Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤศจิกายน 2532








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤศจิกายน 2532
เชิดชัย เพชรพันธ์ กับของขวัญจากรัสเซีย             
 


   
search resources

ไทยอินเตอร์ชิพยาร์ด
เชิดชัย เพชรพันธ์
Transportation
ไทยอินเตอร์ทรานสปอร์ต




เชิดชัย เพชรพันธ์เคยเป็น ส.ส.เขตราษฎร์บูรณะกทม. พรรคประชากรไทยเมื่อปี 2522 ในการเลือกตั้งครั้งถัดมา เขาลงสมัครในนามพรรคชาติไทย แต่คราวนี้เขาไม่ได้รับเลือก

โดยเนื้อแท้แล้ว เชิดชัยไม่ได้เป็นนักการเมือง เขาเป็นเจ้าของอู่ซ่อมเรือที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย นั่นคืออู่เจ้าพระยาชิพยาร์ด

เชิดชัยใช้ชีวิตกับแม่น้ำและทะเลมาตลอด เขาเกิดกลางแม่น้ำ เริ่มทำธุรกิจกับแม่น้ำและเริ่มดำเนินกิจการอู่ซ่อมเรือเมื่อประมาณสิบกว่าปีที่แล้ว ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นกิจการที่ดีมาก ๆ

เจ้าพระยาชิพยาค์ดเป็นอู่ซ่อมเรือที่ใหญ่ 1 ใน 3 อีกสองแห่งคือเอเชียนมารีนและอิตัลมารีน แต่ละแห่งมีลูกค้าแยกกันออกไป เอเซียนมารีนเน้นหนักเรือเดินสมุทรของรัฐหรือองค์กรราชการ อิตับลมารีนเน้นต่อเรือมากกว่าซ่อม เจ้าพระยาชิพยาร์ดเน้นไปที่เรือของเอกชนและเรือต่างประเทศ

"เดี๋ยวนี่เรือเดินสมุทรของไทยเยอะมาก เมื่อก่อนต้องไปซ่อมที่สิงคโปร์ เสียค่าใช้จ่ายสูงแต่ตอนนี้มาซ่อมในไทยกันหมด อู่ของผมต้องจองล่วงหน้า 3 เดือนถึงจะขึ้นมาซ่อมได้" เชิดชัยกล่าว

มาเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว อู่เจ้าพระยาชิพยาร์ดมีโอกาสต้อนรับเรือเดินสมุทรจากรัสเซียลำหนึ่งซึ่งผ่านมาทางภูมิภาคนี้พอดี และครั้งนั้นเจ้าหน้าที่และช่างของอู่เจ้าพระยาชิพยาร์ดก็พิสูจน์ให้คนรัสเซียนเห็นว่าฝีมือคนไทยเก่งกาจขนาดไหนจนทางรัสเซียโดย "ซูโดเอ็กซปอร์ต" ซึ่งเปียบได้กับรัฐวิสาหกิจของรัสเซียทีดู่แลกิจการซ่อมและต่อเรือตลอดจนกิจการขนส่งทางทะเลให้ใบรับรองว่า อู่เจ้าพระยาชิพยาร์ดมีความสามารถที่จะรับซ่อมเรือของรัสเซียลำอื่น ๆ ได้ นั่นคือที่มาของความสัมพันธ์ระหว่างเชิดชัยกับซูโดเอ็กซปอร์ตซึ่งกลายเป็นการดำเนินธุรกิจร่วมกันในรูปแบบอื่น ๆ ต่อมา

เชิดชัยตั้งบริษัทไทยอินเตอร์ชิพยาร์ดเพื่อมุ่งหน้าสู่แหลมฉบังสร้างอู่ซ่อมเรือขนาดใหญ่ ซึ่งลูกค้าที่สัญญาจะส่งเรือเดินสมุทรมาซ่อมแน่ ๆ คือเรือจากซูโดเอ็กซปอร์ตประมาณ 8-10 ลำต่อปี และเชิดชัยกำลังวางแผนตั้งโรงงานประกอบเรือฮูเวอร์คราฟท์เรือสะเทิ้นน้ำสะเทินบกร่วมกับซูโดเอ็กซปอร์ตในไทยอีกไม่ช้านี้

