมเปิด 2 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ แอคเน่ ไวท์เทน นิ่งครีม และตัวล่าสุดคือแพน เมลาสมา ไวท์เทนนิ่ง ที่มุ่งตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในกลุ่มแมส ที่มีปัญหาผิวหน้า ซึ่งทางบริษัทฯจะเน้นการจับกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนรวมทั้งมุ่งสร้างความแตกต่างให้กับตัวผลิตภัณฑ์”
นายพรชาย ยังกล่าวว่า การที่เลือกดันผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งเข้าสู่ตลาด เนื่องจากเชื่อมั่นในตัวผลิตภัณฑ์ รวมทั้งทางบริษัทฯมีความเชี่ยวชาญในเรื่องของผลิตภัณฑ์การดูแลสิวและฝ้า”
ทั้งนี้ทางบริษัทฯยังตอกย้ำตัวผลิตภัณฑ์ด้วยผลวิจัยที่ได้ผ่านการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญ โดยตั้งเป้ายอดขาย 300 ล้านบาทภายใน 2 ปี ซึ่งคาดว่าจะช่วยทำให้ยอดขายการขายผลิตภัณฑ์ไวทเทนนิ่งในตลาดรวมเติบโตอีก 6%
ด้านกลยุทธ์ทางการตลาดทางบริษัทฯได้ทุ่มงบ 50 ล้านบาท ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเป็นกลุ่มแมสมากขึ้น โดยดึง วราภรณ์ สมพงษ์ ผุ้ประกาศข่าวชื่อดัง มาเป็นพรีเซ็นเตอร์หลักในภาพยนตร์โฆษณา เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์น่าเชื่อถือและนำเสนอปัญหาผิวที่ไม่สม่ำเสมอ
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมทางการตลาดเพื่อสนับสนุนการเปิดตัว อาทิ การจัดรายการส่งเสริม ณ จุดขายรวมพร้อม ทั้งทีมถอดรหัสสีผิวกว่า 300จุด การจัดโรดโชว์และเวิร์คช็อป
นายพรชาย กล่าวว่า “จากสภาพเศรษฐกิจที่ถดถอย ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง แต่ในส่วนของผู้บริโภคของบริษัทฯมองว่าผู้บริโภคระดับ B ขึ้นไปยังไม่มีผลกระทบ แต่มีผู้บริโภคบางส่วนมีการสวิชชิ่งในตัวของผลิตภัณฑ์คือใช้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถทดแทนได้แต่ราคาลดลง”
สำหรับปีหน้าบริษัทได้เตรียมใช้งบการตลาด 30% ของยอดรายได้ ซึ่งคาดปี2552จะมียอดการเติบโตอีก15% ของยอดขายสิ้นปีนี้ ซึ่งคาดว่าสิ้นปีจะมีรายได้ 1,500 ล้านบาท (ไม่รวมรายได้จากคลีนิก) คิดเป็นอัตราการเติบโต 15 %
|
|
|
|
|