|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ฮานส์ แวน เดอ นอร์ดา ประธานกรรมการบริหารฝ่ายการจัดการการลงทุนและประกันภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ต้องเดินสายเพื่อชี้แจงทิศทางธุรกิจของกลุ่มไอเอ็นจีหลังจากที่รัฐบาลกลางเนเธอร์แลนด์นำเงินจำนวน 1 หมื่นล้านยูโร เข้ามาเสริมสภาพคล่องเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หลังจากได้รับผลกระทบวิกฤติเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา
นอร์ดา บอกว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาได้รับคำถามมากมายจากผู้สื่อข่าวทั่วโลกเกี่ยวกับเงินทุนที่ได้รับมาจากรัฐบาลว่าจะนำไปทำอะไร
เขาบอกว่าเงินช่วยเหลือส่วนหนึ่งจะถูกนำไปขยายธุรกิจที่มีโอกาสและไอเอ็นจีกรุ๊ปมีเป้าหมายเลือกลงทุนในกลุ่มละตินอเมริกา ประเทศเกิดใหม่ และเอเชียแปซิฟิก
กลุ่มภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะ ประเทศจีน อินเดีย และไทย เป็นกลุ่มที่ไอเอ็นจีค่อนข้างให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการเงินของสหรัฐอเมริกาน้อย
จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ประธานกรรมการบริหารไอเอ็นจีกรุ๊ปต้องเดินทางมาเมืองไทยเป็นเวลา 2 วัน (ระหว่างวันที่ 12-13 พฤศจิกายน) ชี้แจงต่อผู้บริหารและทีมงานคนไทยอีก 400 คน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและยืนยันว่าไอเอ็นจีจะยังลงทุนในประเทศไทยต่อไป
นอร์ดาเดินทางไปพบกับบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารทหารไทย เพื่อยืนยันถึงความแข็งแรงของไอเอ็นจี แต่เขาไม่ได้เปิดเผยว่าได้คุยอะไรบ้าง
ธุรกิจของไอเอ็นจีที่อยู่ในประเทศไทยมี 3 ธุรกิจหลัก บริษัทไอเอ็นจีประกันชีวิต บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนประเทศไทย และธุรกิจธนาคารพาณิชย์ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ธนาคารทหารไทยจำนวน 24.6%
การขยายธุรกิจของไอเอ็นจีในไทยที่มีอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มก่อตั้งบริษัทประกันชีวิตเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา และขยายธุรกิจบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จวบจนกระทั่งธนาคารทหารไทยตัดสินใจเปิดทางให้ไอเอ็นจีกรุ๊ปเข้าถือหุ้นในธนาคารเมื่อปีที่ผ่านมา
จึงเห็นได้ว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์การทำธุรกิจของไอเอ็นจีที่จะสร้างรายได้และผลกำไรในระยะยาว
ในวันแถลงข่าวพบปะสื่อมวลชนไทย นอร์ดาบอกว่าเขาพึงพอใจการเติบโตของธุรกิจประกันชีวิตที่ขายบริการผ่านธนาคารทหารไทยโตถึง 20% จากเดิม 0% ในขณะที่บลจ.ไอเอ็นจี ประเทศไทย โต 15% และมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวมทั้งสิ้น (ณ กันยายน 2551) ประมาณ 202,296 ล้านบาท ในตั้งเป้าหมายไว้ในปี 2552 จะเติบโต 244,000 ล้านบาท
ในบรรยากาศงานแถลงข่าว (13 พฤศจิกายน) บนชั้น 25 อาคารเลอคองคอร์ด บนถนนรัชดาภิเษก ไม่ใช่มีแต่เพียงผู้สื่อข่าวเท่านั้น แต่ได้มีพนักงานและตัวแทนขายประกันชีวิตจำนวนหนึ่งของไอเอ็นจีเข้าร่วมรับฟังกว่า 50 คน เพื่อร่วมรับฟังทิศทางธุรกิจของไอเอ็นจีในประเทศไทย
การทำธุรกิจในปีหน้าของไอเอ็นจีจะระมัดระวังมากขึ้นโดยเฉพาะในธุรกิจของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจะเน้นออกตราสารหนี้ระยะสั้นและชะลอการลงทุนในตลาดทุนในปีหน้าเนื่องจากเห็นว่ายังมีความเสี่ยง
กลยุทธ์การทำตลาดของไอเอ็นจีที่จะเห็นในปีหน้าจะเน้นรวมผลิตภัณฑ์ของบริษัทในเครือมาสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น Unit Link เป็นการรวมผลิตภัณฑ์ของประกันชีวิตและบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่คุ้มครองชีวิตและลงทุนได้พร้อมๆ กัน และเป็นผลิตภัณฑ์ที่จะเห็นในกลางปีหน้า
ไอเอ็นจียืนยันขันแข็งและมองว่าวิกฤติการเงินที่เกิดขึ้นเป็นโอกาสสำหรับไอเอ็นจี
หากมองย้อนการเข้ามาของไอเอ็นจีในประเทศไทยจะพบว่าเข้ามาในช่วงวิกฤติทุกครั้ง เริ่มตั้งแต่วิกฤติต้มยำกุ้งจวบกระทั่งล่าสุดเข้าไปลงทุนในธนาคารไทยที่อยู่ในภาวะแย่ที่สุดเมื่อปีที่ผ่านมา
ไอเอ็นจีได้ลงทุนธุรกิจในเมืองไทยไปแล้วราว 600 ล้านยูโร และเชื่อว่าการเมือง เศรษฐกิจของประเทศไทยในระยะยาวไม่มีปัญหา
สิ่งที่ไอเอ็นจีบอกว่าวิกฤติจะเป็นโอกาสสำหรับองค์กร หรือ “โอกาส” จะกลายเป็นวิกฤติ ยังไม่มีบทสรุปชัดเจนเพราะในโลกของธุรกิจไม่มีอะไรที่แน่นอน
|
|
|
|
|