แต่ธุรกิตที่เชิดชัยกำลังทุ่มเททุ่มใจลงมือทำจริง ๆ ขณะนี้ และเป็นที่ฮือฮาก็คือเชิดชัยในนามบริษัทไทยอินเตอร์ทรานสปอร์ต จำกัดกำลังจะพลิกโฉมหน้าเส้นทางการเดินทางโดยทะเลในไทยเสียใหม่โดยการนำเรือไฮโดรฟอยล์จากรัสเซียเข้ามาวิ่งในต้นเดือนธันวาคมนี้

เรือไฮโดรฟอยล์นี้จัดว่าเป็นเรือที่มีสมรรถนะสูงสุดประเภทหนึ่ง มีความเร็วสูงประมาณ 35 นอต หรือ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บางครั้งวิ่งได้ถึง 50 นอต และเนื่องจากเวลาวิ่งตัวเรือจะถูกยกให้สูงเหนือน้ำประมาณ 2 เมตรโอกาสที่เรือจะประสบอุบัติเหตุด้วยแรงคลื่นหรือทำให้คนในเรือรู้สึกเมาคลื่นจึงไม่มี แม้คนไทยจะคุ้นกับชื่อเรือไฮโดรฟอยล์มานานแล้ว แต่ก็ไม่มีโอกาสได้สัมผัสเพราะความที่เรือแต่ละลำมีราคาสูงมากไม่ต่ำกว่า 65 ล้านบาทการลงทุนเพื่อธุรกิจนี้จึงเสี่ยงไม่น้อยเพราะต้องลงทุนในเรื่องอื่น ๆ เช่น ท่าเทียบเรือประกอบกันเข้าไปด้วย แต่เชิดชัยก็ตัดสินใจแล้ว ที่จะลงทุน

แต่เดิมเชิดชัยสั่งต่อเรือไฮโดรฟอยล์จากรัสเซียจำนวน 4 ลำ กำหนดเสร็จปลายปีซึ่งออกจะล่าช้าไปสำหรับเชิดชัย เพราะเท่าที่ประชาสัมพันธ์ไปมีเอเยนต์สั่งจองที่นั่งมามากเชิดชัยก็เลยจะเช่าเรือไฮโดรฟอยล์จากรัสเซียมาวิ่งไปก่อนโดยกำหนดวิ่งเที่ยวแรกในวันที่ 19 ตุลาคม แต่ได้รับการประท้วงจากคนในวงการธุรกิจเรือ โดยอ้างว่า เชิดชัยใช้อภิสิทธิ์จะหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าเรือ โดยใช้เส้นทางเอนก ทังสุวรรณ รมช.คมนาคม พรรคชาติไทยและกล่าวหาว่าเปิดโอกาสให้เรือรัสเซียมาวิ่งหากินในไทยเพราะเรือที่เชิ่ดชัยเช่ามายังจะต้องติดธงรัสเซีย เรื่องมีทีท่าว่าบานปลาย เชิ่ดชัยก็เลยตัดสินใจบอกเลิกกำหนดการดังกล่าวแล้วไปเร่งเรือที่เชิดชัยสั่งต่อเอง โดยตรงและเลื่อนไปวิ่งเป็นทางการในราวต้นเดือนธันวาคมนี้

เส้นทางที่เชิดชัยกำหนดสำหรับเรือไฮโดรฟอยล์ก็คือกรุงเทพฯ - พัทยา - สมุย - สงขลา ค่าโดยสารตลอดเส้นทาง 1,250 บาท ใช้เวลาในการเดินทางทั้งสิ้นประมาณ 7 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับการเดินทางโดยรถโดยการสารปรับอากาศจะพบว่า เรือไฮโดรฟอยล์เร็วกว่าประมาณ 7 ชั่วโมงแต่ค่าโดยสารแพงกว่าประมาณ 3 เท่า ขณะที่เมื่อเปรียบเทียบกับการเดินทางโดยเครื่องบินจะพบว่า เรือไฮโดรฟอยล์ใช้เวลามากกว่า 6 ชั่วโมง เพราะต้องแวะพัทยา สมุย แต่อัตราค่าโดยสารถูกกว่า 600 บาท แต่สิ่งที่ผู้โดยสารเชื่อมั่นได้คือความเพลิดเพลินและความปลอดภัยมีมากกว่าอย่างแน่นอนอีกทั้งเป็นของใหม่สำหรับคนไทย ซึ่งความตื่นตาตื่นใจย่อมมีมากกว่าปกติ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย สิงคโปร์ที่จะเดินทางเข้าพัทยาก็จะเป็นกลุ่มเป้าหมายใหญ่ที่จะละเลยไปเสียไม่ได้ และนั่นคือจุดขายที่เชิดชัยมั่นใจมากกว่า การลงทุนไปกับเรือ 4 ลำเป็นเงิน 260 ล้านบาท และค่าลงทุนท่าเทียบเรืออีกหลายสิบล้านบาทย่อมจะต้องคุ้มค่าอยางแน่นอนในระยะยาว

ยิ่งไปกว่านั้น ความลับของเชิดชัยก็คือ ทางซูโดเอ็กซปอร์ตให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่เชิดชัยอย่างมากมายโดยการหาแหล่งเงินกู้ให้ในอัตราดอกเบี้ยเพียง 7% ปลอดหนี้ 2 ปี ระยะเวลาชำระ 5 ปี ซึ่งเชิดชัยกล่าวกับ "ผู้จัดการ" ว่าเป็นเงื่อนไขที่ดีมาก ๆ และเป็นโอกาสที่เขาควรจะคว้าเอาไว้

เรือทั้งที่ลำที่เขาสั่งต่อมาเป็นการเฉพาะนั้น เขาจะตั้งชื่อว่าเรือ "เทพศิรินทร์ 1-2-3-4" ซึ่งเชิดชัยกล่าวว่า ตั้งชื่อตามสถาบันที่เขาจบการศึกษาซึ่เป็นที่เดียวกับท่านพลเอกชาติชาย ชุณหวัณและพลตำรวจเอกประมาณ อดิเรกสาร

ความสำคัญของการเดินทางโดยสารเรือไฮโดรฟอยล์เส้นทางกรุงเทพฯ-สงขลานี้ โดยตัวแล้วหลายคนมุ่งสนใจไปที่ "เรือไฮโดรฟอยล์" เพราะเป็นความแปลกใหม่ แต่จริง ๆ แล้ว ในอนาคตการเดินทางขนส่งเช่นนี้จะเป็นเส้นทางที่จะได้รับความนิยมได้อย่างไม่ยากเย็น และจะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวสำหรับบรรดารถทัวร์และเครื่องบินโดยเฉพาะกับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักท่องเที่ยว ผู้มีรายได้สูงและชนชั้นกลางเพราะเมื่อเทียบความสะดวก ปลอดภัยและความเพลิดเพลินแล้ว เส้นทางสายนี้เป็นเส้นทางที่น่าพิสมัยไม่น้อย

ถ้าหากเป็นเช่นนี้ "ผู้จัดการ" คาดหมายจริง เชิดชัยก็จะได้รับโชคดีถึงสองต่อคือได้รับแรงสนับสนุนจากเพื่อนเช่นซูโดเอ็กซปอร์ตอย่างมีน้ำจิตน้ำใจแบบที่ยากนักคนอื่นจะหาได้ และยังอาจได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้บุกเบิกเส้นทางการเดินทางแบบ "ด่วนทะเล" ที่ใคร ๆ ต้องจับตาด้วยความอิจฉาอีกด้วย

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us